กรุงโตเกียว นครหลวงของญี่ปุ่น ครองแชมป์เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกของผู้อาศัยที่เป็นชาวต่างชาติ แซงหน้ากรุงลูอันดา เมืองหลวงของแองโกลาอดีตแชมป์เก่า ขณะที่กรุงมอสโกของรัสเซีย ยังคงเป็นเมืองที่มีเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในยุโรป
ทั้งนี้ การประเมิน จะใช้นครนิวยอร์กของสหรัฐฯเป็นฐานสำหรับอ้างอิง เพื่อเปรียบเทียบราคาสินค้าและบริการที่นำมาเปรียบเทียบประกอบด้วยราคาบ้าน สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องนุ่งห่ม และการขนส่ง มากกว่า 200 รายการ
ผลการสำรวจของเมอร์เซอร์ กรุ๊ป พบว่าเมืองที่มีค่าครองชีพต่ำที่สุดสำหรับชาวต่างชาติคือนครการาจีของปากีสถาน โดยมีค่าครองชีพถูกกว่ากรุงโตเกียวประมาณ 3 เท่า รายงานนี้ทำขึ้นทุกปีเพื่อเป็นคู่มือช่วยบริษัทต่าง ๆในการประเมินค่าใช้จ่ายของพนักงานที่ส่งไปประจำในต่างประเทศ โดยได้เปรียบเทียบสินค้าและบริการกว่า 200 รายการใน 214 เมืองทั่วโลก
สำหรับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงโตเกียว คือกรุงลูอันดา ประเทศแองโกลา อันดับ 3 คือนครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น, กรุงมอสโก ประเทศรัสเซียครองอันดับ 4, นครเจนีวาในสวิตเซอร์แลนด์รั้งอันดับ 5, สิงคโปร์ อันดับ 6, กรุงเอ็นจาเมนา ของชาด ในอันดับ 8, ฮ่องกงในอันดับ 9 และเมืองนาโงยาของญี่ปุ่นในอันดับ 10
โดยเมื่อเปรียบเทียบโดยใช้กางเกงยีนส์หนึ่งตัว พบว่า ที่กรุงลูอันดา มีราคาประมาณ 174 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5,394 บาท) ขณะที่ชาวต่างชาติในรัสเซีย ต้องจ่ายค่าหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษประมาณ 9.60 ดอลลาร์ (ราว 297 บาท) ส่วนกรุงโตเกียว ราคากาแฟหนึ่งแก้วตกอยู่ที่ประมาณ 8.15 ดอลลาร์ (ราว 252 บาท) ขณะที่ค่าเช่าอพาร์เมนท์หรูที่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์รายเดือน ตกอยู่ที่ราว 4,766 ดอลลาร์ (ประมาณ 147,746 บาท)
หลายเมืองในกลุ่มยูโรโซนมีอันดับลดลงตามการอ่อนตัวของค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลจากปัญหาวิกฤติหนี้สิน เช่นกรุงปารีส ร่วง 10 อันดับลงมาไปอยู่ที่ 37 กรุงโรมของอิตาลี ดิ่ง 8 อันดับลงไปอยู่ที่ 42 และกรุงเอเธนส์ในกรีซ ดิ่ง 24 อันดับลงไปอยู่ที่ 77 ขณะที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ร่วงจากอันดับ 18 เมื่อปีที่แล้วลงไปอยู่อันดับที่ 25 ขณะที่กรุงโรม กรุงสต็อกโฮล์ม กรุงเวียนนา เมืองอัมสเตอร์ดัม กรุงบรัสเซลส์ และกรุงดับลิน ต่างมีอันดับที่ต่ำลงระหว่าง 7-14 อันดับ
ประเทศที่มีค่าเงินแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เมืองในประเทศนั้นมีอันดับค่าครองชีพสูงขึ้นตามไปด้วยเช่นเมืองในประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เมืองอเดเลดในออสเตรเลียมีอันดับพุ่งขึ้น 19 อันดับมาอยู่ที่ 27