สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ภาพ ของคุณแม่ยังสาวชาวจีนรายหนึ่งที่นอนข้างลูกที่เพิ่งทำแท้งออก ถูกเผยแพร่ไปทั่วอินเทอร์เน็ตจีน พร้อมระบุหญิงสาวในภาพท้อง 7 เดือน แต่ถูกทางการบังคับให้ทำแท้ง ตามนโยบายลูกคนเดียวของจีน

          รายงานระบุว่า คุณแม่ชาวจีนรายนี้ มีนามว่า นางเฝิง เจียนเหม่ย วัย 23 ปี จากเมืองอันคัง มณฑลชานสี เธอได้แต่งงานตั้งแต่อายุ 17 ปี และมีลูกสาวหลังจากนั้น 1 คน แต่เมื่อต้นปีนี้ เธอพบว่าเธอได้ตั้งครรภ์อีกครั้ง แต่ทางการกลับไม่อนุญาตให้เธอมีลูกอีก เพราะพิจารณาปัจจัยหลาย ๆ อย่างของเธอ พบว่าเธอไม่มีความเหมาะสมที่จะมีลูกคนที่สอง ก่อนจะสั่งให้เธอไปทำแท้ง แต่ก็ยังมีตัวเลือกให้เธอก็คือต้องเสียค่าปรับจำนวนกว่า 40,000 หยวน (1.8 แสนบาท) สำหรับการมีบุตรคนที่สอง ซึ่งเธอก็ไม่สามารถหาเงินจำนวนมากขนาดนั้นมาได้

          จน ในที่สุดเธอก็ยอมเข้ารับการทำแท้งเอาทารกออกจากครรภ์ขณะที่มีอายุครรภ์ได้ 7 เดือน เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่สถาบันวางแผนครอบครัวประจำเมืองอันคัง ซึ่ง หลังจากที่ทีมแพทย์ได้นำทารกออกมาจากครรภ์เธอแล้ว ก็นำศพทารกมาวางไว้ข้าง ๆ กายเธอ นับว่าเป็นภาพที่กรีดดวงใจของผู้เป็นแม่ซึ่งไม่ได้ยินยอมพร้อมใจฆ่าลูกใน ท้องเลยแม้แต่น้อย

          ทั้งนี้ ครอบครัวชาวจีนส่วนใหญ่ได้รับอนุญาตให้มีลูกเพียง 1 คนเท่านั้น ตามกฎหมายของทางการที่ตั้งขึ้นเพื่อมีเป้าหมายในการลดจำนวนประชากรลงกว่า 1,300 ล้านคน ซึ่งจากมาตรการการควบคุมจำนวนประชากรดังกล่าว ทำให้ในประเทศจีนมีสถิติการทำแท้งถึง 13 ล้านคนต่อปี ทั้งที่เต็มใจทำและรัฐบาลบังคับให้ทำ

          อย่าง ไรก็ดี รัฐบาลจีนไม่ได้บังคับใช้กฎหมายลูกคนเดียวนี้อย่างเคร่งครัดในทุกมณฑล และประชาชนยังสามารถมีลูกคนที่สองได้ แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐบาลระบุไว้เท่านั้น ซึ่งทางการก็ต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ในแต่ละครอบครัวก่อนจะอนุญาตให้ประชาชนมีลูกคนที่สองได้ ขณะ เดียวกัน รัฐบาลจีนก็ยังมีการออกกฎเกี่ยวกับการทำแท้งด้วยว่า ห้ามไม่ให้ทางการท้องถิ่นใด ๆ บังคับหญิงสาวที่มีอายุครรภ์เกิน 6 เดือนไปแล้วทำแท้งเด็ดขาด ซึ่งถ้าหากมีการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบังคับนางเฝิง หรือหญิงตั้งครรภ์มากกว่า 6 เดือนคนอื่น ๆ ทำแท้งจริง เจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องก็จะถูกลงโทษตามกฎหมายต่อไป