ช่างไม่น่าเชื่อจริงๆ สำหรับชายผู้มีลึงค์ที่ยาวถึง 11 นิ้ว แต่สิ่งที่น่าวิเศษกว่านั้นคือ เขาเป็นผู้ที่ถูกตั้งคำถามว่าเป็น นักบุญ หรือ ซาตาน และเขาผู้นั้นถือว่าเป็นผู้ทำให้ราชวงค์ที่ยิ่งใหญ่ของมหาอาณาจักรต้องสั่น คลอนและล่มสลายเพราะคำสาปแช่งของคนผู้นี้.................กริกอริ รัสปูติน !!
..กริกอริ รัสปูติน เกิดวันที่ 10 ม.ค. 1869 ที่ฝั่งแม่น้ำตูราในเมืองโตบอลส์ก ไซบีเรีย ครอบครัวของเขานั้นเป็นเกษตรกรธรรมดาๆ แต่ด้วยความพิเศษของรัสปูติน นั้นคือเขาเป็นคนที่มีอวัยวะเพศที่ใหญ่และยาวกว่าคนปกติมาก เนื่องด้วยรัสปูตินตอนเด็กเคยถูกโสเภณีล่อลวงไปทำอนาจาร จึงทำให้ชีวิตของเขานั้นต้องพบกับเหล่าโสเภณีและเรื่องเพศมากมายหลายครั้ง จนสุดท้ายเขาก็เริ่มติดใจและชอบในการกระทำดังกล่าว รวมถึงยังภูมิใจในความใหญ่และยาวของลึงค์วิเศษของเขา
.รัสปูติน ได้แต่งงานกับเด็กสาวในท้องถิ่นเดียวกัน ชื่อ ปราสโกเวีย แต่เขาก็ยังคงชอบเที่ยวกับเหล่าโสเภณีอยู่ และจุดเปลี่ยนของเขาอยู่ตรงนี้ คือวันหนึ่งเขาได้ไปร่วมเพศกับเหล่าเด็กชาวท้องถิ่น และเด็กสาวเหล่านั้นชวนให้เขารู้จักกับศาสนานิกายประหลาดที่มีชื่อว่า นิกายคลิสติ โดยกลุ่มศาสนิกชนกลุ่มนี้เป็นผู้ยึดถือใความเชื่อว่ามนุษย์มีบาปมาแต่เริ่ม แรก จึงต้องมีการชำระบาป เขาจึงประกอบพิธีอันพิลึกพิลั่นหลายอย่างเกี่ยวกับความวิตถารในทางกามารมณ์ และการบูชายัญ ผู้คนในบ้านเกิดของรัสปูตินไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมเหล่านี้ จึงขับไล่รัสปูติน เขาจึงได้เดินทางไปทั่วรัสเซียและเผยแพร่ศาสนานิกายคลิสติ โดยอาศัยความพิเศษของอวัยวะเพศของเขา เป็นตัวดึงดูดหญิงสาวในการไถ่บาป โดยเชื่อว่าการไถ่บาปสามารถทำได้ผ่านการปลดปล่อยทางกามารมณ์ และด้วยความวิเศษเหล่านี้รัสปูตินสามารถเป็นเหมือนหมอเทวดาในการรักษาโรค โดยโรคใดที่เห็นว่าไม่มีทางรักษา รัสปูตินผู้นี้สามารถรักษาได้ ขอเพียงมีความเชื่อในศาสนานิกายคลิสติในการไถ่บาปนั้นเอง
จุดสำคัญอยู่ที่ วันหนึ่งเจ้าชายอเล็กซิส บุตรขององค์ราชาซาร์ นิโคลัสที่2 และองค์ราชินีซารีน่า อเล็กซานดรา ได้ล้มป่วยลงเนื่องจากโรคฮีโมฟีเลีย (เลือกไหลไม่หยุด) ไม่มีทางรักษาได้ และด้วยขณะนั้นรัสปูตินได้เข้ามาอยู่ในเซนต์ปีเตอร์เบอร์ก เมืองหลวงรัสเซียในขณะนั้น ชื่อเสียงในการรักษาโรคของรัสปูตินได้เลื่องลือมาถึงหูของราชินีอเล็กซานดรา รัสปูตินจึงได้ถูกรับเชิญเข้ามารักษาองค์ชายอเล็กซิส และด้วยความวิเศษของรัสปูติน เขาได้รักษาองค์ชายจนอาการดีขึ้น ซารีน่า อเล็กซานดร้า