2NE1 มักจะเป็นวงที่มีความกล้าหาญอยู่เสมอ ไม่ว่าจะความงามของรูปลักษณ์ หรือ เสียงเพลง สมาชิกทั้ง 4 สาวไม่สามารถหยุดได้ แม้ว่าจะมาถึงกรอบ, แฟชั่นอันเยี่ยม และ เพลงที่ทำในแบบฉบับของพวกเธอเอง.
เพียง 3 ปีที่ผ่านมา สาวๆเหล่านี้ได้ถูกแนะนำสู่วงการเพลง จากที่ตอนนั้นเป็นกระแสของคอนเซ็ปแห่งความน่ารัก และ เซ็กซี่จากหลายๆบริษัท 2NE1 จึงโดดเด่น และ แตกต่างจากวงอื่นๆ
สาวๆพยายามอย่างหนักเพื่อแสดงให้เห็นว่าเกิร์ลกรุ๊ปไม่จำเป็นต้องมีกลุ่มเป้าหมายผู้ฟังเป็นผู้ชาย ซึ่งนั่นเป็นข้อความแห่งอิสรภาพ และ พลัง ที่ส่งต่อให้แก่ผู้ฟัง แต่สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดคือ พวกเธออยากแสดงให้เห็นว่าเกิร์ลกรุ๊ปอย่างพวกเธอนั้นนั้นสามารถเป็นได้มากกว่าเกิร์ลกรุ๊ป K-POP ธรรมดาทั่วๆไป: พวกเธออยากจะโดดเด่นออกมา
ถ้ากล่าวถึงฮิปฮอปเป็นประเด็นหลักแล้ว เพลงของ 2NE1 ก็มีการเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเพลงแนวบัลลาดช้าๆ “It Hurts” จนถึงเพลงแนวคลับ “I Am the Best” สาวๆได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับความท้าทายครั้งใหม่ที่จะสร้างสรรค์ตัวเองกับภาพลักษณ์ และ แนวดนตรีใหม่อีกครั้ง
เพลง “I Love You” เป็นอีกขั้นของ 2NE1 โดยโปรดิวเซอร์ Teddy Park ได้กล่าวว่าเพลงนี้มีขั้นตอนการทำที่ยาวนานกว่าจะได้ออกมาให้ฟังกัน
“เพลงนี้ ในตอนแรกให้ความรู้สึก ‘ทรอท’ หนักมาก ถ้าหากคุณเปรียบเทียบกับตอนต้นเพลง คุณจะบอกไม่ได้เลยว่ามันคือเพลงเดียวกัน” ลีดเดอร์ CL กล่าว “เราได้ปรับเปลี่ยนมัน เพราะว่าจะได้โอเคขึ้นเมื่อเปิดในวิทยุ”
อย่างไรก็ตาม เพลงของสาวๆก็ยังฟังดูอินเตอร์อยู่ดี “คือ เราเรียกมันว่าเป็นลูกครึ่งอิเล็กโทรป็อปค่ะ” CL กล่าวต่อ “เพลงนี้อาจจะเข้ากับผู้ฟังชาวญี่ปุ่น เพราะมีส่วนผสมของดนตรีแนว ‘เอ็งกะ’ เข้าไปด้วย แฟนๆชาวต่างชาติอาจจะรู้สึกว่าดนตรีของเพลงนี้จะเป็นอะไรที่ใหม่และทำให้รู้สึกสดชื่นค่ะ”
สำหรับ 2NE1 เพลงใหม่นี้ยังมีแรงจูงใจสำคัญอีกอย่าง คืน เป็นการก้าวออกนอกกรอบของดนตรี และ แฟชั่น สาวๆอยากจะแสดงให้แฟนๆชาวต่างชาติเห็นถึงรสชาติของวัฒนธรรมเกาหลีสักเล็กน้อย จากทั้งชุดฮันบกร่วมสมัย และ การเต้นซัมโกมู ในเพลง “I Am The Best” ครั้งนี้พวกเธอก็ได้ใส่ความเป็นเกาหลีลงในการแสดง และ วิดีโอเช่นกัน
สำหรับ 2NE1 แล้ว ภาพลักษณ์ภายนอกก็สำคัญไม่แพ้เรื่องเพลง เพลงใหม่ในความหมายของพวกเธอ หมายถึงการแปลงโฉม และ อย่างที่คาดไว้ 2NE1 ได้ก้าวไปข้างหน้าอีกขั้น ทั้งตื่นเต้น และ แน่นอน ตื่นตากับภาพลักษณ์ที่ต้องทึ่ง สมาชิก ดาร่า กับผมทรง “โกนครึ่งหัว” ของเธอ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ไม่ปกติเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับวงเกิร์ลกรุ๊ป ที่ผ่านมาดาร่ามักจะเป็นสมาชิกที่ได้ทดลอง และ ทำผมแปลกๆ
