ทั้งนี้ นายนัฎทีกร จักรแก้ว ทนายความ ในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจ เผยว่า นายสุชาติ ผู้เสียหาย รู้จักกับนายเกียรติวงษ์ ศรายุทธ อดีตผู้จัดการธนาคารทหารไทย สาขาตาก ตั้งแต่ประจำอยู่ที่ จ.อุตรดิตถ์ ที่ผ่านมานายเกียรติวงษ์ให้บริการอย่างดี จนกระทั่งย้ายมาเป็นผู้จัดการธนาคารทหารไทยสาขาตาก โดยแต่เดิมเงินในบัญชีฝากประจำ 3 เดือน หมายเลข 377-3-01978-5 มีเงินฝากอยู่ ประมาณ 24 ล้านบาท ต่อมา นายเกียรติวงษ์ ขอให้นำเงินฝากเพิ่มอีก 25 ล้านบาท โดยมีข้อเสนออัตราดอกเบี้ยเงินฝากพิเศษ โดยนำฝาก ในวันที่ 17 มกราคม 2555 รวมยอดเงิน 49 ล้านบาท

 

ต่อมา วันที่ 17 เมษายน 2555 ครบกำหนดฝากประจำ 3 เดือน นายเกียรติวงษ์ได้ขอสมุดบัญชี เพื่อเบิกเงินแทน แล้วจะโอนให้นายสุชาติ ในบัญชีอื่นที่สาขาอุตรดิตถ์ จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น ก็ไม่สามารถติดต่อ นายเกียรติวงษ์จนถึงปัจจุบันนอกจากนี้ยังพบว่า เงินในบัญชีหมายเลข 377-3-02173-2 จำนวน 2 ล้านกว่าบาท ก็ได้ถูกเบิก ไปจนเกือบหมดอีกด้วย รวม สูญเงินในบัญชี รวมกว่า 52 ล้านบาท

 

วันเดียวกัน ธนาคารทหารไทย ส่งแถลงการณ์ถึงกองบรรณาธิการข่าวสดกรณีลูกค้าสาขาตากดังกล่าว มีเนื้อหาระบุว่า "ธนาคารได้ดำเนินการตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นในทันทีที่ได้รับแจ้งเรื่องเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งได้พบว่า มีข้อมูลบางประการไม่สอดคล้องกัน และมีความจำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมโดยผู้เชี่ยวชาญของทางการ ดังนั้น ธนาคารจึงได้เป็นผู้นำเรื่องนี้เข้าสู่การตรวจสอบในกระบวนการยุติธรรม โดยเข้าแจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภอ. เมืองตากแล้ว และคดีอยู่ในระหว่างการดำเนินการสืบสวนสอบสวน ซึ่งธนาคารพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ หากผลการสอบสวนของธนาคารและพนักงานสอบสวนสามารถสรุปได้ว่าพนักงานของธนาคารเป็นผู้กระทำความผิดและเป็นเหตุให้ลูกค้าได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงินเท่าใด ธนาคารจะได้พิจารณาเกี่ยวกับการชดใช้คืนเงินให้แก่ลูกค้าต่อไป"