ผู้เป็นพระราชมารดาชอบอกชอบใจรัสปูตินเป็นอันมาก รัสปูตินจึงอาศัยอิทธิพลของซารีน่าแผ่อิทธิพลและสร้างเรื่องอื้อฉาวทาง กามารมณ์จนเป็นที่กล่าวขวัญในเมืองหลวง มีสตรีสมัยใหม่ ชนชั้นสูง ภรรยาทหารใหญ่จำนวนมากมายในนครหลวงที่ตกเป็นทาสกามของรัสปูตินอย่างเต็มใจ จนบางครั้งมีข่าวลือว่าซารีน่าก็อาจเป็นหนึ่งในจำนวนผู้หญิงเหล่านั้นด้วย ซึ่งด้วยพฤติกรรมเหล่านี้ สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งกับเหล่าขุนนางชายในราชสำนักเป็นอย่างยิ่ง
..เจ้าชายเฟล็กซ์ ยูสโซปอฟ ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ผู้มั่งคั่งที่สุดองค์หนึ่ง ได้ร่วมมือกับกลุ่มข้าราชบริพานในการสังหารรัสปูติน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถสังหารรัสปูตินได้ ทั้งวางยาพิษ ลอบยิง หลายครั้ง จนวันหนึ่งรัสปูตินได้มีจดหมายถึงราชินีซารีน่า ความหนึ่งว่า"หากกระหม่อมตายด้วยน้ำมือของปุถุชนทั่วไป ราชวงค์โรมานอฟไม่กระทบกระเทือนอันใด และจะเกิดไปอีกเป็น100ปี แต่หากกระหม่อมตายด้วยน้ำมือของเชื้อพระวงศ์องค์ใดก็ตาม พระองค์และครอบครัวจะต้องสิ้นพระชนม์ภายในสองปี จากฝีมือของประชาชนรัสเซีย " ... ซึ่งไม่นานรัสปูติน ก็ถูกสังหารจากการระดมยิงจากเจ้าชายเฟล็กซ์ และพรรคพวก แม้ว่าเขาจะมีความวิเศษเพียงใด เขาก็ต้องล้มตายลง และหลังจากนั้นไม่ถึง3 เดือน กระแสแห่งการปฏิวัติหลั่งไหลเข้ามาสู่นครหลวงของรัสเซีย ขบวนชาวนาและคนงานอุตสาหกรรม ได้มีการประท้วงเกิดขึ้นอย่างท้วนหน้า จนเกิดการสังหารใหญ่จากการสั่งการของซาร์ นิโคลัส ประชาชนจึงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง จึงเกิดการจลาจลวุ่นวาย ชัยชนะของเคอเรนสกี้ผู้นำกลุ่มทหาร และสุดท้ายซาร์ก็จำต้องสละราชบัลลังก์ พระองค์และเชื้อพระวงศ์ถูกควบคุมตัวอย่างแข็งแรง และถูกนำไปกักขังไว้ ณ ไซบีเรียอันห่างไกลและกันดาร โดยยังเชื่อกันว่าเจ้าหญิงผู้งดงาม ไร้เดียงสา และบริสุทธิ์ทั้ง 4 องค์ ก็ไม่รอดพ้นการย่ำยีทางเพศ จากทหารเลว นับเป็นชะตากรรมที่พลิกผันชีวิตอันสูงส่ง ลงมาต่ำสุดอย่างน่าสมเพชยิ่งนัก และหลังจากนั้นมีการสังหารหมู่ราชวงค์โรมานอฟ จนสิ้นวงค์ตระกูล....
...จากชายที่มีลึงค์ยาว 11 นิ้ว มาจนถึงการสิ้นสุดของกษัตริย์ราชวงค์สุดท้ายของรัสเซีย ขึ้นอยู่กับวิจารญาณของท่านทั้งหลายเกี่ยวกับคำสาปของรัสปูติน แต่ที่เป็นการยอมรับโดยทั่วไปว่า รัสปูตินได้สร้างความสั่งคลอนและถือว่าเป็จุดเริ่มต้นของความล่มสลายของราช วงค์โรมานอฟ กษัตริย์ราชวงศ์สุดท้ายของรัสเซีย....
