ก่อนอื่น เรามาดูความหมายขันทีกันก่อน
ขันที หรือ ไท่เจี้ยน (太监 พินอิน: tàijiān) หมายถึง ชายที่ถูกตอน ทำงานหลายอย่างที่สตรีเพศทำไม่ได้ ในพระราชวังในจีนมีหน้าที่ควบคุมนางในฝ่ายพระราชฐาน และบางครั้งจะขับลำนำถวายฮ่องเต้ก่อน เข้าที่บรรทม นอกจากเรื่องทางโลกแล้ว ขันทียังมีหน้าที่เป็นคณะที่ปรึกษาให้กับฮ่องเต้ในการปกครองบ้านเมือง ซึ่งในบางยุคสมัยก็เป็นเพราะขันทีที่เอาแต่ปรนเปรอฮ่องเต้จนบ้านเมืองอ่อนแอ ไร้เสถียรภาพจนนำมาสู่การล่มสลายของบ้านเมือง เช่น ยุคสามก๊ก หรือ ปลายราชวงศ์หมิง หรือ ปลายราชวงศ์ชิง เป็นต้น
รูปวาดขันทีจีนบนฝาผนัง ในยุคราชวงศ์ถัง ( Tang Dynasty )
ประเภทของขันที
ขันทีนั้น มีอยู่สองประเภท
* ถูกตอนโดยตัดแค่ปลายองคชาตเท่านั้น ยังเหลือพวงอัณฑะอยู่ ขันทีประเภทนี้ ยังเหลือฮอร์โมนเพศชายอยู่มากมาย เสียงยังห้าวแบบชาย และจะได้อนุญาตให้ปฏิบัติภารกิจหน้าที่การงานได้เฉพาะเขตพระราชฐานชั้นนอก เท่านั้น
* ถูกตอนโดยตัดทิ้งทั้งพวง เสียงจะแหลมเล็ก ลูกกระเดือกหายไป ฮอร์โมนเพศชายหมดไป พวกนี้จะได้รับความไว้ใจสูงกว่า และสามารถปฏิบัติงานในเขตพระราชฐานชั้นใน
มีดที่ใช้ตัดอวัยวะเพศเพื่อการก้าวเข้าสู่เส้นทางขันที
'ขันที' มาจากรากศัพท์ 'ขันฑะ' ในภาษาสันสกฤต แปลว่า ตัด ตรงกับคำในภาษาจีนว่า ไท้เจี๋ยน หรือไท้ก๋ำ หรือเรียกว่ายุนุค (Eunuch) ในภาษาละติน และอาหรับ โดยมีรากศัพท์มาจากภาษากรีกว่า 'ยูโนคอส' (eunouchos) แปลว่า ผู้ดูแลรักษาเตียง
ยูนุคจึงหมายถึงผู้มี หน้าที่คอยดูแลหรือเป็นผู้รับใช้ของกษัตริย์และข้าราชสำนักฝ่ายใน เชื่อว่าขันทีมีกำเนิดครั้งแรกที่เมืองละกาสช์ (Lagash) ของสุเมเรียน (Sumerian) ในเมโสโปเตเมีย เมื่อราว 2,000 ปีก่อนคริสตกาล และเป็นกลุ่มบุคคลที่มีบทบาทแพร่หลายอยู่ในราชสำนักของเมโสโปเตเมียและ อียิปต์แต่โบราณ
จากประติมากรรมสลักศิลาศิลปะสมัยจักรวรรดิอัสสิ เรีย (Assyria Empire) อายุราว 800 ปีก่อนคริสตกาล แสดงภาพขันทีหรือยูนุคกำลังถวายการรับใช้ใกล้ชิดจักรพรรดิ โดยมือข้างหนึ่งถือแส้ อีกข้างหนึ่งกุมสายรั้งดาบ แสดงให้เห็นว่ายูนุคทำหน้าที่เป็นทั้งผู้รับใช้และราชองครักษ์ของกษัตริย์
ขันทีจีนยุคสุดท้ายแห่งราชสำนักชิง ( ค.ศ.1644-1911)
หลังตัดอวัยวะเพศแล้วเขาจะใช้ก้านขนนก หรือไม้เล็กๆที่กลวงตรงกลางเสียบแทนเอาไว้ตรงนั้นให้เป็นรูสำหรับปัสสาวะ หรืออาจจะใช้ท่านังกระโถนแบบผู้หญิงในการปัสสาวะ
หนังสือเล่มหนึ่งของ วาริส ดีรี ที่เป็นนางแบบผิวดำเขียน เธอมาจากประเทศโซมาเลียที่มีธรรมเนียมสุหนัด (ตัดอวัยวะเพศหญิง คว้านคริสตอริสและแคมใหญ่,เล็ก ออกจากนั้นก็เย็บปิดช่องคลอดเหลือไว้แค่รูเล็กๆ ให้ปัสสาวะและประจำเดือนพอไหลผ่านได้)
เธอบอกว่าเวลาปัสสาวะ มันจะค่อยๆหยดออกทีละนิดเท่านั้น และไม่สามารถเบ่งปัสสาวะแรงๆ ได้เนื่องจากรูมันเล็ก มันจะเจ็บ และเวลาเป็นประจำเดือนก็ปวดท้องมากเนื่องจากเลือดไหลออกมายาก
เพราะฉะนั้นในความคิดโทเค ขันทีที่เขามีรูแค่ก้านขนนกหรือไม้เล็กๆ เขาไม่น่าจะยืนปัสสาวะแบบพุ่งได้
ซุนเหย้าถิง ขันทีคนสุดท้ายของจีน เกิดปี ค.ศ 1902 ในสมัยราชวงศ์ชิง
1. น้ำปัสสาวะมันน่าจะไหลออกมาได้ทีละนิด ประมาณหยดๆ ตามรูของก้านขนนกหรือไม้ที่เสียบไว้ ไม่น่าจะออกมาเป็นสายพุ่งเหมือนผู้ชายปกติได้
2. จากข้อแรก ดังนั้นการปัสสาวะแต่ละครั้งน่าจะใช้เวลานานกว่าผู้ชายปกติ และก็น่าจะเลอะด้วย (ถ้าทำในท่ายืน) เนื่องจากแรงดันขับเคลื่อนไม่น่าจะมีมากเท่าผู้ชายปกติ (เบ่งแรงๆ นี่น่าจะเจ็บอะ ก้านขนนกหรือไม้มันไม่ใช้อวัยวะนี่นา) แล้วถ้าไม่มีแรงเบ่งหรือไม่สามารถเบ่งได้มาก การควบคุมทิศทางก็จะลำบากใช่ไหมคะ (รบกวนคุณผู้ชายช่วยยืนยันด้วย)
ขันทีจะมีกลิ่นเฉพาะ คือ " กลิ่นปัสาวะแห้ง "เนื่องจากขั้นตอนการตอน จะทำให้สะอาดมากๆ ก็จะตัดเข้าไปถึงหูรูดของกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ เป็นที่น่าอับอายมากๆ และต้องทนในสภาพนี้ไปตลอดชีวิต
และเนื่องจากการตอนทำให้ฮอร์โมนไม่สมดุล ขันทีที่ถูกตอนตั้งแต่ยังเด็กจะมีลักษณะแขนยาวเก้งก้าง รูปหน้าจะพัฒนาไม่เต็มที่ ส่วนใหญ่จะเป็นคางรูปสามเหลี่ยม และการตัดอวัยวะเพศออกไปจะทำให้เป็นโรคแทรกซ้อนได้ง่ายส่วนใหญ่จะอายุไม่ค่อยยืน