“ครอบครัวน้องปอนด์” สาวโชว์เต้ากระทบหนัก ชุมชน-ครูรังเกียจ-รุมประณามผู้จัด

แพร่ - ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ทรงพระเมตตาช่วยเหลือครอบครัว “น้องปอนด์” สาวโชว์เต้าแล้ว ขณะที่ครอบครัวได้รับผลกระทบหนัก ถูกคนในชุมนุมเหยียดหยาม แถมน้องสาวไม่กล้าไปโรงเรียนหลังถูกเพื่อนรวมถึงครูแสดงความรังเกียจออกนอก หน้า สภาวัฒนธรรมแพร่ตั้งโต๊ะแถลงประณามผู้จัดรายการไร้ศีลธรรมจ้างปอนด์ ออกรายการมองแต่กำไรทางธุรกิจ เผยสภาพครอบครัวสาวโชว์เต้า มีลูกวัย 6 เดือน พ่อเป็นอัมพาตมานาน 12 ปี ต้องเข้ากรุงหาเงินเลี้ยงครอบครัวทั้งหมด
       
       เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่ ศาลากลางจังหวัดแพร่ นายเอกชัย วงศ์วรกุล ประธานสภาวัฒนธรรม จังหวัดแพร่ นางแสงพลอย มุ้งทอง นายกสมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชุมชนจังหวัดแพร่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีนางสาวดวงใจ จันทร์เสือน้อย หรือน้องปอนด์ ชาวจังหวัดแพร่ ร่วมโชว์การแสดงที่ไม่เหมาะสมออกรายการไทยแลนด์ ก็อตทาเลนท์ ส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมและวัฒนธรรมของชาวจังหวัดแพร่
       
       นายเอกชัยกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นรายการโทรทัศน์ เป็นสื่อที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย เป็นที่น่าเสียใจที่ปล่อยให้มีการเผยแพร่ภาพที่ไม่เหมาะสมออกอากาศ ยิ่งทราบว่าเป็นการจ้างวานน้องปอนด์เพื่อให้ออกรายการ ถือเป็นการทำเพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยตอนแรกคิดว่าเป็นความคิดของน้องปอนด์ แต่เมื่อได้สอบถามแล้วพบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากบริษัทที่จัดรายการเป็น ผู้จ้างวาน ในเรื่องนี้สภาวัฒนธรรมต้องขอประณามว่า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องขัดต่อหลักศีลธรรมอันดีของสังคมไทย
       
       ส่วนตัวน้องปอนด์ ซึ่งทำงานอยู่ใน กทม.ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อไปดูเหตุผลที่ต้องยอมไปแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีตามที่เป็นข่าว พบว่าน้องปอนด์มีลูก 1 คนอายุเพียง 6 เดือนที่ต้องดูแล และที่ผ่านมาต้องดูแลพ่อแม่ และน้องอีก 1 คน อีกทั้งพ่อนั้นเป็นอัมพาตทั้งตัวมานาน 12 ปีแล้ว ทั้งครอบครัวมีที่อยู่อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 13 บ้านนาไผ่ ต.ห้วยอ้อ อ.ลอง จ.แพร่
       
       นายเอกชัยบอกว่า ทราบจากคำบอกเล่าของครอบครัวว่าน้องปอนด์ออกไปทำงานที่ กทม.นานแล้ว โดยบอกให้มารดาดูแลครอบครัว ส่วนเงินที่จะใช้จ่ายจะส่งมาให้ทุกเดือน ซึ่งน้องปอนด์ก็ทำตามนั้นมาโดยตลอด จนมามีปัญหาเมื่อถูกจ้างไปถ่ายออกรายการทีวี
       
       ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เพียงส่งผลกระทบต่อน้องปอนด์ หรือเราได้เห็นสภาพของชีวิตคนในครอบครัวนี้เท่านั้น แต่หลังจากตกเป็นข่าว น้องเอ๋ (นามสมมติ) น้องสาวของน้องปอนด์ เรียนอยู่ชั้น ม.4 โรงเรียนลองวิทยา ไม่สามารถไปโรงเรียนได้เพราะจะถูกเพื่อนนักเรียนที่โรงเรียนพากันเหยียดหยาม แม้กระทั่งคณะครูก็ยังแสดงความรังเกียจและต่อว่าในทางที่ไม่ดีทำให้น้องเอ๋ ไม่อยากที่จะไปโรงเรียนแล้ว ตรงนี้ถือว่าเป็นปัญหาทางสังคมที่หนักกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะที่ผู้ก่อเหตุกระทำเพียงการออกมาขอโทษต่อประชาชนเท่านั้น
       