(เพิ่มเติม1 : หลังจากพระเจ้าซาร์ได้สละราชบัลลังค์ มีการ มีการจัดตั้งคณะรัฐบาลเฉพาะกิจเคอเรนสกี้ขึ้นบริหารประเทศ แต่พรรคบอลเชวิค Bolshevik นำโดยวลาดิมีร์ เลนินก็ทำการปฏิวัติยึดอำนาจการบริหารประเทศไว้ได้ โดยการเปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ระบอบคอมมิวนิสต์ พร้อมทั้งประกาศให้ประเทศเป็นสหภาพโซเวียต Union of Soviet Socialist Repubilcs หรือUSSR ปีค.ศ. 1918 ย้านเมืองหลวงและฐานอำนาจกลับสู่มอสโคว์)
(เพิ่ม เติม2 : มีนักประวัติศาสตร์หลายท่านสงสัยว่าเจ้าชายเฟล็กซ์ ยูสซูปอฟ เป็นเกย์ และอิจฉาเหล่าหญิงสาว ที่มีโอกาสได้เชยชมกับอวัยวะเพศอันวิเศษของรัสปูติน เจ้าชายเฟล็กซ์จึงสังหารรัสปูติน และตัดลึงค์เก็บไว้เป็นที่ระลึก)
นิดนึงนะสำหรับอวัยวะที่ถูกตัดทิ้ง
หรับ อวัยวะเพศของรัสปูตินที่ถูกโยนไปนั้น มีเรื่องเล่ากันว่า มีคนรับใช้ผู้ชายได้เก็บ “ สิ่งที่ถูกเหวี่ยงทิ้ง ” ไปให้แก่สาวใช้คนหนึ่ง และปรากฏว่าได้พบตัวสาวใช้ผู้นั้นที่ปารีสในปี พ.ศ. 2511 หล่อนยังเก็บรักษา “ สิ่งที่ดูคล้ายกล้วยหอมซึ่งงอมจัดจนดำไปหมด ” ไว้ในหีบไม้ขัดมัน
และแล้วเจ้าโลกชิ้นนั้นก็ปรากฏ
และนี่เองที่ทำให้รัสปูตินได้มีโอกาส คลุกคลีกับสาวสรรพ์กำนัลในแห่งพระราชวัง จนกลายเป็นข่าวลืออื้อฉาวถึงสัมพันธ์สวาทที่เขามีต่อเหล่านางข้าหลวง ตลอดจนเจ้าหญิง และแม้กระทั่งซารีน่าอเล็กซานดราก็มิได้เว้น!
ยาพิษและกระสุนปืนไม่ระคายเคืองแก่รัสปูติน แต่เขาตายเพราะจมน้ำ!
อเล็กเซย์? วาสิลี?
ในปี ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) รัฐบาลรัสเซียออกคำแถลงการณ์ภายหลังการค้นพบมกุฎราชกุมารอเล็กเซย์กับเจ้าหญิงอนาสตาเซียได้สูญหายไปจากหลุมศพที่ฝังรวมกันอยู่ ซึ่งสอดคล้องกับกระแสข่าวการรอดชีวิตของสมาชิกราชวงศ์โรมานอฟที่มีออกมาเป็น ระยะๆ
ตุลาคม ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ที่เมืองอาสตราคาน นาย "วาสิลี ฟิลาตอฟ" ครูสอนวิชาภูมิศาสตร์ได้เปิดเผยตัวเองต่อหน้าครอบครัวว่า เขาคือ "อเล็กเซย์ โรมานอฟ" มกุฎราชกุมารแห่งราชสำนักรัสเซียผู้รอดชีวิตจากคืนวันสังหาร ด้วยการช่วยเหลือของจากตำรวจ 2 นาย
หากคำบอกเล่าของนายวาสิลีเป็นจริง นั้นแสดงว่ามกุฎราชกุมารรัสเซียมีพระชนมายุ ถึง 84 ปี กระนั้นหรือ? แล้วช่วงเวลา 70 ปี ที่รอดชีวิตนั้นอเล็กเซย์หรือวาสิลีดำเนินชีวิตอย่างไร?
วาสิลีเล่าให้ครอบครัวฟังถึงการรอดชีวิตของเขาว่า "ระหว่างขนย้ายผู้เคราะห์ร้าย...มกุฎราชกุมารอเล็กเซย์ ซึ่งหมดสติอยู่หลังรถพลันตื่นขึ้นจากเม็ดฝนที่โปรยลงบนใบหน้า ท่ามกลางร่างของพ่อแม่พี่น้องที่แน่นิ่งอยู่รอบข้าง เขาสลัดตัวออกจากรถบรรทุกแล้วคลานเข้าไปซ่อนตัวอยู่ใต้สะพานเล็กๆ เมื่อท้องฟ้าสว่างขึ้นเขาก็คลานต่อไปตามทางรถไฟจนกระทั่งถึงสถานนีรถไฟชาร์ทาช พี่น้องตระกูลสเตรโคตินซึ่งได้รับคำสั่งให้ออกติดตามผู้สูญหาย...ได้นำมกุฎราช กุมารอเล็กเซย์หลบหนีและไปฝากไว้กับครอบครัวฟิลาตอฟ ที่พวกเขารู้จักในเมืองชาดริงค์ ซึ่งอยู่ถัดออกไป...หัวหน้าครอบครัวผู้มีนามว่า "คเซโนฟอนต์ ฟิลาตอฟ" เคยมีบุตรชายคนหนึ่งแต่ได้เสียชีวิตไปด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ มกุฎราชกุมารอเล็กเซย์จึงได้สวมรอยเด็กคนนั้นอย่างปลอดภัย"
เจ้าชายชาวนา
