นายคิม จอง อึน ผู้นำคนใหม่ของเกาหลีเหนือ ได้พยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แก่ตนเองและประเทศ โดยการอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถสวมกางเกงขายาว รองเท้าส้นสูง และตุ้มหูได้แล้ว รวมถึงอนุญาตให้มีการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น และอาหารที่มีการแบนก่อนหน้านี้ อาทิ พิซซา เฟรนช์ฟราย และแฮมเบอร์เกอร์
ก่อนหน้านี้ เขาเคยกล่าวระหว่างพิธีฉลองครบรอบ 66 ปี สหพันธ์เด็กแห่งเกาหลีเมื่อเดือนที่ผ่านมาที่กรุงเปียงยาง ต่อหน้าเด็กๆที่ร่วมชุมนุมกว่า 20,000 คน ว่าเกาหลีที่มีความเจริญรุ่งเรืองและมีอำนาจจะตกอยู่ในมือของเด็กทุกคน ทุกบ้านจะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ และทุกคนจะอยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง
นายคิมได้ริเริ่มการเปลี่ยนแปลงนโยบายใหม่ๆหลายประการ เพื่อให้ประชาชนได้มีความเสรีและความบันเทิงในชีวิตประจำวัน เมื่อเดือนที่แล้วสถานีโทรทัศน์รัฐบาลได้แพร่ภาพนายคิมในชุดยูนิฟอร์มพร้อมด้วยหมวกฟาง เยี่ยมชมสวนสนุกมังยองแด และชี้ชวนให้ดูรถไฟเหาะ
ทั้งนี้ สวนสนุกดังกล่าว เพิ่งนำเข้าเครื่องเล่นหลายชนิดมาจากฝรั่งเศส โดยนายคิมได้สั่งให้ผู้จัดการสวนสนุกดูแลให้เครื่องเล่นอยู่ในสภาพดี และให้มีการอัพเกรดพื้นที่สำหรับเล่นวิดีโอเกมสำหรับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กๆ นอกจากนั้น ยังมีภาพของเขา เดินเยี่ยมชมศูนย์อาหาร และทำหน้าที่เป็นพ่อค้าขายเฟรนช์ฟรายและแฮมเบอร์เกอร์
นายดอง ยองซุง ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือ จากสถาบันวิจัยเศรษฐศาสตร์ซัมซุง ระบุว่า นอกเหนือจากที่กล่าวมา นายคิมยังสั่งให้มีการยกเลิกข้อห้ามที่ไม่ให้ผู้หญิงสวมกางเกงในที่สาธารณะ ซึ่งก่อนหน้านี้สามารถสวมได้เฉพาะในโรงงานหรือในไร่นาเท่านั้น โดยผู้ฝ่าฝืนจะถูกตักเตือนหรือไม่บางครั้งก็ถูกลงโทษด้วยการถูกตัดขากางเกงให้กลายเป็นกระโปรง
ขณะที่ผู้หญิงที่ถูกจับได้ว่าสวมกางเกงยีนส์ขาเดฟและตุ้มหู มักตกเป็นข่าวในสื่อของเกาหลีใต้เสมอ เนื่องจากทั้งสองอย่างถูกมองว่าเป็นการแสดงถึงความเป็นทุนนิยมจนเกินไป แต่ในปัจจุบันเริ่มมีผู้ใส่ให้เห็นบ้างแล้ว ซึ่งรวมถึงรองเท้าส้นสูง
ตามข้อมูลของสถาบันวิจัยเศรษฐศาสตร์ซัมซุง ระบุว่าเมื่อปีที่แล้ว รองเท้าส้นสูง ติดอันดับ 2 ของสิ่งของที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของสังคมเกาหลีเหนือ ซึ่งศึกษาโดยใช้ข้อมูลค่าเฉลี่ยของชาวเกาหลีเหนือที่ครอบครองสิ่งของต่างๆ โดยใช้ข้อมูลจากผู้แปรพักตร์ สื่อ และแหล่งอื่นๆ
โดยสิ่งของที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดอันดับ 1 คือ อิฐถ่านหินก้อนเล็ก ที่มักใช้เป็นเชื้อเพลิงในครัวเรือน หลังจากที่รัฐบาลเร่งให้เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อส่งออกแลกกับสินค้าจากจีน โดยอันดับสามคือโทรศัพท์มือถือ โดยผู้ให้บริการคือบริษัทโอราสคอมจากอียิปต์ ซึ่งคาดว่าจำนวนผู้ใช้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านคนภายในปีนี้
ข้อมูลจากญาติพี่น้องของชาวเกาหลีเหนือผู้แปรพักตร์ยังระบุว่า ในปัจจุบัน เกาหลีเหนือมีร้านพิซซา ร้านเบเกอรี และและร้านกาแฟเพิ่มขึ้น
ขณะที่สินค้าของเกาหลีใต้หลายอย่างเริ่มได้รับความนิยมจากชาวเกาหลีเหนือ อาทิ กาแฟสำเร็จรูปยี่ห้อแม็กซิม ซึ่งถูกลักลอบนำเข้าผ่านชายแดนจีน รวมถึงขนมยี่ห้อช็อคโกพาย ซึ่งคาดว่าจะมาจากนิคมอุตสาหกรรมแจซอง ที่ตั้งอยู่ในเกาหลีใต้ ที่ตั้งใกล้กับชายแดน โดยคนงานกว่า 50,000 คน ที่เป็นแรงงานเกาหลีเหนือ ซึ่งได้ขนมเป็นของว่างคนละ 2-3 ห่อต่อวัน เอาไปขายผ่านตลาดมืด