5 ประเทศที่คุณอาจไม่อยากไปเยือนในวันข้างหน้า

 

 

 

 

 

 

5 ประเทศที่คุณอาจไม่อยากไปเยือนในวันข้างหน้า

 



          โลกเราในปัจจุบัน มีประเทศมากมาย รอให้คุณได้ไปเที่ยวชม สัมผัสวัฒนธรรม และความงดงามของประเทศนั้น ๆ อย่างไรก็ตาม อาจมีบางประเทศที่คุณไม่อยากไปเช่นกัน สาเหตุสำคัญอาจเป็นเพราะปัญหาทั้งการเมืองภายในและภายนอกที่ประเทศเหล่านั้น กำลังเผชิญอยู่ ประกอบกับการขอวีซ่าเข้าประเทศที่แสนจะยากเย็นเหลือเกิน หรือการถูกบอยคอตจากประเทศมหาอำนาจ ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่อยากไปเที่ยวชมประเทศ เหล่านั้น ทั้งนี้ เว็บไซต์ buzzfeed.com ได้ทำการจัดอันดับ 5 ประเทศที่ที่คุณอาจไม่อยากไปเยือนในวันข้างหน้า ...จะเป็นเพราะอะไร มาดูกัน 



 1. แองโกลา 

แองโกลา เป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในแอฟริกา แต่กลับเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก กำลังประสบปัญหาจากผลกระทบของสงครามต่อสู้เพื่ออิสรภาพที่ยืดเยื้อ ยาวนานกว่า 27 ปี ได้สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล และก็ไม่ง่ายนัก หากคุณต้องการไปท่องเที่ยวแองโกลา ด้วยขั้นตอนและเอกสารหลักฐานการเข้าประเทศที่ค่อนข้างจะเยอะและยุ่งยาก เช่น วีซ่าที่ต้องใช้เวลาขอนานถึง 3 เดือน และหากคุณต้องการขอวีซ่าและใบอนุญาตเข้าประเทศ คุณต้องผ่านการตรวจสุขภาพและได้รับการยืนยันว่าได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน โรคไข้เหลืองแล้ว 

นอกจากนี้ การไปเยือนแองโกลา ยังต้องมีจดหมายรับรอง 2 ฉบับจากประเทศนั้น ๆ ส่งไปยังประเทศแองโกลา พร้อมแบงค์ สเตทเมนต์ หรือรายการเงินเข้าออกแต่ละเดือนของบัญชีเพื่อเป็นการยืนยันว่า คุณมีเงินทุนเพียงพอ อย่างน้อย 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,000 บาท ต่อวัน 

 


 2. อิหร่าน 

อิหร่าน นับเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นดินแดนแห่งอารยธรรมอันเก่าแก่ที่สุดในโลก ที่ได้กลายเป็นสาธารณรัฐอิสลามในปี ค.ศ. 1979 อย่างไรก็ดี ในปี ค.ศ. 2002 อดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ของสหรัฐฯ โจมตีว่าอิหร่านเป็นแกนนำประเทศกลุ่มต่อต้าน เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า รัฐบาลอิหร่านกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อยู่ ทำให้ทั้งสองประเทศปฎิเสธความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน และด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ตึงเครียดนี้เอง ทำให้การท่องเที่ยวเป็นไปได้ยาก 

ทั้งนี้ หากใครต้องการขอวีซ่าไปอิหร่าน จะต้องไปทำการขอที่ "Iranian Interests Section" ในสถานฑูตปากีสถาน และจะต้องมีคำรับรองจากคนที่อยู่ในอิหร่านที่ต้องการให้คนที่ขอวีซ่าเข้า ประเทศด้วย จึงจะได้วีซ่า แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าคุณจะทำการขอวีซ่าเข้าประเทศอย่างถูกต้องตามขั้นตอนที่ว่าแล้ว รัฐบาลอิหร่านก็มีสิทธิ์กักขัง หรือจับกุมนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศโดยเหตุปิดปังเหตุผลที่แท้จริง 

 


 3. คิวบา 

หลังจากเผด็จการ ฟูลเจนซิโอ บาติสตา ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ถูกโค่นล้มอำนาจโดยคณะปฎิวัติที่นำโดย ฟิเดล คาสโตร หัวหน้ากลุ่มคอมมิวนิสต์ในปี ค.ศ. 1959 คิวบาก็อยู่ภายใต้การปกครองระบอบคอมมิวนิสต์มาจนถึงปัจจุบันภายใต้การปกครอง ของ ราอูล คาสโตร ประธานาธิบดีคิวบาคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นน้องชายของ ฟิเดล คาสโตร ที่ลงจากตำแหน่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สหรัฐฯ ไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงทำการบอยคอตคิวบาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ชาวอเมริกันถูกสั่งห้ามไม่ให้ไปเที่ยวคิวบา ยกเว้นว่าได้รับใบอนุญาตพิเศษ เช่น ไปเยี่ยมญาติ หรือเรียนโปรแกรมพิเศษ หรือเรื่องของศาสนา 

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการไปท่องเที่ยวคิวบาส่วนใหญ่ ก็จะหลีกเลี่ยงการเดินทางจากสหรัฐฯ เพราะผิดกฎหมายแน่นอน แต่ก็จะไปจากประเทศใกล้เคียงเช่น เม็กซิโก แคนาดา หรือบาฮามาส 

 


 4. เกาหลีเหนือ 

เกาหลีเหนือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์ และมีนโยบายทางการเมืองที่ทำให้ประเทศมหาอำนาจต้องหวาดกลัว นั่นคือ การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เพื่อถ่วงดุลอำนาจโลก และถึงแม้ว่าผู้นำเผด็จการ คิม จอง อิล จะเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ทายาทของเขา คือ คิม จอง อึน ก็ไม่ได้สั่งยกเลิกปฏิบัติการนิวเคลียร์แต่อย่างใด แต่กลับเดินหน้าพัฒนาอย่างเต็มพิกัด นอกจากนี้ เกาหลีเหนือก็ไม่มีความสัมพันธ์ทางการฑูตกับสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกับ อิหร่าน ซึ่งหากชาวอเมริกันคนใดสนใจจะไปเที่ยวเกาหลีเหนือล่ะก็ เป็นที่่รู้กันว่าสถานฑูตสวีเดนประจำสหรัฐอเมริกาสามารถติดต่อเรื่องนี้ได้ 



 5. ทิเบต 

ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จีนประกาศสั่งห้ามนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปเที่ยวทิเบต ดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา ที่จีนอ้างสิทธิ์ว่าเป็นดินแดนของจีน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้เกิดกรณีพิพาทกันมาบ่อยครั้ง ในขณะที่ประชาชนชาวทิเบตส่วนใหญ่เคารพในองค์ ดาไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของพวกเขา โดยองค์ดาไล ลามะ กล่าวว่า วัดวาอารามของทิเบตส่วนใหญ่ถูกทำลายในระหว่างการเกิดการปฎิวัติโดยประชาชน จีนในช่วงทศวรรษ 1960 และ 1970 ประชาชนชาวทิเบตกว่า 1.2 ล้านคน เสียชีวิตภายใต้การปกครองของจีน ซึ่งแน่นอนว่าทางการจีนออกมาปฎิเสธว่าไม่เป็นความจริง


Credit: http://www.babnee.com/knowledge-id2368.html
19 มิ.ย. 55 เวลา 15:02 9,928 6 250
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...