“ฉันคิดว่าฉันอยากจะทำลุคที่แตกต่างเรื่อยๆ เอาตามตรงเลยนะคะ ฉันคิดว่าฉันขาดเสน่ห์และความดึงดูดเหมือนที่สมาชิกคนอื่นๆมี” ดาร่าสารภาพ “ฉันได้รับความมั่นใจมากขึ้นในฐานะนักแสดงเมื่อฉันออกไปพร้อมกับทรงผมหลุดโลกเหล่านั้น”
“ฉันไม่รู้ว่าทรงผมโกนครึ่งหัวของฉันนั้นช็อคมากพอหรือยัง” ดาร่ากล่าวต่อพร้อมหัวเราะ “ฉันคิดว่าฉันเข้มแข็งขึ้นเลยหล่ะค่ะ!”
เช่นเดียวกันกับวงจรการโปรโมทของ 2NE1 ในอดีต พวกเธอจะโปรโมทหลายเพลงอีกครั้ง โดยจะโปรโมททีละ 1 เพลงเพื่อสนับสนุนยอดขาย เพลง “I Love You” นั้นจะนำเสนอสำหรับคนรักเพลงป็อปโดยเฉพาะ ขณะเดียวกัน พวกเธอจะออกเพลงสำหรับแฟนๆที่รักฮิปฮอปด้วยเช่นกัน
ปี 2012 สำหรับ 2NE1 นั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่สดใหม่ พวกเธอจะไม่เพียงโปรโมทในประเทศบ้านเกิดเท่านั้น แต่ยังจะโปรโมทในต่างประเทศเช่นเดียวกัน โดยทางวงเพิ่งจะประกาศเวิร์ลทัวร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี เวิร์ลทัวร์นั้นจะเริ่มแรกที่ Seoul’s Olympic Stadium ซึ่งทัวร์นี้จะไปเยือน 7 ประเทศ การทำโชว์เป็นการร่วมมือกับหลากหลายนักออกแบบท่าเต้นและผู้กำกับ: Travis Payne ที่เคยร่วมงานกับ Michael Jackson และ Divinity Roxx ผู้กำกับเพลงจากทัวร์ของ Beyonce ซึ่งนี่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น “เวลาที่ตื่นเต้นที่สุดสำหรับศิลปินคือเมื่อเริ่มทัวร์ค่ะ” CL กล่าว “ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทำไมศิลปินถึงอยากยืนบนเวทีทั้งนั้น เพราะมันเป็นประสบการณ์ที่วิเศษมากยังไงหล่ะคะ”
อนึ่ง 2NE1 จะออกเพลง “I Love You” เป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษสำหรับแฟนๆชาวต่างชาติโดยเฉพาะ พวกเธอยังให้ความสนใจกับการกลับไปยังตลาดเพลงญี่ปุ่นอีกด้วย “เรารู้สึกว่าเรายังไม่มีโอกาสจะรู้จักแฟนๆชาวต่างชาติมากนัก” 2NE1 กล่าว “หวังว่าเราจะสามารถเปลี่ยนมันไปพร้อมๆกับการเริ่มต้นของทัวร์นะคะ”
“มันไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ‘2NE1 Style’ หรอกค่ะ พวกเราไม่ใช่วงที่ยึดติดกับอะไรแค่อย่างเดียว” CL สรุป “ถ้าลองคิดดูแล้ว มันต้องน่าเบื่อแน่ๆเลย ใช่มั้ยหล่ะคะ? เราจะไม่มีวันหยุดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ พวกเราจะเป็นวงที่ไม่มีขอบเขต ไม่มีข้อจำกัด และ ไม่มีการตอบโต้”