เมื่อชีวิตประสบกับความยากลำบาก คนที่ฮึดสู้นั้นควรจะนึกขอบคุณพ่อของตัวเอง  งานวิจัยใหม่จาก Brigham Young University นั้นได้ชี้ให้เห็นว่าคุณพ่อทั้งหลายนั้นอยู่ในตำแหน่งพิเศษที่จะช่วยให้ลูกๆ ที่กำลังจะเติบโตมีพัฒนาการในด้านความดึงดันไม่ยอมแพ้ได้

งานวิจัยชิ้นใหม่พบว่า ผู้เป็นพ่อนั้นสามารถถ่ายถอดความดื้อดึงไม่ย่อท้อให้กับลูกๆของตนได้

ศาสตราจารย์ Laura Padilla-Walker และ Randal Day ได้ค้นพบเรื่องดังกล่าวหลังจากติดตาม 325 ครอบครัวมาเป็นเวลาหลายปี และในขณะที่เวลาผ่านไปเรื่อยๆนั้น ความดื้อดึงที่ได้รับมาจากผู้เป็นพ่อนำไปสู่การมีส่วนร่วมในโรงเรียนมากขึ้น รวมถึงทำให้อัตราความไม่รับผิดชอบนั้นลดน้อยลงด้วย

“เราถามคำถามอย่างเช่น ‘ลูกของคุณยึดมั่นกับหน้าที่ได้ไหม พวกเขาทำโครงงานจนจบได้หรือเปล่า เด็กๆตั้งเป้าหมายแล้วทำให้สำเร็จได้หรือไม่” Day กล่าว “การเรียนรู้ที่จะยึดมั่นกับหน้าที่นั่้นจะเป็นหลักให้กับเด็กๆเพื่อที่จะ เติบโตและรับมือกับความเครียดและความกดดันต่างๆที่จะเข้ามาในชีวิตได้” 

ศาสตราจารย์ทั้งสองท่านได้รายงานการค้นพบของพวกเขาในวารสาร Journal of Early Adolescence เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา

“งานวิจัยที่เน้นย้ำถึงบทบาทเฉพาะของผู้ เป็นพ่อนั้นมีอยู่ค่อนข้างน้อย” Padilla Walker กล่าว “งานวิจัยชิ้นนี้ได้ช่วยเน้นถึงความสำคัญของคุณลักษณะเช่นความดื้อดึง ซึ่งสามารถสอนให้กันได้นั้น เป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จในชีวิตของตัวเด็กอีกด้วย”

สิ่งสำคัญก็คือคุณพ่อนั้นจะต้องฝึกฝนสิ่ง ที่เรียกว่า การเป็นพ่อแม่ที่ “มีความน่าเชื่อถือและไว้ใจได้” ด้วย ซึ่งประเด็นหลักๆนั้นมีอยู่สามข้อดังต่อไปนี้

เด็กๆ รู้สึกถึงความอบอุ่นและความรักจากผู้เป็นพ่อ มีการเน้นถึงความสำคัญของความรับผิดชอบและเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังกฏเกณฑ์ข้อบังคับต่างๆ เด็กมีอิสระในการทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองในระดับที่เหมาะสม

คุณพ่อกว่า 52% ในงานวิจัยได้แสดงถึงการเลี้ยงบุตรด้วยวิธีการดังกล่าวในระดับสูงกว่าค่า เฉลี่ย ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ลูกๆ ของพวกเขานั้นมีความเป็นไปได้อย่างสูงที่จะมีพัฒนาการในด้านความดื้อดึงไม่ ย่อท้อขึ้น ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์จากโรงเรียนที่ดีขึ้น และทำให้ความขี้เกียจและไม่รับผิดชอบนั้นลดน้อยลงด้วยเช่นกัน

งานวิจัยครั้งนี้ได้สำรวจเด็กอายุตั้งแต่ 11-14 ปีที่อาศัยอยู่ในบ้านที่มีทั้งพ่อและแม่อยู่กันครบทั้งสองคน 

อย่างไรก็ตาม ผู้ทำการวิจัยได้ชี้ว่าผู้ปกครองตัวคนเดียวก็อาจจะมีบทบาทในการสอนประโยนชน์ ของการดื้อดึงได้เช่นกัน โดยเป็นหนทางสู่การวิจัยเพิ่มเติมในอนาคตด้วย

“ผู้เป็นพ่อนั้นควรพยายามที่จะอยู่กับลูกๆ และเข้าไปเกี่ยวข้องในชีวิตของลูกๆ ต่อไป รวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกๆ อย่างมีคุณภาพด้วย ถึงแม้ว่าจำนวนครั้งนั้นอาจจะน้อยกว่าที่ควรจะเป็นก็ตาม” Padilla-Walker กล่าว

 

ที่มา : http://www.sciencedaily.com/releases/2012/06/120615103529.htm