ชาร์ลส์ "ลัคกี้" ลูเชียโน่ หัวหน้ามาเฟียของนครนิวยอร์ก (พ.ศ. 2440 - 2505)
เมื่อ เร็วๆนี้ คำว่า มาเฟีย ได้กลายมาเป็นคำที่ชาวไทยเราได้ยินกันจนชินหู หลังจากมีข่าวเกี่ยวกับ มาเฟียโบ๊เบ๊ รวมไปถึงมาเฟียในอีกหลายแห่งทั่วประเทศไทยเรา กระนั้น เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่อาจจะยังไม่รู้แน่ชัด ถึงที่มาของคำที่ฟังดูช่างดูทรงอำนาจและน่ากลัวอย่าง มาเฟีย และวันนี้คอลัมน์ WEST ของเราก็จะพาคุณผู้อ่านไปร่วมผจญภัยในโลกแห่งมาเฟียกัน
มาเฟีย ชื่อนี้มีที่มา
มาเฟีย โดยดั้งเดิมแล้ว คือชื่อเรียกของกลุ่มพันธมิตรแบบหลวมๆในซีชีลี ซึ่งในยุคกลางพวกเขาได้รวมพลังกันเพื่อต่อต้านชาวเติร์กและชาวนอร์มัน จนในภายหลังได้กลายเป็นชื่อเรียกองค์กรลับต่างๆในอิตาลี สำหรับที่มาของคำว่า มาเฟียนั้น ยังคงไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร เนื่องจากมีเรื่องเล่าถึงที่มาที่หลากหลายแตกต่างกันไปเหลือเกิน โดยความเชื่อแรกนั้นว่ากันว่า มาเฟีย มีที่มาจากคำคุณศัพท์คำว่า Mafiosoในภาษาอิตาลีซึ่งใช้เรียกสมาชิกในกลุ่มอิทธิพล โดย Mafioso มีความหมายว่า ชายแห่งเกียรติยศ เริ่มใช้กันในศตวรรษที่ 18 โดยเดิมทีนั้น คำว่า มาเฟียเป็นคำที่มีความหมายแสดงถึง ความสวยงาม ความยอดเยี่ยม และความสมบูรณ์แบบ ก่อนที่จะกลายเป็นคำที่หมายถึงองค์กรอาชญากรรมอย่างในปัจจุบัน
นอก จากนั้น ยังมีการสันนิษฐานกันว่า มาเฟีย อาจจะมาจากคำขวัญที่ว่า Morte alla Francia Italia anela ที่มีใจความว่า ความตายของคนฝรั่งเศสคือการร่ำไห้แห่งอิตาลี โดยเป็นการนำอักษรตัวแรกของแต่ละคำมารวมไว้เข้าด้วยกัน ซึ่งผู้ที่อ้างถึงที่มาอันนี้ก็คือ อดีตเจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ในสหรัฐฯ ดอน โยเซฟ โบนันโน ผู้ที่เล่าว่าคำขวัญดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปี 1282 เมื่อชาวซีชีลีได้ลุกฮือต่อต้านฝรั่งเศส
โบนันโนเล่าว่า ในตอนนั้นมีทหารฝรั่งเศสคนหนึ่งไปข่มขืนเด็กสาวชาวซิซิลี และเมื่อแม่ของเด็กรู้เรื่องเข้า จึงวิ่งออกไปบนถนนในเมืองปาเลร์โม พร้อมกับร่ำไห้เป็นภาษาอิตาลีว่า ma fia ซึ่งมีความหมายว่า ลูกสาวของฉัน ด้วยเหตุนี้ บรรดาชายหนุ่มในเมืองปาเลร์โมจึงรุมสังหารทหารฝรั่งเศสนายนั้นเพื่อล้างแค้น
