ทะเล… ดินแดนที่กินพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกเอาไว้ 
ดินแดนที่ยังไม่มีมนุษย์หน้าไหนชาติใดสามารถอ้างได้ว่า สำรวจมาแล้ว อย่างทะลุปรุโปร่ง 
ใต้ทะเลลึก ยังมีปริศนาอีกมากมาย ซึ่งเราไม่อาจทราบกระจ่างได้ สำหรับนักเดินเรือแล้ว 
ทะเลไม่เคยมีคำว่าน่ารักสำหรับพวกเขา ภยันตรายที่ไม่มีใครคาดเดาได้อาจมาถึงนักเดินเรือได้ทุกเมื่อ 




ทะเล…ยังเต็มไปด้วยคำเล่าลืออีกมากมาย เรื่องลี้ลับที่เป็นทั้งตำนานและเรื่องจริง เหล่ากลาสีผู้เดินทางข้ามน้ำข้ามมหาสมุทรมักจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ยักษ์แห่งท้องทะเล เมื่อพวกเขามาถึงบ้านเกิดเมืองนอน แน่นอนว่าสัตว์เหล่านั้นไม่เคยมีใครพบและไม่เคยมีมาก่อนในสารบบความรู้ทางชีววิทยาที่เรามีอยู่ 

ท่านทั้งหลายอาจเคยได้ยินมาบ้างนะครับ เกี่ยวกับเรื่องของ สัตว์ร้ายใต้ทะเลลึก เช่นว่าเรื่องของปลาหมึกยักษ์ที่เล่าลือกันมานานแสนนาน แม้แต่ปัจจุบันก็ยังมีผู้อ้างว่าพบเห็นมันอยู่ อสุรกายใต้ทะเลเหล่านี้ ส่วนมากเชื่อกันว่าเป็นสัตว์ที่สูญพันธ์ไปแล้ว อย่างเช่น ปลาซีลาคานธ์ ซึ่งเชื่อกันว่าสูญพันธ์ไปแล้วกว่า 70 ล้านปี แต่ก็ยังมีการค้นพบและศึกษาปลาเหล่านี้หลายตัวในแอฟริกาเมื่อปี 1938 โดย ดร.จอนห์ สมิธ 

เช่นเดียวกับในกรณีของซีลาคานธ์ครับ อาจมีสัตว์อีกหลายสปีชี่ส์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ใต้ทะเล โดยที่เรายังไม่ค้นพบ สัตว์เหล่านี้เชื่อกันว่าเป็นสัตว์ที่หลงเหลือจากยุคจูราสสิคและไทรแอสสิค การพบปลาวาฬโบราณอีกหลายๆพันธ์ในฃ่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา ยิ่งทำให้นักลึกลับศาสตร์ทั้งหลายแน่ใจกว่าเดิมว่า ยังต้องเหลือสิ่งมีชีวิตลึกลับอีกมากมายใต้ท้องทะเล ที่มนุษย์ยังไม่รู้จัก และยังคงดำรงชีวิตของมันอยู่อย่างเงียบๆ วันดีคืนดีก็โผล่หน้ามาอวดโฉมให้ชาวเรือตกใจกันเล่นๆ มีบ้างที่มีผู้ถ่ายรูปมันเอาไว้ได้ แต่ส่วนใหญ่เป็นรูปเก๊ครับ อย่างรูปของ เนสซี่แห่งทะเลสาบล็อคเนส นั่นปะไร แต่ละน่านน้ำก็มีเรื่องเล่าของสัตว์ยักษ์ใต้ทะเลที่แตกต่างกันออกไป ผมมีรูปถ่ายและเรื่องราวที่น่าสนใจบางส่วนมาฝากครับ ส่วนจะจริงหรือไม่นี่ยืนยันไม่ได้ เอาไว้จับตัวเจ้าสัตว์ยักษ์พวกนี้ได้จะๆก่อนดีกว่า เชิญทัศนากันตามสะดวกคร๊าบบบ 

6 สิงหาคม 1848 กลาสีเจ็ดคน รวมทั้งกัปตันเรือของเรือเดินสมุทรเดดาลัส ได้เขียนรายงานถึงสัตว์ยักษ์ตัวหนึ่งความยาวราว 60 ฟุต ที่พวกเขาพบขณะเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติค ในรายงานบันทึกว่ามันเป็นสัตว์ทะเลที่ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อน และว่ายน้ำได้เร็วรวๆ 50 ไมล์/ชั่วโมง จนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีรายงานเกี่ยวกับการพบสัตว์ยักษ์ประเภทนี้(คนละตัวหรือเปล่าก็ไม่ทราบ) บ่อยๆตามชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย ..........แต่จริงๆแล้ว 

....Dragon of the Deep / Oarfishเจ้าปลาไหล หรือ มังกรทะเลลึกปลาไหลทะเลลึก.หรือ ปลามังกรทะเล นับเป็นเวลานานมาแล้ว ที่มนุษย์มีความเคลือบแคลง-สงสัย เกี่ยวกับสัตว์ทะเลที่มีชื่อว่า "มังกรทะเลลึก" (Dragons of The Deep) มีนิยายเก่าแก่ ที่บรรยายถึงมังกรทะเลกล่าวไว้ว่า "มังกรทะเล..มีลำตัวยาวคล้ายงู หัวเหมือนม้า มีขนคอสีแดงดุจเปลวเพลิง" 

