ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
พระองค์ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
ขณะทรงประทับอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เมื่อตอนที่พระชนมายุครบ 20 พรรษา
ด่วน : ในหลวงประสบอุบัติเหตุ
ในหลวงประสบอุบัติเหตุอาการสาหัส
ประธานอภิรัฐ ฯ จะทูลถามอาการในวันนี้
นั่นคือข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ใหญ่ ๆ
ซึ่งตีพิมพ์จำหน่ายในกรุงเทพ ฯ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2491
มีเนื้อข่าวด่วนจากวิทยุ B.B.C. เมื่อเวลา 13.00 น. แจ้งว่า
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงประสบอุบัติเหตุด้วยรถยนต์ ณ
ที่แห่งหนึ่งใกล้ ๆ เมืองโลซานน์ เมื่อค่ำวันที่ 3 เดือนนี้ พระอาการค่อนข้างสาหัส
วิทยุของรอยเตอร์ก็ส่งรายละเอียดกระจายเสียงไปทั่วโลกว่า
(รอยเตอร์) โลซานน์ 25 ตุลาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
กษัตริย์ปัจจุบันผู้มีพรรษาครบ 20 แห่งประเทศไทย ซึ่งทรงได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส
เนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อคืนวานนี้ (ที่ 4)นั้นในตอนบ่ายวันนี้ (ที่ 5) มีข่าวว่า
ทรงมีพระอาการดีขึ้นและพ้นเขตอันตรายแล้ว
วิทยุ บี.บี.ซี. กระจายข่าวว่าพระสาเหตุที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ทรงประสบ
อุปัทวเหตุครั้งนี้ เนื่องจากรถยนต์พระที่นั่งชนกับรถบรรทุกคันหนึ่ง สมเด็จพระอยู่หัวฯ
กับนายอร่าม รัตนกุล ซึ่งเป็นบุคคลเดียวที่โดยเสด็จขึ้นในรถพระที่นั่งนั้นด้วย
ในคืนที่ทรงประสบอุปัทวเหตุนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ทรงขับรถพระที่นั่ง
ไปถึงสี่แยกที่มีป้อมจราจรแห่งหนึ่ง และพอดีกับตำรวจจราจร ได้ให้สัญญาณหยุดเพื่อ
ให้ทางแก่จักรยานอีก 2 คัน รถบรรทุกคันหน้าจึงหยุดลงทันที ที่ได้สัญญาณจากตำรวจ
จราจร ขณะนั้นประจวบกับมีรถยนต์อีกคันหนึ่งขับสวนขึ้นมาและเปิดไฟหน้าสว่างจ้า
จึงทำให้พระเนตรพร่ามองไม่เห็นรถบรรทุกคันนั้น รถพระที่นั่งจึงชนเอาท้ายรถบรรทุก
โครมใหญ่
รายงานข่าวจากการออกประกาศล่าที่สุดของสถานีวิทยุ บี.บี.ซี.เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม
เวลา 14.47 น.แจ้งว่าพระการสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พ้นอันตรายแล้ว หลังจากได้รับบาดเจ็บ
จากถูกรถยนต์บรรทุกชน เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว
อย่างไรก็ดีราชเลขานุการแถลงว่าพระเนตรข้างขวาเศษกระจกเข้าและยังไม่ทราบว่า
อีกหลายวันสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ จะทรงใช้พระเนตรข้างขวาได้หรือไม่
หนังสือพิมพ์สยามนิกรฉบับวันที่ 8 ตุลาคม 2491 ลงพาดข่าวขนาดใหญ่ว่า
“ อาจเสียพระเนตร ใกล้พระเนตรขวาสาหัสที่สุด ”
ตามเนื้อข่าวกล่าวว่า...รายงานข่าวล่าที่สุด ซึ่งสยามนิกรได้รับเมื่อเช้าวันนี้ (ที่7)
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ผู้ทรงเป็นที่รักใคร่ของพสกนิกรชาวไทยได้ทรงบาดเจ็บที่
พระเนตรข้างขวา หลวงประเสริฐราชไมตรี ราชเลขานุการในพระองค์แถลงข่าว
อันน่าเศร้าใจแก่ รอยเตอร์ว่า “พระองค์อาจเสียพระเนตรข้างขวาก็ได้
วิทยุ บี.บี.ซี.เวลา 19.45 น. วันที่ 8 แจ้งต่อไปว่าพระอาการของ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ กำลังเป็นที่พอใจของนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ทางตาถวายการรักษา เหตุการณ์กล่าวว่าอาการ
ของพระเนตรข้างขวาดีขึ้นบ้าง แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะหายดีดังเก่าหรือไม่
วันที่ 17 เวลา 16.00 น. เศษ ประธานผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
ได้ส่งโทรศัพท์ทางไกลถามพระอาการอีก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ
มีพระราชดำรัสตอบโดยพระองค์เองจากโรงพยาบาลที่ประทับอยู่นั้นว่า
“ฉันปลอดภัยแล้ว ขอฝากความขอบใจมายังคณะผู้สำเร็จราชการ
คณะอภิรัฐมนตรี คณะรัฐบาล และประชาชนของฉัน
ที่มีความห่วงใยในอาการป่วยของฉัน”
เช้าวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๔๙๑ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ
ได้เสด็จเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าพระเนตรข้างขวา
หลังจากนั้นพระองค์ท่านทรง มีพระอาการแทรกซ้อนเรื่อง พระเนตรขวา
ซึ่งแพทย์ที่ถวายการรักษาอีกหลายครั้งก็ไม่ดีขึ้น จึงได้ถวายการแนะนำ
ให้พระองค์ทรงพระเนตรปลอมในที่สุด
พระองค์ทรงเก็บความทุกข์ส่วนพระองค์ไว้
จากนั้นก็ทรงใช้พระเนตรเพียงข้างเดียว
ทรงศึกษาค้นคว้า อ่านหนังสือต่างๆมากมาย
เพื่อทรงงานของบ้านเมือง บำบัดทุกข์บำรุงสุข
แก่ราษฎรของพระองค์มาตลอดระยะเวลา ๖๐ ปี