ส่วน ที่มาสุดท้ายก็คือ ทฤษฎีที่มีความเก่าแก่มากที่สุด โดยแนวความคิดนี้เชื่อกันว่า มาเฟียเเพี้ยนเสียงจากคำในภาษาอาหรับที่ว่า mu afah โดย mu มีความหมายว่า ความแข็งแรง หรือเครื่องป้องกัน ส่วน afah มีความหมายว่า คุ้มครอง หรือป้องกัน เมื่อรวมกันแล้วจึงเป็นคำที่สื่อถึงความหมายในการให้ความคุ้มครองแก่บรรดา สมาชิก เพราะในศตวรรษที่ 9 นั้น ซีชีลีอยู่ภายใต้การปกครองครองของกองกำลังอาหรับที่กดขี่ และชาวซีชีลีจึงจำต้องเข้าไปหลบตามเขา ต่อมา ชาวซีชีลีจึงได้รวมตัวกันจัดตั้งองค์กรลับขึ้น
อิตาลี แหล่งกำเนิดมาเฟีย
ใน อิตาลีอันเป็นต้นกำเนิดของมาเฟียนั้น กลุ่มองค์กรอาชญากรรมอย่างมาเฟียได้ปรากฏอยู่มาเป็นเวลานานหลายศตวรรษแล้ว แต่จะแตกต่างกันไปตามท้องที่และยุคสมัย จนกระทั่งถึงช่วงทศวรรษที่ 1950 มาเฟียที่เคยมีฐานอยู่ตามชนบทได้กระจายตัวออกไปตามเมืองใหญ่ต่างๆ ก่อนจะกลายมาเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ประกอบธุรกิจมืดต่างๆ เช่น การค้ายาเสพติด และค้าโสเภณี และมาเฟียในแบบฉบับของอิตาลีนั้น จะทำกันเป็นครอบครัวหรือเครือญาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเกาะซีชีลี ของอิตาลี และเมืองใหญ่อื่นๆในอิตาลี
กระนั้น ในช่วงที่อิตาลีอยู่ใต้การปกครองระบอบเผด็จการฟาสซิสต์นั้น เซซาร์ โมรี ผู้ปกครองเมืองปาเลร์โมก็ได้ใช้กำลังปราบบรรดามาเฟีย จนทำให้บรรดาสมาชิกมาเฟียถูกคุมขัง บ้างก็หนีออกไปนอกประเทศ โดยส่วนใหญ่หนีไปที่สหรัฐฯ และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐฯยกกำลังบุกอิตาลีและเกาะซีชีลีเมื่อปี 1943 นั้น สหรัฐฯเองก็ได้ใช้ประโยชน์จากบรรดามาเฟียที่ถูกขังคุกอยู่ในสหรัฐฯในการช่วย เบิกทาง และภายหลังจากชนะสงคราม บรรดามาเฟียเหล่านี้ก็ได้รับการตอบแทนจากสหรัฐฯด้วยการส่งตัวกลับประเทศ และกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลในยุคหลังเผด็จการ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงทศวรรษที่ 1980 และ 1990 นั้น ได้เกิดการต่อสู้ฆ่าฟันกันระหว่างกลุ่มต่างๆอยู่บ่อยครั้ง ทำให้บรรดามาเฟียที่มีชื่อเสียงถูกสังหารไปเป็นจำนวนมาก และเมื่อมาเฟียรุ่นเก่าจากไป มาเฟียรุ่นใหม่จึงเกิดขึ้นตามมา มาเฟียในรุ่นหลังนี้มักจะเป็นกลุ่มระดับ พนักงานคอปกขาว (White collar) แทน จนสื่อในอิตาลีได้พากันเรียกมาเฟียยุคใหม่นี้ว่า La Cosa Nuova ที่มีความหมายว่า สิ่งใหม่
ล่าสุด จากการเปิดเผยขององค์การค้าชั้นนำในอิตาลีนั้นระบุว่า 20 % ของธุรกิจทั้งหมดในอิตาลีนั้น ถูกควบคุมโดยมาเฟีย และมีผลตอบแทนต่อปีสูงถึง 133,000,000,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ของ ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GNP) โดยบรรดามาเฟียจะเอาผลกำไรที่ได้มานี้ ไปลงทุนต่อในธุรกิจเกี่ยวกับ อสังหาริมทรัพย์ คลินิก บ้านพักคนชรา ซูเปอร์มาร์เกต โรงแรม และร้านอาหาร
