ในสมัยที่ผมบวชใหม่ๆ เป็น พระใหม่ (นวกะ) ที่วัด บรมนิวาสราชวรวิหาร (โบ้เบ้) ในตอนนั้น..... ท่าน....พระเดชพระคุณ ท่านเจ้าคุณ พระพรหมมุนี (บู่ สุจินโณ) ชั้นหิรัญญบัตร (ชั้นรองสมเด็จ) ยังมีชีวิตอยู่ สมัยนั้น ผมนับว่า โชคดี แสนเหลือเกิน ที่ได้ท่านเป็น ผู้อบรมสั่งสอน เป็นรุ่นสุดท้าย เพราะได้รู้ ในสิ่งที่คนอยู่ไม่รู้มากมาย *และหาก......จะมี...สิ่งหนึ่ง สิ่งใด ที่เป็น กุศล เกิดขึ้น จากการนี้ ขอยก...ผลบุญทั้งหมดนี้ ถวายแด่ ท่าน ผู้เป็นเสมือน บุพพการี ของผม ในบวรพระพุทธศาสนา เช้าวันหนึ่ง ณ พระอารามหลวง ชั้นโท หลัง ทำวัตรเช้า เสร็จ หลวงพ่อ พระเดช พระคุณ พระพรหมมุนี ท่านได้ประชุมสงฆ์ สาเหตุที่ประชุมสงฆ์ ก้อเนื่องมาจาก.....เมื่อเช้าตรู่ ของวันนั้น มีข่าว.....ที่น่าสลด หดหู่ ยิ่งนัก มันเหมือน สัตว์นรก ไม่ใช่คน ไม่น่าเป็นคน แต่ไม่รู้ว่า.....เป็นเพราะ บุญ หรือ บาป ที่ทำให้ แม่ชั่วๆ คนนี้ เกิดขึ้นมาในโลกใบนี้
ตำรวจ.....ได้รับแจ้งว่า ได้มี พลเมืองดี ไปแจ้งความว่า ได้พบศพ เด็กชาย อายุประมาณ 7 เดือน ลอยอยู่ใน คลองหลัง วัดบรมนิวาส ราชวรวิหาร สภาพศพ....มีสภาพ ถูก......หั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำใส่ถุง....พลาสติก โยนทิ้งลงมา ในลำคลอง แห่งนี้ เมื่อเปิดถุง...ออกมา ทุกคนในที่นั่น.....ต่างหัน หน้าหนี.....บางคน....ทนไม่ไหว ถึงกับ อ้วก...พุ่งสวน ออกมาเลยทีเดียว ภายในถุง......นั้น มีแต่กลิ่น....คาวเลือด และเศษ....ชิ้นส่วน ของมนุษย์ กระจายอยู่เต็มถุง เมื่อสอบถาม.......ไม่มีใครรู็ว่า เป็นลูกของใคร ตำรวจ...จึงสันนิษฐานว่า แม่ใจร้าย เอาลูกออกและกลัวความผิด เลยทำการ หั่นศพ ลูกของตนเอง และยัดใส่ถุงพลาสติก โยนทิ้ง แล้วลอยมาติดที่ท้ายวัดแห่งนี้ เกิดความสะเทือนขวัญและสยดสยอง แด่ผุ้พบเห็นมิใช่น้อย ท่ามกลาง...เสียงแช่งด่า แม่ผู้ใจร้าย ที่มีจิตใจเหมือนสัตว์นรก รายนี้
เมื่อทำวัตรเช้าเสร็จ หลวงพ่อ ท่านเจ้าคุณ จึงประชุมสงฆ์ เพื่อจะเล่า เหตุการณ์ เหตุการณ์หนึ่งให้ฟัง ซึ่งแตกต่างกัน อย่างสิ้นเชิง ระหว่าง แม่ที่เป็นคน ทีี่่่่่มี....จิตใจ เหมือนสัตว์ กับ สัตว์เดรัจฉา ที่มีจิตใจ สวยงาม ยิ่งกว่า....เสียอีก เรื่องมี....อยู่ว่า ในเวลา ตี 4.30 น. ของทุกๆวัน จะต้อง...ตีระฆัง วัดเพื่อเป็นสัญญาณ ให้พระเณร ภายในวัด ได้ล่วงรู้ว่า.....เหลืออีก 30 นาที จะถึงเวลา.......ปฏิบัติกิจของสงฆ์ ในเช้าวันใหม่แล้ว ซึ่งระฆัง...ของ วัดบรม นั้น ไม่ได้เป็นเพียง เสียงนัดหมายของ พระเณร ในวัดเท่านั้น ชาวบ้าน แม่ค่า ร้านรวง แถวนั้น ก็ใช้......เสียงนี้แหละ.....เป็นสัญญาว่า กำลังจะต้อง ตื่นมาเตรียมตัว ต้อนรับเช้าวันใหม่ ด้วยความที่ สมัยก่อนนั้น ยังไม่มี....ตึกมากมาย เหมือนอย่าง....ทุกวันนี้ เสียงระฆังนี้ จึงดังไปได้ถึง วัดบวรนิเวศ ที่บางลำภู เลยทีเดียว เรียกว่า พอวัดนี้ตี อีกวัด ก้อต้องตี เช่นเดียวกัน.
พอเวลาประมาณ 4.00 น.พี่ที่มีหน้าที่ตี ระฆัง ก็จะต้อง เตรียมตัว มาก่อนผุ้ใด เพราะ ระฆัง ที่นี่นั้น ต่างจากที่อื่น ที่ว่า.....ต่าง ก็เพราะ ในการตีระฆัง จะต้องปีน ขึ้นไปที่อีกตึกหนึ่ง ซึ่งอยูู่ ฝั่งตรงข้ามกับ หอระฆัง พระที่ทำหน้าที่ จะต้อง ดึงเชือก จากตึก.....อีกตึกหนึ่ง เพื่อดึง เชือกมะลิลา เส้นใหญ่ ที่ผูกระฆังไว้ ให้มันโยกไปมาอย่างแรง เพื่อให้มันตีระฆังได้ ซึ่งในสมัยนั้น ยังไม่ได้ติดตั้ง ระฆังไฟฟ้า อย่างเช่น ทุกวันนี้
เสียงของระฆัง ที่วัดนี้ ยังเป็นเสมือนเสียง สัญญาเตรียม เข้างานของ สถานที่หนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไป ไม่ไกลนัก นั่นก็คือ โรงเชือดหมู นั่นเองเมื่อทางวัด ตีระฆัง เฮีย แก ก็จะตื่นมา เตรียมเปิดโรงเชือด เพื่อเชือด หมู ไปส่ง.....ตลาดในระแวง ใกล้เคียง เพราะฉะนั้น เสียงระฆัง วัดบรม นั้น เปรีัยบเสมือน เสียงออด เข้างานเลยทีเดียว และในเช้าวันนั้น ก็เช่นเดียวกัน หลวงพี่ ผู้ทำหน้าที่ พิทักษ์รักษา ระฆัง ก็รีบจัดการ ภาระกิจ ส่วนตัว เพื่อ จะมาตีระฆัง ให้ทันเวลา เพราะ หากวัน บรมนิวาส ไม่ตี วันบวร ก็จะยังไม่ตี จนกว่าจะได้ยินเสียง จากวัดบรม เหตุการณ์ ผ่านไป.....จนถึง ในช่วง บ่ายหลวงพี่ ผู้พิทักษ์ระฆัง เมื่อฉัน ภัตรหาร เสร็จเรียบร้อย การเข้าจำวัด ในขณะ....ที่นอนหลับไปนั้น ท่านได้....ฝัน กลางวันไปว่า ท่านยืน อยู่ที่หอระฆัง กำลังจะดึงเชือก เพื่อตี ระฆัง ในทันใดนั้นเอง ได้ยินเสียงของ.....หญิง คนหนึ่ง พูดกับท่าน ด้วยน้ำเสียงที่เคารพ และปนไปด้วยน้ำเสียงที่ อ้อนวอน ว่า พระคุณเจ้า....เจ้าขา......โยม อยากจะขอให้ ท่านได้โปรด.....เมตตา...ดิฉันและลูกๆ ด้วยเถอะค่ะ หลวงพี่ ระฆัง (นามสมมุติ ที่เรา ล้อเลียน ท่านกัน) เมื่อได้ยินเสียงของ โยมผู้หญิง แต่ไม่เห็นตัว จึงได้ร้องถามว่า นั่นใคร......อยู่ตรงไหน แล้วมาทำอะไรที่นี่ สิ้นเสียง ท่านก็ต้องประหลาดใจ เมื่อเบื้องหน้าท่านนั้น....... เป็น หมู ตัวหนึ่ง มายืนอยู่ตรงหน้า ขว้างทางท่านอยู่ ท่านถามว่า โยม รึ....ที่พูด เมื่อกี้....... แม่หมู รับคำในทันที......ใช่ เจ้าค่ะ เท่านั้นแหละครับ หลวงพี่ ระฆังแทบลมจับ เมื่อได้ยิน ได้เห็นหมู พูดได้........... แต่ด้วยหน้าที่ เทพเจ้าพิทักษ์ระฆัง จำเป็นที่จะต้องรีบไป ตีระฆัง....จึงได้พูดขึ้นว่า.... เจ้ามาขวาง...อาตมาทำไม อาตมา กำลังจะรีบไปทำกิจของสงฆ์ แต่...แม่หมู กลับยืนขวางเอาไว้ และพูดว่า.... ท่านเจ้าคุณ..ขา.. งด....ตีระฆัง สักวันได้ไหม พระคุณเจ้า ช่วยเหลือ ดิฉันและลูกสักครั้งได้ไหม เจ้าค่ะ หลวงพี่ จึงร้องถามไปว่า เจ้ามาขอเรื่องแบบนี้ทำไม คือว่า ดิฉันนั้น ตอนนี้ได้ตั้งครรภ์ และกำลังจะคลอดวันนี้ หากท่าน.....ตีระมัง ดิฉันและบรรดาลูกๆของดิฉัน ก้อต้องตายไปด้วย หากท่าน งด สักวันหนึ่ง ให้ดิฉันไป รักษาชีวิต ของลูก ดิฉันไว้ เมื่อคลอดแล้ว ดิฉันก็พร้อมที่จะตาย ขอแต่เพียงให้ลูกๆ ของดิฉันได้ ลืมตามาดูโลก ก่อนนะเจ้าค่ะ
