เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 6 ก.ค. พ.ต.ท.อรรถพงษ์ จันทนะสร สวป.สน.บางเขน รับแจ้งเหตุคนร้ายปล้นร้านทองยิงต่อสู้กับเจ้าของร้าน เหตุเกิดภายในร้านทองเยาวราช ก.ม.4 ตั้งอยู่เลขที่ 31/8 ปากซอยรามอินทรา 39 ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน แล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปภายในซอยรามอินทรา 37 จึงประสานพ.ต.ท.พิเชษฐ์ ฟูสินไพบูลย์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย พ.ต.ต.ประภาส แก้วฉีด สว.สส. นำกำลังออกติดตาม พร้อมรายงานเหตุให้พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิศักดิ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน รับทราบรุดไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่กระจายกำลังปิดล้อมบริเวณอู่ซ่อมรถยนต์ ทีเคเอส มอเตอร์ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 60 เมตร กดดันจนสามารถจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายดอน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี จนมุมขณะซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ สภาพมีบาดแผลถูกยิงเข้าชายโครงซ้าย 1 นัด และแผ่นหลังอีก 1 นัด ในตัวพบของกลางสร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 บาท 21 เส้น จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมคนร้ายได้อีก 1 คน ขณะหลบซ่อนตัวอยู่บนหลังคา ทราบชื่อ นายสิทธิโชค แก้วกล้า อายุ 19 ปี มีบาดแผลถลอกจากกระสุนปืนบริเวณคิ้วซ้ายเลือดไหลอาบหน้า จนมุมพร้อมของกลางอาวุธปืน .38 เจ้าหน้าที่จึงนำส่งร.พ.พร้อมควบคุมตัวดำเนินคดี

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุร้านทองดังกล่าว พบกระจกหน้าร้านแตกกระจาย มีรอยรูกระสุนปืนหลายนัด ฝ้าเพดานเต็มไปด้วยรอยกระสุน บริเวณริมถนนหน้าร้านพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นนูโว สีขาวเลือดหมู ไม่ติดป้ายทะเบียนจอดอยู่ มีนายสานิตย์ โป่งจินา อายุ 43 ปี เจ้าของร้านยืนรอให้การอยู่

โดยนายสานิตย์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังขายทองอยู่ในร้าน พอลูกค้าออกไปคนร้ายทั้ง 2 ขับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน คนขับสวมหมวกกันน็อกสีดำ สวมเสื้อคลุมสีเทา ส่วนคนซ้อนท้ายสวมเสื้อคลุมสีดำ สวมหมวกกันน็อกสีขาว หนึ่งในนั้นชักปืนยิงใส่กระจกร้านทันที ตนก้มหลบลงพื้นแล้วตะโกนบอกว่าอย่ายิง คนร้ายที่ไม่ได้ถือปืนจึงใช้เหล็กยาวกระหน่ำตีตู้กระจก แต่ไม่แตก คนร้ายอีกคนจึงยิงใส่ตู้ พอตั้งสติได้ตนจึงหลบเข้าไปหลังร้าน หยิบปืน 11 ม.ม. ออกมายิงสู้คนร้ายหลายนัด จนคนร้ายวิ่งหลบหนีเข้าไปในซอยรามอินทรา 37 จึงวิ่งตามไปจนมีเจ้าหน้าที่มาช่วยจับกุมไว้ได้

ผมเปิดร้านทองมากว่า 8 ปี ไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น วินาทีที่คนร้ายเข้ามาในร้าน ผมต้องรีบกระโดดหลบไปหลังร้าน ก่อนหยิบปืนมายิงสู้กับคนร้ายผ่านกระจก เพราะไม่กล้าออกมาด้านหน้า คนร้ายยิงมาประมาณ 6 นัด ผมยิงสวนไป 4 นัด ถูกนายดอน และนายสิทธิโชค ตอนนั้นในใจคิดว่าต้องสู้เต็มที่ เพราะไม่ยอมให้คนร้ายยิงและเอาทองไปได้เด็ดขาด เพราะที่ผ่านมาเห็นจากข่าว เมื่อคนร้ายเข้าปล้นร้านทองมักจะยิงเจ้าของร้านเสียชีวิต เพื่อนที่เปิดร้านทองก็โดนโจรชิงทรัพย์ไปเยอะ จึงต้องฮึดสู้สุดใจ โชคดีที่หลบไปหลังร้านทัน ไม่เช่นนั้นก็คงถูกโจรยิงตายไปแล้ว นายสานิตย์กล่าว

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายดอน เคยถูกจับกุมคดียาเสพติดท้องที่สน.บางเขน เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2554 ที่ผ่านมา และก่อนเกิดเหตุพ.ต.ท.อรรถพงษ์ ก็เพิ่งเข้ามาตรวจที่ร้านทองแห่งนี้ได้ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นคนร้ายก็บุกเข้ามาลงมือ

นายสิทธิโชคให้การรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า ทำงานรับจ้างติดโปสเตอร์และแจกโบรชัวร์ ได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท ส่วนนายดอนเป็นเพื่อนรุ่นน้อง ชักชวนกันมาก่อเหตุเพราะน้อยใจในความจน อยากจะกินเคเอฟซีก็ไม่มีเงิน จนและอยากมีชีวิตใหม่ ถ้าได้ทองไปขายแล้วมีเงินก็จะเอาไปแต่งงานและมีครอบครัว จึงตัดสินใจพากันเข้าปล้นร้านทองดังกล่าว

ก่อนลงมือพวกผมขับรถวนมาดูลาดเลาที่ร้านก่อนแล้ว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุมีคนเอามาจำนำไว้ 2,000 บาท ตอนยิงก็ไม่ได้ตั้งใจยิงเจ้าของร้าน ตั้งใจยิงกระจกให้แตกเพื่อกวาดเอาทองไป แต่โดนยิงสวนจนได้รับบาดเจ็บทั้งคู่Ž นายสิทธิโชคกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองและพกพาปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป