ตำรวจนนท์รวบหนุ่มภัยสังคม อ้างตัวเป็นลูกนักการเมือง-ที่ปรึกษารมต. ลวงขยี้เหยื่อสาว

วันที่ 4 ก.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.นนทบุรี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบก.นนทบุรี พ.ต.อ.กองสรร ควรระงับกมล ผกก.สภ.บางศรีเมือง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายภูริพัฒน์ หรือปู กุลพาณิชย์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/7 หมู่ 8 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อแบล็กเบอรี่ 1 เครื่อง ไอแพด 1 เครื่อง เงินสด 5,000 บาท กระดาษรายชื่อเหยื่อที่ลงมือก่อเหตุแล้วและเหยื่อที่ยังไม่ได้ลงมืออีกหลายราย โดยมีน.ส.เมย์ นามสมมุติ น.ส.อุ๋ย นามสมมุติ และน.ส.หนิง นามสมมุติ ผู้เสียหายชี้ยืนยัน เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์และกระทำอนาจาร

นายวิเชียร กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นภัยร้ายแรงของสังคม โดยเฉพาะสุภาพสตรี ซึ่งผู้ต้องรายนี้จะเข้าไปตีสนิทกับหญิงสาวที่หน้าตาดี พร้อมทั้งให้นามบัตรเพื่อติดต่อคุยเรื่องงาน โดยระหว่างที่พูดคุยกับผู้เสียหายก็จะอ้างว่าเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีบ้าง เป็นลูกนักการเมืองบ้าง เพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ หลังจากนั้นก็จะออกอุบายนัดให้ผู้เสียหายออกมาพบเพื่อคุยเรื่องธุรกิจก่อนจะลงมือลวนลามเหยื่อ ถ้าเหยื่อขัดขืนก็ข่มขู่ว่ามีปืนอยู่ในรถ ก่อนจะดึงกระเป๋าสะพายของเหยื่อโยนไว้เบาะหลัง แล้วปล่อยผู้เสียหายลงกลางทาง นับว่าโชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ได้

ด้านพล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา น.ส.เมย์ ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมืองว่า ถูกนายภูริพัฒน์ ผู้ต้องหาลวงมากระทำอนาจาร และชิงทรัพย์ โดยผู้เสียหายให้การว่าขณะที่กำลังเดินอยู่ภายในห้างบิ๊กซีวงศ์สว่าง ผู้ต้องหาได้เข้ามาตีสนิท อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์กอล์ฟ และชักชวนให้ผู้เสียหายไปทำงานอีเวนต์ โดยให้เบอร์โทรศัพท์ทิ้งไว้ ต่อมาวันที่ 2 ผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน ฌภ-1141 กทม.มารับผู้เสียหายที่แยกแครายเพื่อจะไปคุยธุระกับเพื่อนอีกคน ที่บริเวณถนนบรมราชชนนี ระหว่างผู้ต้องหาได้เลี้ยวรถเข้าไปในซอยไทรม้าอ้างว่าจะเข้าไปไหว้พระ และเมื่อถึงที่เปลี่ยวผู้ต้องหาได้จอดรถและพยายามลวนลามผู้เสียหายทั้งลูบต้นขา จับหน้าอก ผู้เสียหายพยายามขัดขืนทำให้ผู้ต้องหาไม่พอใจและข่มขู่ว่าจะทำร้ายโดยล้วงมือเข้าไปที่ใต้เบาะทำท่าจะหยิบอาวุธปืน ก่อนจะกระชากกระเป๋าสะพายของผู้เสียหายโยนไปที่เบาะหลัง ระหว่างนั้นผู้เสียหายได้ฉวยโอกาสเปิดประตูรถยนต์หนีออกมาได้ ก่อนจะร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ผู้ต้องหาเห็นท่าไม่ดีจึงได้ขับรถหลบหนีไป โชคดีที่ผู้เสียหายจดจำทะเบียนรถยนต์ได้

จากการตรวจสอบรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุพบว่า เป็นรถยนต์เช่าที่ผู้ต้องหาเช่ามาเพื่อก่อเหตุ สำหรับผู้ต้องหารายนี้เพิ่งจะพ้นโทษในคดีชิงทรัพย์มาได้ไม่นาน และมาลงมือก่อเหตุในลักษณะเดิม และยังมีหมายจับของ สน.ดุสิต ในข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางวัน โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน มีหรือใช้อาวุธปืน เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่โดยกระทำลักษณะนี้ ขอให้มาดูตัวได้ที่ สภ.บางศรีเมือง และเจห้าหน้าที่ตำรวจจะคัดค้านการประกันของผู้ต้องหา เพราะเกรงว่าจะออกไปก่อเหตุอีก

ด้าน น.ส.หนิง กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังเดินซื้อของอยู่ก็สังเกตเห็นผู้ต้องหาพยายามเดินตามเพื่อฟังว่าตนคุยโทรศัพท์เรื่องอะไร พอผู้ต้องหารู้ว่าตนกำลังคุยเรื่องธุรกิจอยู่ ผู้ต้องหาก็จะเข้ามาบอกว่าผู้ต้องหาก็ทำธุรกิจเหมือนกัน แต่ตนไม่เล่นด้วย เพราะตนคิดว่าผู้ต้องหาจะเข้ามาจีบ แต่ผู้ต้องหาก็ยังไม่ละความพยายาม โดยผู้ต้องหาได้เดินไปหาคนขับรถแท็กซี่ที่ตนนั่งมา ก่อนจะจดเบอร์โทรศัพท์ฝากไว้กับรถแท็กซี่ และออกเงินค่ารถแท็กซี่ให้ หลังจากนั้นตนได้โทรศัพท์ไปขอบคุณและบอกว่าที่หลังไม่ต้องทำแบบนี้ เพราะตนมีแฟนอยู่แล้ว แต่ผู้ต้องหาก็อ้างว่ารู้จักคนที่มีชื่อเสียงมากมาย และสนใจที่จะทำธุรกิจด้วย ตนเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย ตนจึงได้ยอมออกมาพบโดยผู้ต้องหานัดให้ออกมากินข้าว และพูดคุยเรื่องธุรกิจ ตนจึงยอมนั่งรถออกมาหา ซึ่งตอนนั้นผู้ต้องหาใช้รถยนต์โตโยต้า วีออส สีขาว ป้ายแดง พอตนขึ้นรถผู้ต้องหาก็ขับรถพาไปหาที่กินอาหาร ก่อนจะขับพาไปในที่เปลี่ยว ก่อนที่ผู้ต้องหาจะลงมือลวมลามและกระชากกระเป๋าสะพายซึ่งมีโทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง แบล็กเบอรี่ 1 เครื่อง โน้ตบุคส์ 1 เครื่อง โชคดีที่หนีรอดมาได้
 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...