วาสิลีเติบโตด้วยการใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ด้วยการประกอบอาชีพเป็นช่างทำรองเท้า และครูสอนวิชาภูมิศาสตร์ อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับความรู้ความสามารถของเขากับคนรัสเซียในชนบททั่วไป ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการพูดภาษาต่างๆ (เยอรมัน, กรีก, ละติน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส ) ความรู้ในวิชาประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และดนตรีคลาสสิคชั้นสูง นับว่าเหนือชั้นกว่าบุคคลทั่วไป ข้อมูลเหล่านี้ถูกเปิดเผยจากครอบครัวฟิลาตอฟ ภายหลังการเสียชีวิตของวิสิลี
หลายท่านคงคิดเหมือนกันว่า บทสรุปของหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ครั้งนี้ คงต้องใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือในการค้นหาและยืนยันความ จริงกับข้อมูลใหม่ชุดนี้ มีการตรวจสอบนิติวิทยาศาสตร์ด้วยกัน 2 ครั้ง คือ
หนึ่ง คือ การตรวจดีเอ็นเอจากเลือดของบุตรและธิดาของนายวาสิลี ฟิลาตอฟ ที่ครอบครัวอ้างว่าเป็นเขาคือ อเล็กเซย์ โรมานอฟ
อีกหนึ่งคือ การการตรวจดีเอ็นเอจากอวัยวะบางส่วน เช่น ผม ฟัน กระดูก ฯลฯ ของนายวาสิลี ฟิลาตอฟ
ผลสรุปคือ สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดในวงการนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งภายหลังการทดสอบของผู้เชี่ยวชาญชาวฟินแลนด์และรัสเซีย โดยการตรวจดีเอ็นเอจากเลือดของบุตรและธิดาของวาสิลี ฟิลาตอฟ ในปี ค.ศ. 1996 แสดงผลว่าพวกเขาเป็นผู้สืบสายโลหิตมาจากราชวงศ์โรมานอฟจริง
แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นและเป็นไคลแมกซ์ของเรื่อง คือการที่ครอบครัวฟิลาตอฟร้องขอความเป็นธรรมไปยังศาลโลก ณ กรุงเฮกให้เข้าแทรกแซงในขั้นตอนการพิสูจน์ ในที่สุดรัฐบาลรัสเซียจึงอนุญาตในปี ค.ศ. 1997 ให้มีการตรวจดีเอ็นเอจากชิ้นส่วนอวัยวะของนายวาสิลี ฟิลาตอฟ ผู้วายชนม์ จากกระดูก เส้นผม ฟัน และเล็บ ตามระบบนิติเวชวิทยา รวมถึงการคำนวณส่วนประกอบของใบหน้า ตามอายุขัยในวัยต่างๆ ด้วยระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผลปรากฏว่า วาสิลี ฟิลาตอฟ คือบุคคลเดียวกันกับมกุฎราชกุมารอเล็กเซย์ โรมานอฟ
ปริศนาที่เป็นเรื่องเล่าอย่างสม่ำเสมอในครอบครัวฟิลาตอฟ คือการที่วาสิลีเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในครอบครัวที่มีฐานะยากจน แต่ความสามารถพิเศษที่ติดตัวเขามาไม่สามารถปิดบังไว้ได้นาน เช่น ความจัดเจนในการพูดภาษาเยอรมัน กรีก ลโลวานิก ละติน อังกฤษ และฝรั่งเศส อย่างคล่องแคล่ว มีความรู้ทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ พงศาวดารรัสเซีย และการเมืองในยุโรปอย่างกว้างขวาง ดีกว่าคนรัสเซียชนบททั่วไป ตลอดจนความช่ำชองในการเล่นเปียโน และความรอบรู้เกี่ยวกับดนตรีคลาสสิคของสังคมชั้นสูง สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่ได้ใกล้ชิดเขาจนตลอดชีวิต เขารู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร ? บัดนี้คำตอบนั้นได้รับการชำระแล้ว
- ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงค์ นักร้อง-นักแสดงบ้านเรา ก็สืบเชื้อสายจากราชวงศ์ โรมานอฟ เช่นกันค่ะ
- "รัสปูติน" เป็นนามสกุลที่มีมากในไซบีเรีย เนื่องจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา นามสกุลนี้กลายเป็นที่รังเกียจในฐานะของคนที่ทำให้ราชวงศ์รัสเซียล่ม คนจำนวนมากจึงเปลี่ยนนามสกุลของตน
- เชื่อกันว่ารัสปูตินเป็นโฮโมเซ็กซวล และเชื่อกันว่ารัสปูตินกับเจ้าชายเฟลิกซ์มีความสัมพันธ์กันด้วย
- อดีตประธานาธิบดีของรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ก็นับได้ว่าเป็นรุ่นหลานของ รัสปูติน นี่เอง