จำนวนคนอ่านล่าสุด 2073 คน
Share9
วันที่ 02 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 7886 ข่าวสดรายวัน
ครูดนตรีโต้แค่กอด
ไม่ได้ลวนลาม! ผอ.โรงเรียนแฉ เคยต้องคดีฉาว
จุดลวนลาม - เจ้าหน้าที่ร.ร.ชื่อดังในภูเก็ตเข้าตรวจสอบห้องเรียนดนตรี หลังจากครูสอนดนตรีถูกน.ร.กล่าวหาว่ากระทำอนาจารในห้องนี้ ขณะที่ครูคนดังกล่าวปฏิเสธไม่ได้ลวนลาม แค่โอบกอดเท่านั้น เมื่อ 1 ก.ค.
ผอ.โรงเรียน ดังภูเก็ต พาสำรวจห้องคีย์บอร์ดเจ้าปัญหา พบเป็นห้องปิดทึบ เผยครูฉาวที่ถูกร้องเรียนทำอนาจารลูกศิษย์วิชาดนตรี รับแล้วทำจริง แต่ยังอ้างไม่คิดอะไร แถมไม่คิดลาออกตามข้อเรียกร้องผู้ปกครอง ลั่นพร้อมสู้คดีขอความเป็นธรรม แจงโรงเรียนไม่มีอำนาจลงโทษ เพราะครูคนนี้สังกัดเทศ บาลภูเก็ต มึนสำนักงานศึกษาเทศบาลนครภูเก็ต ยังไม่มีคำสั่งลงโทษ ทั้งที่เคยมีคดีอนาจารค้างเก่า จนศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 4 ปี
จากกรณีที่ผู้ปกครองและนักเรียน หญิงโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต เข้าแจ้งความที่สภ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อให้ดำเนินคดีกับครูสอนดนตรีรายหนึ่ง ที่มีพฤติกรรมลวนลามเด็กนักเรียนที่เป็นลูกศิษย์ทั้งกอด หอมแก้ม นำมานั่งตัก ปลดสายเสื้อใน จนมีนักเรียนตกเป็นเหยื่อไม่ต่ำกว่า 18 ราย จนกระทั่งครูคนดังกล่าวพยายามไกล่เกลี่ยกับผู้ปกครอง แต่ไม่เป็นผล นอกจากนี้ยังพบว่าครูดนตรีรายนี้เคยมีคดีค้างเก่าในลักษณะดังกล่าว ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาว่ามีความผิดจริง ต้องโทษจำคุก 4 ปี แต่คดียังอยู่ในชั้นอุทธรณ์ ตามที่ข่าวสดนำเสนอไปก่อนหน้านี้
ความ คืบหน้าล่าสุด วันที่ 1 ก.ค. ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ครูดนตรีรายนี้สอนอยู่ ออกมายอมรับว่า ครูดนตรีคนนี้เคยมีคดีทำอนาจารลูกศิษย์จริง เมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา จนทำให้เทศบาลนครภูเก็ต ต้นสังกัดของครูคนดังกล่าวย้ายจากที่เดิมมาช่วยราชการที่นี่ ซึ่งอาจเป็นว่าคดีดังกล่าวอยู่ในชั้นอุทธรณ์ผู้บังคับบัญชาจึงยังไม่ลงโทษ ให้ออกจากราชการ เพราะอยากให้คดีในชั้นศาลเสร็จสิ้นก่อน
ผู้อำนวย การโรงเรียนกล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่เป็นเรื่องร้องเรียนขึ้นมานั้น ไม่เคยมีใครมาร้องเรียนกับตน โดยเพิ่งมารู้ล่วงหน้าเพียง 2 วันก่อนที่ผู้ปกครองและนักเรียน จะเข้าแจ้งความ จึงพยายามหาทางออกให้ทุกฝ่ายมาคุยกัน แต่เมื่อถึงเวลานัดมีบางฝ่ายไม่พร้อม จนต้องเลื่อนการเจรจาจนเป็นเหตุให้ผู้ปกครองไม่พอใจ จนกระทั่งตนไปต่างประ เทศ และให้รองผอ.