ตกเป็นกระแสทอล์คออฟเดอะทาวน์ ชั่วข้ามคืน เมื่อรายการตีสิบ คืนวันอังคารที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้นำเสนอคลิปวิดีโอตัวหนึ่งที่ไปเจอมาในโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่กำลังจะแต่งงานได้สร้างสถานการณ์เพื่อพิสูจน์ความรักของอีกฝ่าย แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็สะเทือนความรู้สึกของฝ่ายชายที่ไม่รู้เรื่องมาก่อนเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่ทางครอบครัวของคุณภาคภูมิ วงศ์ภูมิ หรือ โอ๋ ซึ่งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง ทั้ง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ, แฝด, สี่แพร่ง, ห้าแพร่ง ได้สร้างสถานการณ์ขึ้น เพื่อหลอกคุณภูมิพงศ์ วงศ์ภูมิ หรือ อ๊อบ น้องชายของคุณภาคภูมิซึ่งเป็นเจ้าบ่าว ด้วยหวังจะพิสูจน์ความรักของเขาที่มีต่อว่าที่เจ้าสาว ซึ่งจะแต่งงานกันในอีกไม่กี่วัน
งานนี้ คุณโอ๋ได้เตรียมงานกับเพื่อน ๆ และคุณนลินพรรณ ศรีคำเลิศ หรือ "นิค" เจ้าสาวของคุณอ๊อบนานนับเดือน รวมทั้งพ่อแม่ของคุณอ๊อบก็ขอร่วมสนุกด้วย นอกจากนี้ คุณโอ๋ยังเช่าโรงพยาบาลไว้เป็นสถานที่ถ่ายทำ พร้อมกับไปซื้อกล้องปากกามาซ่อนไว้ตามมุมต่าง ๆ ทั้งในรถ ตรงบันไดเลื่อนที่โรงพยาบาล และห้องต่าง ๆ เพื่อจะเก็บภาพให้ได้ครบทุกมุม
แผนการณ์ครั้งนี้ก็คือ คุณโอ๋จะแกล้งชวนคุณอ๊อบ ขับรถไปดูสถานที่ถ่ายทำพรีเวดดิ้งกับเขา แต่ระหว่างทางจะให้นางพยาบาลโทรมาบอกว่า "นิค" ว่าที่เจ้าสาว ประสบอุบัติเหตุรถชนได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อดูว่า คุณอ๊อบจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ซึ่งเมื่อคุณอ๊อบทราบข่าวก็ตกใจจริง ๆ แถมคุณแม่และเพื่อน ๆ ที่สวมรอยเป็นตำรวจก็ร่วมวงแกล้งอำคุณอ๊อบด้วย ทำให้คุณอ๊อบเชื่อสนิทใจ และปล่อยโฮกลางโรงพยาบาล
แต่เมื่อคุณอ๊อบเปิดประตูเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย เพื่อที่จะเข้าไปเยี่ยมคุณนิค ทันทีที่เปิดม่าน เขากลับได้พบหน้าคุณนิคและเพื่อน ๆ เต้นเพลง Nobody ของสาว ๆ วง Wonder Girl เพื่อเซอร์ไพรส์คุณอ๊อบ ก่อนที่จะได้รู้ว่า นี่คือการอำกันนั่นเอง แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้ง และฝ่ายเจ้าสาวก็ได้รู้ว่า ว่าที่เจ้าบ่าวรักเธอจริง ๆ
ทั้งนี้ คุณอ๊อบ คุณนิค พร้อมด้วย คุณโอ๋ พี่ชายผู้วางแผนการณ์ทั้งหมด ก็ได้มาพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรายการตีสิบด้วย โดย คุณอ๊อบ บอกว่า ตอนที่รู้ความจริงว่า เจ้าสาวไม่ได้ประสบอุบัติเหตุ เขารู้สึกชาไปหมด แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกโล่งราวกับตื่นจากฝันร้ายที่คุณนิคไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่เขาคิด และไม่ได้รู้สึกโกรธเลย เพราะความรู้สึกดีใจมันมากลบไปหมด
อย่างไรก็ตาม หลังจากรายการจบลง ก็ได้มีชาวโลกไซเบอร์ตั้งกระทู้พูดคุยถึงประเด็นนี้กันอย่างมากมาย พร้อมกับตั้งคำถามว่า การพิสูจน์รักด้วยการแกล้งอำกันเช่นนี้รุนแรงเกินไปหรือไม่ และหากเป็นตัวเองจะรับได้หรือเปล่า ซึ่งก็มีคนเข้ามาตอบ พร้อมกับแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่บอกว่า หากเป็นตัวเองก็คงโกรธมากที่มาล้อเล่นกับความรู้สึกแบบนี้
ขณะที่ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งก็มองว่า รายการตีสิบไม่ควรนำเรื่องราวของคนอื่นที่ถูกแกล้งเหมือนกับเป็นตัวตลกมาออกอากาศต่อสาธารณะ เพื่อสร้างกระแสให้รายการ เพราะคนที่โดนกับตัวเองก็คงขำไม่ออกเช่นกัน หรือเป็นเพราะรายการไม่มีอะไรจะนำเสนอแล้ว