       “ในฐานะประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดแพร่อยากให้เร่งดำเนินคดี บริษัทที่ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งอยู่ที่ทางกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องเร่งออกมาทำให้สังคมดีขึ้นโดยเร็ว”
       
       ส่วนกรณีที่มีเด็กวัยรุ่นเริ่มมองว่าเป็นการกระทำที่เป็นจุดเด่นและ น่าเอาอย่าง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิงที่เป็นหัวสมัยใหม่ ซึ่งในกลุ่มนี้น่าจะมีจำนวนไม่มากนักนั้น นายเอกชัยบอกว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรีบจัดการให้เกิดความเข้าใจโดยเร่งด่วน
       
       ด้านนางแสงพลอย มุ้งทอง นายกสมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชุมชนจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ประการแรกเลยจะต้องเข้าไปดูแลครอบครัวของน้องปอนด์โดยเร่งด่วน เพื่อลดภาระของน้องปอนด์ และทำอย่างไรให้น้องปอนด์เลือกทางเดินที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ ในเบื้องต้นต้องทำให้คนที่เดือดร้อนผ่อนคลายเสียก่อน โดยวันนี้ (20 มิ.ย.) นายกเหล่ากาชาดได้เข้าไปให้การช่วยเหลือแล้วโดยเฉพาะนายเกษม วัฒนธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้ให้ความสำคัญในปัญหาดังกล่าว ซึ่งประการต่อมาจะต้องมองว่าผู้จัดรายการที่ทำให้ปัญหามันเกิดขึ้นจะต้องมี ความผิดอย่างไร ไม่ใช่ปล่อยไปเช่นทุกวันนี้
       
       นางสาวศรุตยา วรรณา ประธานเยาวชนรักถิ่น จ.แพร่ กล่าวว่า ตามข่าวที่ออกไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่เยาวชนเห็นอยู่อย่างต่อเนื่องที่หลายกลุ่มก็มองว่าเป็นความดี งามไปแล้ว แม้แต่ดาราก็ทำอยู่เป็นประจำ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีเยาวชนสนใจที่จะเอาเป็นแบบอย่างเช่นเดียวกับ แนวทางของรายการ ยิ่งมองผู้ที่ออกไปแสดงเป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก การออกไปทำมันกลายเป็นเรื่องง่ายของสังคมไปแล้ว ทางออกนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งดำเนินการอย่าปล่อยให้ผ่านไป
       
       ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าดูสภาพบ้านของน้องปอนด์ พบว่าทางบ้านมีรายได้ที่น้องปอนด์ส่งมาให้เท่านั้น และกำลังมีสภาพย่ำแย่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งญาติพี่น้องทางบ้านไม่ได้ดูทีวีในรายการดังกล่าว แต่ทราบข่าวภายหลัง โดยเฉพาะน้องสาวของน้องปอนด์ได้รับข่าวจากทางโรงเรียน ส่วนบิดาน้องปอนด์ไม่ทราบเรื่องทั้งหมดเพราะนอนเป็นอัมพาตมานานถึง 12 ปีแล้ว
       
       อย่างไรก็ตาม ในขณะที่กระแสข่าวแพร่สะพัดมากขึ้น ยิ่งทำให้ครอบครัวของน้องปอนด์ไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ เพราะในชุมชนต่างมองเห็นเป็นสิ่งที่ไม่ดี และพากันเหยียดหยาม ทำให้สุขภาพจิตของคนทั้งครอบครัวทรุดหนัก
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังที่ตกเป็นข่าวมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริโสภาพรรณวดี ทรงพระมหากรุณาธิคุณประสานงานผ่านอำเภอลอง จังหวัดแพร่ เพื่อเข้าช่วยเหลือครอบครัวของน้องปอนด์แล้วในขณะนี้

Credit: manager.
20 มิ.ย. 55 เวลา 18:19 2,234 5 50
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...