นศ.สาวสุดกตัญญู ขอข้าวก้นบาตร ต่อชีวิตแม่น้า ที่เป็นอัมพฤกษ์

สุดสลดพบครอบครัวสุดรันทดของ สาวกำแพงเพชร แม่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ น้าเป็นอัมพาตช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ภาระหนักจึงตกเป็นของน้องจั้มต้องดูแลด้วยความกตัญญู เผยทุกวันต้องขอข้าวพระมาให้แม่กับน้ากิน ส่วนตัวเองอด วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือด้วย…

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า นางพรพรรณ ปลื้มสุข อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 ม.2 ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ว่า ครอบครัวกำลังได้รับความเดือดร้อนลำบากอย่างมาก ตัวเองเป็นอัมพฤกษ์ส่วนน้องชายเป็นอัมพาต มีลูกสาว ซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรเป็นคนดูแล จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ชั้นเดียว ภายในบ้านมีชายหญิง อายุประมาณ 40 ปีเศษนั่งและนอนอยู่ในบ้าน ทราบชื่อ นางพรพรรณ และนายพจน์ ปลื้มสุข อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นพี่น้องกัน โดยแทบไม่มีสิ่งของมีค่าใด ๆ ภายในบ้าน

นางพรพรรณ เล่าว่า ป่วยเป็นอัมพฤกษ์จากการที่เป็นความดันโลหิตสูง เส้นเลือดฝอยในสมองแตก เมื่อประมาณเดือน พ.ย. 2552 ขณะกำลังทำความสะอาดร่างกายให้น้องชายที่ป่วยเป็นอัมพาต เนื่องจากความดันโลหิตสูงจนเส้นเลือดในสมองแตก ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องนอนอยู่กับที่ ขยับเขยื้อนแทบไม่ได้ แต่เดิมครอบครัวที่เป็นอยู่ก็ลำบากมากอยู่แล้ว ยิ่งลำบากขึ้น เงินเดือนที่เคยได้จากการทำงานเป็นแม่บ้านเดือนละ 5,000 บาทก็ไม่ได้อีก เพราะไม่สามารถไปทำงานได้ ปัจจุบันก็ได้ น.ส.พิมลวรรณ หรือ น้องจั้ม เมยประโคน อายุ 19 ปี ลูกสาวคนเดียว ที่กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิชาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ชั้นปีที่ 1 เป็นผู้รับภาระทำงานทุกอย่างในบ้านทั้งหมด

โดยทุกวันตอนเช้า น้องจั้ม ต้องทำงานบ้านเช็ดเนื้อเช็ดตัวเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ทั้งแม่และน้าชาย ชำระสิ่งสกปรกที่ขับถ่ายออกมา แล้วรีบจัดการตัวเองแต่งตัวใส่ชุดนักศึกษาไปขอข้าวจากหลวงตาที่วัดราชพฤกษ์ ศรัทธาราม หลังจากที่หลวงตาบิณฑบาตกลับมาก็เมตตาแบ่งมาให้ทุกวัน จากนั้นนำมาใส่ถ้วยป้อนให้กับแม่และน้าชายก่อนที่ตัวเองจะไปได้ไปเรียนที่ มหาวิทยาลัย จากกิจวัตรที่ต้องทำให้แม่กับน้าชายทุกวัน ทำให้น้องจั้มต้องไปโรงเรียนสายตลอด หรือบางวันก็ไม่ได้ไปเลย

ด้าน น.ส.พิมลวรรณ เปิดเผยว่า ตอน นี้ครอบครัวลำบากมาก รายได้ทางบ้านไม่มีแม้แต่บาทเดียว ต้องอาศัยจากเงินกู้ยืมเรียนเดือนละ 2,000 บาท และบางเดือนก็ได้เงินที่ชาวบ้านข้างเคียงเรี่ยไรมาช่วยเหลือ ที่สำคัญคือ ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ที่แม่กับน้าใส่ตกวันละ 3 – 4 ตัว ซึ่งเป็นภาระหนักที่ต้องเจียดเงินไปซื้อ ตนไม่เคยได้กินข้าวเช้าไปเรียน ตั้งแต่กลับจากโรงเรียนช่วงเย็น ต้องดูแลทุกอย่างในบ้าน ซักชุดนักศึกษาซึ่งมีเพียง 2 ชุดเท่านั้น รอจนกระทั่งแม่และน้าชายหลับ 22.00 น. จึงมีเวลามาอ่านหนังสือ ทำรายงานส่งอาจารย์ ทำให้บางครั้งทำงานส่งไม่ทัน แต่ก็ไม่เคยย่อท้อ เพราะแม่และน้าชายเลี้ยงดูตนมาอย่างดี ในช่วงที่ตนยังเล็ก ๆ ดังนั้นจึงเป็นการตอบแทนผู้มีพระคุณและบุพการีด้วยความกตัญญูรู้คุณ และตัวเองก็ไม่เคยอายที่ครอบครัวเป็นอย่างนี้ แม้ว่าต้องไปขอข้าวหลวงตา ต้องรับเงินจากน้ำใจชาวบ้านที่หยิบยื่นให้ ตนอยากทำงานหาเงินแต่ติดที่ต้องดูแลผู้ป่วยทั้ง 2 คนจนไปไหนไม่ได้

เมื่อถามถึงสิ่งที่อยากได้ในตอนนี้ พิมล วรรณ บอกด้วยน้ำตานองหน้าว่า อยากได้เตาแก๊สไว้หุงต้มอาหาร และเครื่องซักผ้าที่จะสามารถช่วยเหลือแบ่งเบางานซักผ้า ซึ่งในแต่ละวันแม่กับน้าชายทำเปรอะเปื้อนไว้จำนวนมาก ตนจะได้มีเวลาเหลือในการอ่านหนังสือ ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าจะมีหน่วยงานใดมาให้ความช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้บ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หาก ผู้ใจบุญท่านใดอยากให้ความช่วยเหลือ ครอบครัวของเธอ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เสื้อผ้า สามารถติดต่อให้ความช่วยเหลือไปได้ที่เบอร์โทรศัพท์ของ น.ส.พิมลวรรณ 087-8486540 หรือที่ธนาคารกรุงไทย สาขาชากังราว ชื่อบัญชี น.ส.พิมลวรรณ เมยประโคน ประเภทออมทรัพย์ หมายเลขบัญชี 347-0-11795-0

Credit: ไทยรัฐ
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...