คณะศัลยแพทย์รัฐเจอร์นิวซีย์ ของสหรัฐฯ สามารถผ่าตัดเอาเนื้องอกหนัก 23 กิโลกรัม ออกจากท้องของสตรีวัย 65 ปีรายหนึ่ง ที่ชะลอการผ่าตัดออกไปร่วมเดือน เพื่อรอให้ได้รับสิทธิการประกันสุขภาพเสียก่อน
นพ.เดวิด ดูปรี หัวหน้าคณะศัลยแพทย์ที่ศูนย์การแพทย์ริเวอร์วิว เมืองเรดแบงค์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ เล่าความรู้สึกที่ได้พบคนไข้ ซึ่งระบุชื่อเพียงว่า "เอเวอลีน"ครั้งแรกเมื่อราว 6-8 สัปดาห์ก่อนผ่าตัดว่า เธอเป็นคนผอมบาง แต่ท้องโตมากราวกับตั้งครรภ์แฝดสาม โดยสังเกตเห็นความผิดปกติในช่องท้อง
คนไข้เผยว่า ช่วงก่อนไปพบแพทย์ รู้สึกอึดอัดในท้องและท้องบวมโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เพิ่งไปพบแพทย์เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน เพราะต้องรอให้อายุครบ 65 ปี เพื่อให้ได้รับสิทธิตามโครงการเมดิแคร์ ซึ่งเป็นโครงการสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุของรัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากเธอไม่ได้ทำประกันสุขภาพ
ปกติเธอมีน้ำหนักตัวเพียง 54 กิโลกรัม แต่ช่วงก่อนผ่าตัดมีน้ำหนักตัวกว่า 76.5 กิโลกรัม มีอาการเท้าบวม เกิดภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง ผลการสแกนพบเนื้องอกขนาดใหญ่กดทับเส้นเลือดดำต่ำกว่ากะบังลมที่นำเลือดกลับไปยังหัวใจ ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตอย่างยิ่ง
เดิมแพทย์กำหนดผ่าตัดในวันจันทร์ที่ผ่านมาเพื่อให้ร่างกายหายจากภาวะขาดน้ำและความดันโลหิตกลับเป็นปกติ แต่เธอหายใจไม่ออกเมื่อเย็นวันอาทิตย์จึงต้องเร่งผ่าตัดในวันนั้นทันที
เมื่อแพทย์ทำการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง ก็พบเนื้องอกขนาดใหญ่หุ้มอวัยวะภายในไว้หลายส่วน สันนิษฐานว่าเนื้องอกเกิดจากเนื้อเยื่อไขมันรอบลำไส้ใหญ่ แพทย์จึงต้องเฉือนเนื้องอกออกทีละมิลลิเมตร ใช้เวลานานถึง 5 ชั่วโมง จึงจะเสร็จสิ้น อย่างไรก็ดี เธอยังคงต้องพบนักวิทยาเนื้องอกเพื่อตรวจมะเร็งที่อาจถูกกำจัดไม่หมดจากการผ่าตัด และอาจต้องรับการรักษาด้วยรังสีหรือเคมีบำบัดต่อไป
นพ.ดูปรี ได้แนะนำให้ผู้ป่วยที่ไม่ได้ทำประกันสุขภาพ ให้ไปพบแพทย์ทันทีหากพบว่าตนมีอาการไม่ปกติ โดยไม่ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดดังกล่าว และกล่าวว่าอย่างไรแพทย์ก็ต้องทำการผ่าตัดให้นางเอเวอลีน แม้ว่าเธอจะไม่ได้ทำประกันก็ตาม