หน.ศูนย์เสมารักษ์ เผยนร.ดูดหน้าอกเนตรนารี เรียนอยู่ ม. 3 ย่านบางกะปิ-เตรียมหาทางเยียวยา

จากกระแสข่าวสุดอื้อฉาวกระฉ่อนโลกไซเบอร์ของไทย ภายหลังจากมีผู้นำภาพนิ่งและคลิปมาโพสต์ในเว็บไซต์เอ็มไทย ดอท คอม ชื่อว่า "เสื่อมหนัก คลิปนักเรียน ม.ต้น เปิดเต้าให้นักเรียนชายดูด" เป็นภาพเด็กนักเรียนชายหัวเกรียนชั้น ม.ต้น กำลังจับหน้าอกและใช้ปากดูดหน้าอกนักเรียนหญิงสวมชุดเนตรนารี

ขณะเดียวกัน มีนักท่องเน็ตบางรายชี้ว่า เป็นคลิปเก่า เผยแพร่ครั้งแรกตั้งแต่ช่วงเดือนเม.ย. 55 ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ยังไม่ทราบที่มาของคลิปดังกล่าวว่าเป็นนักเรียนสังกัด สพฐ. พร้อมเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันรับผิดชอบสร้างวินัย ศีลธรรม ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่เยาวชน จะไปกล่าวโทษโยนความผิดโรงเรียนฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นตัวบ่งบอกว่าสังคมกำลังอ่อนแอ ดังนั้นสังคมต้องช่วยกันดูแล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บเอ็มไทยรายงานข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายอุดม บุตตะ หัวหน้าศูนย์เสมารักษ์ กระทรวงศึกษาธิการ หรือสารวัตรนักเรียน กล่าวถึงกรณีคลิปนักเรียนม.ต้นดูดหน้าอกเนตรนารี ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ว่า นักเรียนเหล่านั้นเป็นนักเรียนชั้นม.3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านบางกะปิ กรุงเทพฯ

นายอุดม ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าการกระทำผิดระเบียบตามกฎกระทรวง ประพฤติไม่เหมาะสมเชิงชู้สาว โดยจะสืบสวนหาข้อเท็จจริง จากนั้นจึงจะพิจารณามาตรการจัดการกับนักเรียนที่ปรากฎภาพในคลิปนักเรียนม.ต้นดูดหน้าอก และเร่งหาตัวผู้เผยแพร่คลิปด้วย อย่างไรก็ตาม มาตรการนั้นจะเน้นไปที่การเยียวยาช่วยเหลือมากกว่าการลงโทษ เพราะเชื่อว่าเด็กไม่มีเจตนาเผยแพร่คลิป ซึ่งขณะนี้ได้เร่งกำชับโรงเรียนให้ดูแลพฤติกรรมของนักเรียน เพื่อรักษาชื่อเสียงของโรงเรียน เพราะนอกจากจะเกิดความเสื่มเสียต่อหลายฝ่ายแล้วยังอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบด้วย

ก่อนหน้านี้นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการกพฐ. ให้สัมภาษณ์ "ข่าวสด" ถึงภาพหลุดนักเรียนหญิงแต่กายคล้ายชุดเนตรนารี ถอดเสื้อให้นักเรียนชายดูดหน้าอกภายในสถานที่คล้ายห้องเรียน ซึ่งมีผู้นำมาโพสในเว็บไซต์เอ็มไทยดอทคอมโดยตั้งชื่อว่า "เสื่อมหนัก คลิปนักเรียน ม.ต้น เปิดเต้าให้นักเรียนชายดูด" ว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นนักเรียนสังกัด สพฐ.หรือไม่ แต่เหตุการณ์ลักษณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันรับผิดชอบสร้างวินัย ศีลธรรม ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่เยาวชน จะไปกล่าวโทษโยนความผิดโรงเรียนฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นตัวบ่งบอกว่าสังคมกำลังอ่อนแอ ดังนั้นสังคมต้องช่วยกันดูแล

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า ในส่วนของ สพฐ.อาจเป็นไปได้ว่ายังไม่ได้เน้นศีลธรรมกับนักเรียนมากเท่าที่ควร ฉะนั้นจากนี้คงต้องทบทวนเรื่องการสอนวิชาศีลธรรมในสถานศึกษาอย่างเข้มข้นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สพฐ.ไม่ได้หมายความว่าที่ผ่านมาไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เพราะขณะนี้ สพฐ.ได้จัดทำโครงการโรงเรียนดีประจำตำบล หรือโรงเรียนดีศรีตำบล 6,500 โรงอยู่ โดยจะดำเนินการเชื่อมโยงสถาบันศาสนาเข้ากับโรงเรียน เน้นพัฒนาบุคลากรฝ่ายผู้บริหาร ตัวแทนครู ร่วมกับตัวแทนองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่เข้ามาช่วยสนับสนุน เพื่อเชิญผู้นำศาสนาเข้ามาช่วยฝึกอบรมพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมให้กับตัวแทน ก่อนขยายผลไปยังครูผู้สอนเพื่อขับเคลื่อนคุณธรรมและจริยธรรมไปสู่ผู้เรียนอย่างเข้มข้นต่อไป โครงการนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการขยายผลไปยังโรงเรียนในเมืองด้วย

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...