เมื่อเวลาประมาณ 07.45 น. วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ต.ท.อเนก มงคล สารวัตรเวร สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตรับแจ้งจากลูกเรือประมงภูเก็ตรายหนึ่งว่า เกิดเหตุแก๊สหุงต้มระเบิดบนเรือประมงอวนลากชื่อ"เรือสถาพร 7 "ขณะจอดเทียบท่าบริเวณท่าเรือ ป.พิชัยนาวา ถนนศรีเสนา ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ต่อมาพ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วง รองผู้กำกับการ และหน่วยกู้ชีพมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตรุดไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นท่าเทียบเรือเอกชนขนาดใหญ่ บริเวณปลายท่าเรือ พนักงานสอบสวนพบว่า น้ำทะเลทะลักเข้าบริเวณห้องเครื่องยนต์เรือประมงอวนลากขนาด 2 ชั้น อย่างรวดเร็ว และไม่นานเรือลำเกิดเหตุก็จมไปเกือบหมดทั้งลำ เหลือเพียงกราบเรือที่โผล่พ้นน้ำมาบางส่วน ส่วนสิ่งของเครื่องใช้ที่อยู่บนเรือ ลอยอยู่จำนวนมาก
จากการตรวจสอบไม่พบผู้บาดเจ็บ เนื่องจากก่อนหน้านี้ อาสาสมัครหน่วยกู้ชีพมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เดินทางมาที่เกิดเหตุและช่วยลำเลียงผู้บาดเจ็บ ส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตมากถึง 7 คนประกอบด้วย นายประไว ทองมี อายุ 52 ปี ไต้ก๋ง บาดเจ็บเนื่องจากถูกไฟลวกตามร่างกายเล็กน้อย ,นายนิกร ไม่ทราบนามสกุล อายุ 37 ปี นายท้ายเรือและช่างเครื่องยนต์ ไฟลวกตามร่างกายประมาณ70 เปอร์เซ็นต์ ไม่สามารถขยับปากหรือให้การไม่ได้,นายหว่อง ชาวพม่า อายุ 28 ปี ขาซ้ายหัก เนื่องจากกระโดดหนีและตามร่างกายถูกไฟลวก ส่วนที่เหลือเป็นลูกเรือชาวพม่าอีก 4 คน มีบาดเจ็บถูกไฟลวกตามร่างกายเล็กน้อยเท่านั้น
พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ที่อยู่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเรือประมงสถาพร 7 จอดเทียบท่าเรือขององค์การสะพานปลา เกาะสิเหร่ ที่อยู่ตรงกันข้ามกับจุดเกิดเหตุ เพื่อนำสัตว์น้ำนานาชนิด มาขึ้นฝั่งเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เมื่อลำเลียงสัตว์น้ำออกจากห้องเย็นภายในเรือเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อมานำเรือเข้าจอดเทียบท่าบริเวณท่าเรือ ป.พิชัยนาวา และจอดเข้าคิวรอเพื่อใส่น้ำแข็งลงในระวางห้องเย็นเรือ และมีกำหนดจะออกไปจับสัตว์น้ำอีกครั้งหนึ่งในช่วงสายของวันที่ 1 กรกฎาคม ขณะที่รอสายพานลำเลียงน้ำแข็ง เพื่อเติมในห้องเย็นอยู่นั้น กลุ่มลูกเรือ ช่วยกันปรุงอาหารเพื่อรับประทานอาหารมื้อเช้าร่วมกันที่บริเวณหน้าห้องเครื่องยนต์ และต่อมาปรากฏว่า ลูกเรือหลายคนเริ่มได้กลิ่นแก๊สหุงต้ม ที่ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วเรือ แต่กลับไม่มีผู้ใดสนใจ และไม่นานนัก แก๊สหุงต้มเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น เป็นผลทำให้ ลูกเรือ ที่อยู่ภายในเรือ ในพื้นที่เรือส่วนต่างๆ กระเด็นไปคนละทิศคนละทางและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ สันนิษฐานว่าเหตุระเบิดในครั้งนี้ อาจมาจากสายแก๊สหุงต้มอาจรั่วหรือขาด ส่งผลให้แก๊สเกิดสัมผัสกับความร้อนจนเกิดระเบิดขึ้น และมีความรุนแรงมากพอ จนทำให้ห้องเครื่องยนต์แตกและเรือรั่ว จนจมในที่สุด ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 2,000,000บาท อย่างไรก็ดีพนักงานสอบสวน ประสานงานไปที่เจ้าหน้าที่ กองกำกับการวิทยาการเขต 44 จังหวัดภูเก็ต มาร่วมตรวจพิสูจน์ให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่ง รวมถึงจะเชิญนายประไว ทองมี ไต้ก๋งเรือประมงสถาพร 7 มาสอบปากคำเพิ่มเติม เกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดเหตุระเบิดขึ้นในเรืออีกครั้งหนึ่ง