ในฝัน....ท่านได้รับปาก แม่หมู..... และท่านก็ได้ สะดุ้ง...ตื่น แต่เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ท่านได้เก็บเอาไว้เป็นความลับ ไม่ได้เปิดเผยให้ใครได้ ล่วงรู้ แต่ในใจก็ กำลังใช้ ความคิดว่า มันเป็นเรื่องจริง หรือไม่ อย่างไร และแล้ว เวลาที่ต้องตี ระฆังใน เข้าวันใหม่นั้น ก็มาถึง......ท่านได้แต่....ครุ่นคิด อยู่เพียงผู้เดียวว่า..... มันเป็นความจริงหรือไม่ และหากไม่ตี ระฆัง......ท่านจะทำอย่างไร ให้พระทั้งวัด มาทำวัดได้ ผ่านไป....พักใหญ่ ท่านก็็รีบ ห่มจีวร.... และออกเดินไปตามกุฎิ ในทันที....เพื่อไปเรียก พระทั้งวัด มาทำวัด เมื่อพระ....มาร่วมกันครบ จึงได้....ทำวัตร ต่อไปโดยที่ ไม่มีผู้ใดได้ถามว่า เหตุใด ทำไมไม่ตี ระฆัง เหมือนเช่นทุกวัน เช้าวันนั้น เวลาประมาณ 07.30 น. เฮีย เจ้าของโรงเชือดหมู ก็ได้หอบกับข้าว ใส่ปิ่นโต มาถวาย หลวงพ่อ และได้ สอบถามว่า เหตุใด.....วันนี้....จึงไม่ได้ ตีระฆัง ดังเช่น ทุกวันที่ผ่านมา ทำให้...ทางกระผมนั้น....ไม่ได้เปิดโรงเชือดเลย เพราะ ทั้งกระผมและลูกน้อง ต่างก็....ถือเอา เสียงของระฆัง ที่วัดเป็นเครื่องหมาย ในการนัดแนะว่า ถึงเวลา....เปิดโรงเชือดแล้ว ทำให้วันนี้ กระผม...ตื่นสาย จึงเปิดโรงเชือดไม่ทัน ตลาดต่างๆในละแวกนี้ จึงไม่มี เนื้อหมูขายเลย เมื่อได้ยิน เช่นนั้น ท่านจึงได้ให้ เด็กวัดไปเรียก หลวงพี่ระฆัง มาเพื่อ สอบถาม...และได้สอบถาม จนได้ความ..... ฝ่าย....เฮีย ก็...ยืนยันว่า ไม่มีนะครับ ไม่มีหมู....ที่ท้องนะครับ พอกลับมา จึงได้เดินมาดู ปรากฎว่า....... เห็น...แม่หมู ตัวหนึ่งได้ คลอดลูกออกมา 4 ตัว เมื่อถามคนงาน คนงานจึงบอกว่า คลอดเมื่อตอน เช้านี้เองครับ เห็นไหม.......ครับ ขนาดหมู มันยังรักลูก ของมันมาก ขนาดคิดหาวิธีว่า จะทำอย่างไรได้ เพื่อรักษา.... ชีวิตลูกน้อยของมัน เพื่อให้...ลืมตามองโลกได้ และอาจจะด้วย เหตุแห่งความรัก ที่บริสุทธินี้เอง ทำให้ จิต ของมันนั้น มีพลังสามารถ ส่งออกไปยัง หลวงพี่ระฆัง เพื่อขอชีวิต แต่ท่านได้ ท่านจะเห็นว่า......แม้แต่.....หมู มันยังสามารถ..........ใช้ประโยชน์ จาก กระแสจิต ของมันได้เลย เพราะฉะนั้น มนุษย์ตัวเหม็น อย่างเรา ทำไมจะทำไม่ได้ หากมีจิตอันบริสุทธิ ที่ฝึกไว้ดีแล้ว