จากคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญในพื้นที่เกาะสมุย คนร้ายก่อเหตุข่มขืนฆ่าน.ส.เอ (นามสมมติ) เภสัชกรสาวร้านขายยาในเกาะสมุย เสียชีวิตคาห้องเช่า หลังก่อเหตุคนร้ายหลบหนีพร้อมกับขโมยนำเอาทรัพย์สินของผู้ตายติดตัวไปด้วย อาทิ โทรศัพท์มือถือไอโฟน 4s สร้อยคอทองคำ และพระเลี่ยมทอง ด้านทีมสืบสวนสอบสวน ภาค 8 ลงพื้นที่เกาะสมุยติดตามแกะรอยคนร้ายที่ก่อเหตุ เบื้องต้นตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนใกล้ชิด หรือแรงงานต่างด้าวที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 10 ก.ค. พล.ต.ต.วีรศักดิ์ มีนะวาณิชย์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ภาค 8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สำราญ มาเจริญ ผกก.สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.พงษ์ขจร สุกกะสังข์ สารวัตรเวร ร.ต.อ.หญิงเนตรทราย วงศ์พรบ รอง สว.กองพิสุูจน์หลักฐานภาค8 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ สืบหาข้อมูลเพื่อติดตามคนร้ายที่บุกเข้าห้องพักของน.ส.เอ เภสัชกรสาว
จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า น.ส.เอ อายุ 24 ปี เป็นชาวจ.สุราษฎร์ธานี เพิ่งเรียนจบการศึกษามาจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ได้รับเกียรตินิยม และมาทำงานเป็นเภสัชกรที่ร้านขายยาแห่งหนึ่งในเกาะสมุย ประมาณ 4 เดือน และมาเช่าห้องพักอยู่ในย่านซอยเขาพระ ต.บ่อผุด เพียงลำพัง จนกระทั่งวันเกิดเหตุ ซึ่งเป็นวันหยุดงานประจำสัปดาห์ของน.ส.เอ และมีคนพบเห็นว่าผู้ตายกลับเข้าห้องพักมาตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วก็เงียบหายไป จนวันรุ่งขึ้นเพื่อนร่วมงานทราบว่าผู้ตายไม่มาทำงาน จึงพยายามติดต่อทางโทรศัพท์แต่ว่าติดต่อไม่ได้ จึงเข้ามาดูยังที่พัก พบว่ารถยนต์ของผู้ตายยังจอดอยู่หน้าห้องพัก แต่ประตูด้านหน้าถูกล็อกกุญแจไว้ จึงมองผ่านทางหน้าต่างบานเกร็ด กระทั่งพบว่าน.ส.เอ นอนอยู่ในสภาพเปลือยท่อนล่าง มีเลือดนองอยู่เต็มพื้น จึงรีบแจ้งตำรวจ
ตรวจสอบสภาพภายในห้องพัก พบว่าข้าวของถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ผู้ตายอยู่ในสภาพนอนหงายบนเบาะนอนหน้าประตูห้อง สวมเสื้อเสื้อยืดคอกลมสีเหลือง ท่อนล่างเปลือย และตามร่างกายของผู้เสียชีวิตพบว่าคนร้ายใช้ของมีคมแทงที่ลำคอ 2 แผล เชือดที่ลำคอ1 แผล และใช้สายกระเป๋าสะพายรัดที่คอ และพบร่องรอยการถูกข่มขืน คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วกว่า 10 ชั่วโมง
แนวทางสอบสวนเบื้องต้น ตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะรู้จักกับผู้ตาย เพราะสามารถเข้านอกออกในห้องได้ ก่อนเกิดเหตุผู้ตายอาจอยู่ในห้องพักตามลำพัง คนร้ายเข้ามาเคาะประตูและเปิดประตูให้คนร้ายเข้ามา ก่อนที่คนร้ายฉวยโอกาศลงมือข่มขืน แต่ผู้ตายขัดขืน จึงถูกคนร้ายใช้สายสะพายกระเป๋ารัดคอ และใช้ของมีคมแทงจนเสียชีวิต ก่อนที่คนร้าย จะคว้าทรัพย์สินผู้ตายติดมือไปด้วยเพื่ออำพรางคดี
ล่าสุดเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานภาค 8 เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุวันนี้ พร้อมเก็บหลักฐาน เช่น ลายนิ้วมือแฝง และตรวจสอบบริเวณหลังบ้านในป่าละเมาะที่สงสัยว่าคนร้ายจะใช้เป็นทางหลบหนี
ด้านพล.ต.ต.วีรศักดิ์ผบก.สส.ภาค8เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน คนร้ายก่อเหตุด้วยความเหี้ยมโหด ตำรวจในฐานะผู้ปฎิบัติงานต้องล่าตัวคนร้ายมาให้ได้ภายใน 2-3 วัน แต่ตอนนี้ทางตำรวจยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดต่างๆได้ เพราะจะเสียรูปคดี สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุคาดว่าเป็นคนที่รู้จักกับผู้ตายอย่างแน่นอน หลังลงมือข่มขืนแล้วได้ฆ่าปิดปากเพราะกลัวว่าผู้ตายจำหน้าได้ จากนั้นนำทรัพย์สินของผู้ตายติดมือไปบางส่วนเพื่อที่อำพรางคดี แต่ก็ไม่ได้ตัดประเด็นแรงงานต่างด้าว
ผู้สื่อข่าวแจ้งว่า นายสัก (นามสมมติ) อายุ 43 ปี บิดาของผู้ตาย เดินทางมาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่หาหลักฐานในที่เกิดเหตุ และบอกกับผู้สื่อข่าวว่าหลังทราบข่าวก็แทบช็อก แต่เช้าวันนี้ทำใจได้แล้วเพราะคิดว่าคนเราทำบุญมาเพียงแค่นี้ แต่อยากจะฝากไปถึงคนร้ายว่าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเขาหรือญาติพี่น้องของเขาจะรู้สึกอย่างไร ขอให้เลิกพฤติกรรมแบบนี้เสียและให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