โรงเรียนรับผิดชอบเจรจา สุดท้ายก็มีการพูดคุยกัน ซึ่งเป็นลักษณะสอบสวนหาข้อเท็จจริงเบื้องต้น โดยครูคนดังกล่าวยอมรับว่าโอบกอดนักเรียนหญิงจริง แต่ไม่มีเจตนาคิดมิดีมิร้ายกับลูกศิษย์ ซึ่งทางผู้ปกครองก็ไม่ยอม โดยเสนอให้ลาออกไป แต่ผอ.สำนักการศึกษาเทศบาลนครภูเก็ต ระบุว่าไม่สามารถให้ลาออกได้ เพราะมีคดีค้างเก่า อยู่ สิ่งที่ทำได้คือการให้หยุดสอน แล้วให้โรงเรียนต้นสังกัดดำเนินการต่อไป เช่นหากขาดราชการเกิน 15 วัน ก็มีวิธีลงโทษวินัยตามระเบียบ แต่ให้ไล่ออกตอนนี้ไม่ได้
"เมื่อครูคนนี้ถูกย้ายมาช่วยราชการ เราก็รู้ที่มาที่ไป พยายามหาทางป้องกันเบื้องต้น โดยให้ครูคนนี้สอนในห้องที่ไม่มิดชิดมากนัก แต่กรณีนี้เกิดขึ้นในห้องเรียนดนตรี ซึ่งติดเครื่องปรับอากาศ และมีประตูปิดทึบเพียงห้องเดียวของโรงเรียน เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นในห้องปิดเช่นนี้ เราก็ไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าเขาทำหรือไม่ แต่เขาเองก็รับกับตำรวจ ไปแล้วว่าโอบกอดจริง แต่เป็นลักษณะครูรักใคร่ลูกศิษย์มากกว่า" ผอ.โรงเรียนดังกล่าวระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาผอ.โรงเรียนนำ ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" เข้าตรวจสอบห้องสอน คีย์บอร์ด ที่ตกเป็นข่าวว่ามีนักเรียนถูกลวน ลาม ซึ่งอยู่ริมสุด ฝั่งขวาของอาคารเรียน สภาพประตูห้องและหน้าต่างปิดทึบ ภายในห้องมีคีย์บอร์ดอยู่หลายตัว ที่มุมห้องเป็นโต๊ะทำงานของครูดนตรีที่ถูกร้องเรียน ซึ่งบนโต๊ะยังมีเอกสารส่วนตัวซึ่งเป็นคำพิพากษาเกี่ยวกับคดีค้างเก่าสมัยที่ เป็นครูอีกแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีของใช้ส่วนตัว อาทิ กล้องถ่ายรูปทิ้งไว้บนโต๊ะด้วย
ด้านรองผอ.โรงเรียนที่เข้าไปมีส่วน ร่วมการเจรจาไกล่เกลี่ย ระบุว่า ตนเสนอให้ครูดนตรีพิจารณาข้อเรียกร้องของผู้ปกครองที่ขอให้ลาออกไป แล้วจะไม่ฟ้องร้องเอาผิด แต่ครูคนดังกล่าวยืนยันในความบริสุทธิ์ และขอต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม ทั้งยังยืนยันว่าจะสอนอยู่ที่เดิม แม้ว่าในการสอบสวนเบื้องต้นจะรับว่าทำจริง โดยพูดสั้นๆ เพียงว่า "ผมทำจริง แต่ผมไม่ได้คิดอะไร" ทั้งนี้ต้องชี้แจงว่าโรงเรียนไม่มีอำนาจลงโทษครูผู้สอน เพราะเป็นอำนาจของสำนักงานการศึกษาเทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งเป็นต้นสังกัด ที่จะสั่งให้พักการสอน หยุดการสอน หรือลงโทษตามระเบียบต่างๆ ได้
รายงาน ข่าวแจ้งว่า ล่าสุดผอ.โรงเรียนเตรียมทำหนังสือส่งตัวครูคนดังกล่าวคืน ต้นสังกัด และชี้แจงข้อเท็จจริงให้เทศบาลนครภูเก็ตในวันที่ 2 ก.ค.นี้ ทั้งนี้หลังจากตกเป็นข่าวอื้อฉาว ครูคนดังกล่าวไม่ได้มาสอนตามปกติ แล้ว 1 สัปดาห์ หากถึงวันที่ 8 ก.ค. ยังไม่มาสอน ก็ถือว่าขาดราชการไปโดยปริยาย