ผิดไหม ถ้าผู้หญิงจะเป็นฝ่ายรุก
ในสังคมไทยเราคุณสมบัติของผู้หญิงที่ดีจะต้องเป็นคน มีกิริยามารยาทเรียบร้อยอ่อนหวาน นุ่มนวล ทำตัวให้สมกับการเป็นกุลสตรีอยู่ตลอดเวลา เรื่องของ “เซ็กซ์” และการมีเพศสัมพันธ์นั้น แทบจะเป็นเรื่อง “ต้องห้าม” ที่ไม่ควรแม้กระทั่งจะกล่าวถึง เพราะมีความเชื่อและได้รับการสั่งสอนอบรมกันมาว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ สกปรก หยาบคาย และน่าละอาย ซึ่งความเชื่อเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ แล้วบางครั้งก็อาจนำไปสู่ความไม่ประสบผลสำเร็จในชีวิตคู่ในที่สุดก็ได้นะ
ถึงแม่สังคมปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงพัฒนาไปมาก ทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีอิสระเสรีในความคิดและการแสดงออกมากขึ้น รวมทั้งเรื่องเซ็กซ์ด้วย ยังมีอีกหลายคนที่ยังมีความคิดในเชิงลบเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้อยู่ทำให้ เกิดปัญหาขึ้น และบ่อยครั้งไม่ได้รับการดูแลแก้ไขอย่างถูกต้อง เพราะไม่กล้าพูดหรือเปิดเผยข้อเท็จจริงออกมานั่นเอง
หญิงชาย…ไม่แตกต่าง
สำหรับผู้หญิงในเรื่อวของอารมณ์และความรู้สึกทางเพศก็ไม่ ได้มีความแตกต่างอะไรกับผู้ชายมากนัก ที่เมื่อถึงเวลาก็จะมีอารมณ์ทางเพศเป็นปกติตามธรรมชาติและก็แน่นอนว่าเธอ เหล่านั้นก็ต้องการการตอบสนองต่ออารมณ์และความต้องการเช่นกัน ถึงตรงนี้ใครที่อยู่ตัวคนเดียวก็อาจจะนึกอิจฉาคนที่มีคู่อยู่และผู้ช่วยส่วน ตัวพร้อมอยู่ข้างกายคอยช่วยเหลือนะครับ แต่ในความเป็นจริงแล้วเหตุการณ์มันไม่ง่ายอย่างที่คิดน่ะสิครับ องคิด ว่าโดยทั่วไป เวลาจะมีกิจกรรมกันใครเป็นคนเริ่มก่อน ใครเริ่มสะกิดใครก่อน ร้อยทั้งร้อยฝ่ายชายทั้งนั้นครับ แล้วคราวนี้ถ้าผู้หญิงเกิดอยากเป็นฝ่ายเริ่มขึ้นมาก่อนบ้างล่ะ จะเป็นอย่างไรและจะเริ่มอย่างไรดี
เหตุผลหนึ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาดังกล่าวคือลักษณะของ วัฒนธรรมไทยที่คุยไว้ข้างต้น การที่ผู้หญิงแสดงออกก่อนเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งแบบนี้ฝ่ายหญิงก็แย่สิครับ “รอ” อย่างเดียว
ก่อนอื่นคุณผู้หญิงต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติเรื่องนี้ ใหม่ก่อนครับว่า การที่ตัวเราจะเกิดอารมณ์และ ความต้องการทางเพศขึ้นมาก่อน โดยที่ฝ่ายไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มหรือชักชวนนั้น เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติและไม่ได้เป็น “ความผิด” แต่แล้วจะเริ่มอย่างไรดี มีหลายวิธีด้วยกัน ลองพิจารณากันนะครับ
ส่งสัญญาณ
การส่งสัญญาณทำได้หลายรูปแบบครับแต่ที่สำคัญคือต้อง “ชัดเจน” และ “แรง” พอที่คุณผู้ชายจะสังเกตเห็นและรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งหลาย อาจเริ่มตั้งแต่การสร้างบรรยากาศให้น่าภิรมย์มากกว่าเดิมไม่ว่าจะเป็นภายใน บ้านหรือในห้องนอน เช่น เปิดไฟสลัวๆ จุดเทียนหอมหรือน้ำมันหอมระเหย เปิดเพลงเบาๆ เป็นต้น แล้วก็ควรแต่งตัวให้น่าพิศวาสมากขึ้นด้วยการใส่ชุดนอนวาบหวิว บางเบา (ที่เคยซื้อเก็บมานานมากแล้ว) ประพรมน้ำหอมให้หอมชื่นใจ อย่างนี้เป็นต้น แค่นี้คุณผู้ชายก็คงเอะใจแล้วล่ะครับว่าเกิดอะไรขึ้น
นอกจากนั้นก็อาจะ พูดจาฉอเลอะด้วยถ้อยคำหวานแหวว ออดอ้อนต่างๆ นานาจะกระซิบกระซาบกันบ้างก็ไม่แปลกบทสนทนาก็ไม่ควรเป็นเรื่องซีเรียสจริง จังมากนะครับ น่าจะเป็นการหยอกเย้ามากกว่าจริตจะก้าน มารยาหญิงมีเท่าไหร่ใส่ไปให้หมด ไม่ต้องยั้ง เท่านี้ก็ก็เหลือเฟือแล้วล่ะครับแต่ยังไงก็ต้องพิจารณาความเหมาะสมด้วยอย่า ให้มากจนกลายเป็น “ยั่วโมโห” แทน