มาเฟียในอิตาลีนั้นขึ้นชื่อใน เรื่องของการเข้าไปมีอิทธิพลในสถาบันการเมือง และข้าราชการต่างๆ ด้วยการติดสินบนผสมกับการสร้างความกลัวให้เกิดขึ้น ซึ่งผู้ที่ไม่ยอมตอบสนองความต้องการของมาเฟียก็มักจะจบชีวิตลง เช่น เมื่อปี 1992 ผู้พิพากษา เปาโล บอร์เซลลีโน และอัยการ จิโอวานนี ฟัลคอน ก็ถูกสังหาร โดยที่ทั้งสองคนต่างเป็นผู้ที่ต่อต้านมาเฟีย
บทสรุปแห่ง มาเฟีย
ปัจจุบัน นี้ มาเฟีย ไม่ได้อยู่แต่เพียงในอิตาลีเท่านั้น แต่อยู่ในหลายๆประเทศทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่สหรัฐฯที่เป็นเป้าหมายของบรรดามาเฟียที่หลบหนีออกจากอิตาลี ในช่วงที่ถูกรัฐบาลเผด็จการกวาดล้างอย่างหนัก และจากวันนั้นจนถึงวันนี้มาเฟียอิตาลียังคงฝังตัวอยู่ทั่วสหรัฐฯโดยเฉพาะใน นครนิวยอร์กและชิคาโก โดยผ่านทั้งช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์และตกต่ำ
กระนั้น ในอีกมุมหนึ่ง ปัจจุบันมาเฟียหาได้หมายถึงกลุ่มอาชญากรจากอิตาลีเท่านั้นเพราะเรานิยมเรียก กลุ่มอาชญากรขนาดใหญ่ทั่วไปว่ามาเฟียด้วยเช่นกัน เช่น มาเฟียรัสเซีย มาเฟียฮ่องกง มาเฟียโบ๊เบ๊ หรือแม้แต่กลุ่มมาเฟียตามโรงเรียนต่างๆทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ เราอาจจะกล่าวได้ว่า มาเฟียนั้นได้แทรกซึมตัวอยู่ในทุกหนทุกแห่ง แต่หากจะถามว่าต้นฉบับของมาเฟียนั้นมาจากที่ใด ก็คงจะตอบได้ว่าคือ มาเฟียแห่งเกาะซีชีลีของอิตาลีนั้นเอง
บัญญัติ 10 ประการของสมาชิกแก๊งมาเฟียอิตาลี มีดังนี้
1.ไม่มีใครสามารถติดต่อพบปะตัวสมาชิกแก๊งโดยตรงได้ ต้องให้บุคคลที่สามเป็นผู้นำผู้ที่ต้องการเข้าพบมาเจอกับสมาชิกแก๊งเสมอ
2. ห้ามมองภรรยาของเพื่อนสมาชิก
3. ห้ามมีความสัมพันธ์กับตำรวจ
4. ห้ามไปผับและคลับบันเทิง
5. ต้องเตรียมพร้อมเสมอสำหรับการทำหน้าที่ แม้ว่าภรรยาใกล้จะคลอดลูก
6. ต้องไปตรงเวลานัดทุกครั้ง
7. ต้องปฏิบัติต่อภรรยาด้วยการให้เกียรติ
8. เมื่อถูกถาม ต้องตอบความจริงเท่านั้น
9. ไม่ควรใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย หากเงินนั้นเป็นของเพื่อนสมาชิกหรือเป็นของครอบครัวเพื่อนสมาชิก
10.บุคคล ที่ไม่สามารถร่วมแก๊ง ได้แก่ ผู้ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตำรวจ ผู้ที่ประพฤติตัวแย่และไม่เคารพศีลธรรม และผู้ที่มีญาติซึ่งคบชู้สู่ชายในครอบครัว"