นักวิทยาศาสตร์ ได้ทำการค้นคว้าหาความจริง ในที่สุด ก็พบความจริงว่า "มังกรทะเลลึก" ที่กล่าวถึงนั้น ที่แท้แล้ว ก็คือ ปลาประหลาดชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า ปลาใบพาย .หรือ ปลาริบบิ้น นั่นเอง บางทีก็เรียกว่า ปลาออร์ (OAR FISH) ปลาชนิดนี้ มีขากรรไกรยาว หน้าผากโหนกคล้ายม้า ตาโต คลีบบนหลัง ยื่นออกมายาวเลยหัว มีคลีบพิเศษ ยื่นออกมาทั้งสองข้างของส่วนหัว คล้ายใบพาย และมีลำตัวแบน ปลาประหลาดชนิดนี้ หาดูได้ยากที่สุดในโลก เพราะมันอยู่ในความลึกของท้องทะเล ถึง 3,000 ฟุต และเคยพบตัวใหญ่ที่สุด มีความยาวถึง 200 ฟุต แม้ว่า สัตว์ประหลาดชนิดนี้ จะมีขนาดใหญ่โตอย่างไร แต่ก็ไม่เป็นพิษ เป็นภัย กับมนุษย์ เพราะมันไม่มีเขี้ยวเล็บอะไร และเป็นสัตว์โลกที่แสนสวย น่าดูมาก ส่วนใหญ่ ก็จะพบในสภาพที่ตายแล้ว 

ทะเลสาบอีกที่หนึ่งที่มีคำเล่าลือเกี่ยวกับสัตว์ลึกลับ ก็เห็นจะเป็นทะเลสาบแชมเพลน ครับ อยู่ระหว่างนิวยอร์คกับเวอรมอนต์ ทะเลสาบนี้มีความยาวมากถึง 109 ไมล์ เจ้าสัตว์ตัวนี้โด่งดังไม่แพ้เนสซี่แห่งล็อค เนส เลยทีเดียว มีรายงานการพบหลายๆครั้งในแต่ละรอบปี ผู้คนต่างขนานนามเจ้าสัตว์ลึกลับตัวนี้ว่า Champ Lusca ครับ นับว่าน่ารักดีทีเดียว ไกลจากอเมริกาออกไปแถบหมู่เกาะบาฮามัส ตำนานเรื่อง ต่างเป็นที่รู้จักกันดีของคนพื้นเมือง จากคำบอกเล่า มันมีลักษณะคล้ายปลาหมึกยักษ์ ภาพด้านบนเป็นภาพถ่ายที่อ้างว่าเป็นภาพของลัสกาครับ จะเห็นได้ว่ามันมีลักษณะคล้ายปลาหมึกมากทีเดียว สิ่งที่เห็นทำให้ใครต่อใครหวนนึกถึงนิทานโบราณ ที่เป็นเรื่องของปลาหมึกยักษ์จากก้นทะเลขึ้นมาโจมตีเรือเดินทะเล พูดถึงปลาหมึกย่าง..เอ๊ย ปลาหมึกยักษ์แล้ว นักเดินเรือแถบแอตแลนติกเหนือก็มีอสุรกายในดวงใจของพวกเขาเช่นกัน มันชื่อตัวคราเกนครับ เป็นปลาหมึกยักษ์ขนาดมหึมา ว่ากันว่าหนวดแต่ละเส้นของมันยาวถึง 200 ฟุต เรียกได้ว่าจมเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ได้สบายๆล่ะครับ 

ส่วนภาพด้านบนนี้เป็นซากของสิ่งมีชีวิตปริศนา ซึ่งถูกกู้ได้โดยเรือหาปลาของญี่ปุ่น ชื่อ MS ซุยโยมารู น่าเสียดายที่ไม่มีลูกเรือคนไหนเข้าไปดูอย่างใกล้ชิด เพราะกลิ่นเน่าอันรุนแรงของมัน นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาภาพถ่ายของซากนี้และเสก็ตซ์รายละเอียดออกมา เห็นมั๊ยครับ ดูรูปร่างแล้วมันไม่เหมือนสัตว์ชนิดไหนที่เรารู้จักเอาซะเลย 

ส่วนภาพด้านบนนี้ เป็นภาพของปลาฉลามสายพันธ์ที่เรายังไม่เคยรู้จักครับ ถูกจับได้โดยเรือรบของราชนาวีสหรัฐเมื่อปี 1976 

เอ.....มันจะใช่แบบเดียวกับเจ้าตัวนี้ที่เจอที่ญี่ปุ่นต้นปีที่แล้วรึปล่าวน๊า 

นับตั้งแต่ปี 1850 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีเรื่องเล่าลือเกี่ยวกับสัตว์ยักษ์แห่งทะเลสาบ โอคานาแกน ในแคนาดา จนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีรายงานว่ามีคนพบเห็นเจ้าสัตว์ตัวนี้กันอยู่ มันมีชื่อว่า โอโกโปโก ครับ

โอโกโปโกเป็นดาราดังพอสมควรในหมู่นักล่าสัตว์ลึกลับ เพราะมีคนถ่ายภาพมันได้บ่อยมาก ใครสนใจภาพของเจ้าตัวนี้ลองหาดูตามเว็บไซต์เมืองนอกนะครับ มีเยอะจริงๆ กลัวแต่ว่ามันจะเป็นกรณีเดียวกับเนสซี่นี่สิฮะ