สำหรับคุณผู้ชายประเภทชอบหอบงานมาทำที่ บ้าน ลองยื่นข้อเสนอให้เขาพักผ่อนเพื่อผ่อนคลายลงบ้าง ลองให้บริการนวดหลัง นวดไหล่ นวดต้นคอ ให้เขารู้สึกผ่อนคลายนวดไปนวดมาก็ลองนวดสัมผัสส่วนอื่นดูบ้างก็ได้ พยายามดึงตัวเขาให้ห่างจากงานให้ได้ จากนั้นค่อยดำเนินการอย่างอื่นต่อไป
แต่วิธีการนี้คุณผู้ชายของคุณก็ต้องเฉลียวใจอยู่บ้าง นะครับ ว่าการที่คุณผู้หญิงเขาส่งสัญญาณมาขนาดนี้ เขาต้องการอะไรไม่ใช่มัวแต่ “ซื่อ” บื้อ ยิ่งเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อนหรือพานนึกไปว่าคุณแม่ไม่สบายขึ้นมา ถ้าเป็นแบบนี้ต้องทำใจหรือเปลี่ยนวิธีกันแล้วครับ
ถ้า “พร้อม” ก็ “รุก”
เป็น อีกวิธีการหนึ่งที่ตรงไปตรงมา คือ ถ้าคิดว่าตัวเองมีความพร้อมมีความต้องการเต็มที่ก็เริ่มเป็นฝ่ายรุกเองเลย ครับ ก็ทำนองเดียวกันกับเวลาที่ทางฝ่ายชายเริ่มสะกิดคุณ อาจจะเริ่มจากกอด จูบเบาๆ เคล้าเคลีย นัวเนียกับเขาอย่างที่เขาชื่นชอบ แล้วค่อยเริ่มการสัมผัส เนื้อแนบเนื้อให้มากขึ้น เริ่มออกสตาร์ตอุ่นเครื่องได้ที่ เดี๋ยวก็ไปได้โลดเองแหละครับไม่ต้องห่วง
ส่วนฝ่ายชายถ้าคุณเป็นฝ่ายเริ่มรุกเขาก่อนก็อาจจะ รู้สึกแปลกใจ เซอร์ไพรซ์กันบ้าง ไม่ต้องกังวลใจไปครับ คุณผู้ชายทั้งหลายส่วนใหญ่มักจะพร้อมรบง่ายอยู่แล้วกระตุ้นให้เขาร่วมกับเรา ได้ไม่ยากหรอก
วิธีการต่างๆ เหล่านี้เชื่อว่าคนหลายคนคงทำกันได้อยู่แล้วครับ เพราะไม่ได้ยากเย็นเหลือเพียงการตัดสินใจลงมือปฏิบัติเท่านั้นแหละครับ เมื่อได้ลองทำจนประสบผลสำเร็จครั้งหนึ่ง แล้วครั้งต่อไปก็คงไม่ยากเกินไป
ส่วนคุณผู้ชายก็น่าจะมีความเข้าใจในตัวคุณรวมทั้ง อารมณ์ของคุณมากขึ้นไปอีก ถ้าเข้าใจกันแล้วล่ะก็อาจจะไม่ต้องทำอะไรให้วุ่นวายเลยก็ได้ ของแบบนี้มองตากันหรือพฤติกรรมกันก็เข้าใจกันแล้วล่ะครับ
เปิดใจคุยกัน
วิธีการเหล่านี้เชื่อว่าหลายคนน่าจะนำไปใช้ได้ดี แต่ก็เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่สะดวกใจนะครับ ถ้าอย่างนั้นหาเวลามานั่งคุยกันอย่างเปิดใจกันแล้วล่ะ แต่การคุยเรื่องนี้ส่วนมาก ก็จะเป็นการตัดพ้อของทางฝ่ายหญิงที่ว่า “ทำไมคุณถึงไม่ได้สนใจกับอารมณ์และความต้องการของฉันบ้างเลย” และแน่นอนผู้ชายส่วนใหญ่ก็มักจะตอบว่า “ก็ผมไม่รู้นี่นาว่าเมื่อไหร่คุณจะเกิดอารมณ์ขึ้นมา” ฝ่ายหญิงก็มักจะตามติดว่า “ก็เพราะคุณไม่สนใจ” ถ้ามัววนอยู่อย่างนี้ก็ไม่มีทางจบด้วยดี จริงๆ แล้วคุณทั้งคู่ควรจะคุยกันให้ดีว่าความต้องการและความสามารถในการตอบสนองของ แต่ละฝ่ายนั้นเป็นอย่างไร จะสังเกตหรือคาดเดากันอย่างไรว่าอีกฝ่ายหนึ่งมีความพร้อมมากน้อยเพียงใด น่าจะเป็นการคุยในทำนองนี้มากกว่าที่จะมาหาเรื่องต่อว่ากันอย่างรุนแรงจะได้ ช่วยกันหาทางออกที่เหมาะสมไงครับ
เรื่องของเซ็กซ์และความต้องการทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงก็เป็นเรื่องธรรมชาติทั้งนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องอะไรที่ผิดปกติเสียหน่อย ปัญหาส่วนใหญ่นั้นเป็นเพียงเรื่องของทัศนคติทางลบเกี่ยวกับเรื่องเพศเท่า นั้นเอง ครับเพราะฉะนั้น ทางออกที่ง่ายที่สุดก็เพียงแค่เปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ และยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเท่านั้นก็พอแล้วครับเท่านี้คุณทั้งคู่ ก็น่าจะใช้ชีวิตคู่กันได้อย่างมีความสุขตลอดไปแล้วล่ะ