บุกจ่อยิงสาวใหญ่ดับคาบ้าน ตร รวบ3คนร้ายทันควัน

 

บุกจ่อยิงสาวใหญ่ดับคาบ้าน ตรรวบ3คนร้ายทันควัน

 

จ่อ ขมับปลิดชีพสาวใหญ่ ขณะนั่งดูทีวีกลางบ้านดับคาโรงหมอ ส่วน 3 คนร้ายหนีไม่รอดจนมุมตำรวจคาด่านตรวจ ก่อนเผ่นหนีออกนอกเกาะ แต่ยังคงปากแข็งอ้างไม่รู้เรื่อง ตำรวจมั่นใจเหตุหลังพบภาพกล้องวงจรปิด คาดปมชู้สาว...

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 มิ.ย. 2555 ร.ต.อ.วิทยา สินจำเริญ ร้อยเวร สภ.ทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุยิงกันในบ้านเลขที่ 43/46 ซ.รักชาติอุทิศ ถ.พระภูเก็ตแก้ว ต.กะทู้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.เสริม ขวัญนิมิตร รอง.ผกก.สส. กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ หนูผึ้ง สว.พฐ.ภ.จว.ภูเก็ต กำลังชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 

ที่ เกิดเหตุเป็นบ้านปูนขนาด 2 ชั้น ภายในห้องรับแขกด้านล่าง พบคราบเลือดเป็นกอง เป็นทางยาวตั้งแต่โซฟาเรื่อยไปจนถึงประตูหน้าบ้านและบริเวณโรงรถ จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือรื้อค้นทรัพย์สินแต่อย่างใด มีเพียงทีวียังคงเปิดอยู่ ไม่พบหัวหรือปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ พบเพียงเปลือกกระสุนปืนไม่ทราบขนาด 1 หัว และไม่พบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบว่าชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงได้ช่วยเหลือนำตัวส่ง รพ.วชิระภูเก็ต ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อคือ นางสุมิตรา นามฟัก อายุ 55 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ต่อมาทราบว่าแพทย์ได้พยายามยื้อชีวิตอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่เนื่องจากคนเจ็บถูกคมกระสุนปืนจ่อยิงเข้าที่ขมับซ้าย หัวกระสุนตุงขมับขวา ทำให้ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในที่สุด

จาก การสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่หน้าร้านจำหน่ายวัสดุภัณฑ์หน้า ซอยดังกล่าวพบว่า ก่อนเกิดเหตุ มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 2-3 คน ใช้รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ไม่ทราบทะเบียน ขับผ่านร้าน เข้า-ออกซอยดังกล่าว จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1-2 ครั้ง ขณะเดียวกัน มีพยานแวดล้อมเห็นชายฉกรรจ์วิ่งออกมาจากภายในบ้าน ไปขึ้นรถกระบะที่จอดสตาร์ทเครื่องรออยู่ไม่ห่างจากบ้าน แล้วขับออกถนนพระภูเก็ตแก้วหลบหนีไป จึงประสานไปยังด่านตรวจภูเก็ต บ้านท่าฉัตรไชย อ.ถลาง ซึ่งเป็นด่านตรวจยานพาหนะทุกชนิดจุดสุดท้ายก่อนจะออกนอกเกาะภูเก็ต เพื่อตรวจสอบรถกระบะต้องสงสัยคันดังกล่าว

 

หลังจากนั้นราว 1 ชม. ก็ได้รับแจ้งจาก พ.ต.อ.วีรวัฒน์ จันทรวิจิตร ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย ว่า ร.ต.ต.อุดรพยัคฆ์ คำปา รอง.สวป. พร้อมสายตรวจ สามารถควบคุมรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บห 3399 ขอนแก่น ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดได้ พร้อมกับชายฉกรรจ์ 3 คน ขณะตั้งด่านตรวจที่บริเวณด่านตรวจภูเก็ต โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวมีพิรุธและให้การวกวนไปมา

 

ทั้ง นี้ จากการตรวจค้นภายในรถกระบะไม่พบอาวุธปืนต้องสงสัย ที่คาดว่าใช้ก่อเหตุยิงนางสุมิตราเสียชีวิต แต่กลับพบยาบ้า 20 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในรถ จากนั้นชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และชุดสืบสวน สภ.ทุ่งทอง ได้รับตัว 3 ผู้ต้องสงสัย กลับไปตรวจคราบเขม่าดินปืนที่มือ เพื่อส่งตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน สตช. โดยจะต้องใช้เวลา 30 วันถึงจะทราบผล ทราบชื่อคือ นายสาวิทย์ จงรักษ์ อายุ 28 ปี นายอรุณ ปาทาน อายุ 26 ปี และนายสงวน โพธิ์เงิน อายุ 26 ปี ทั้งหมดให้การปฏิเสธ อ้างไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงควบคุมตัวไว้ที่ สภ.ทุ่งทอง เพื่อขยายผล เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง

พ.ต.ท.เสริม กล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยทั้งสามต่างให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่พบหลักฐานภาพรถกระบะที่มีลักษณะคล้ายกับรถที่กลุ่มผู้ต้อง สงสัยใช้ ประกอบกับเป็นเวลาไล่เลี่ยกันระหว่างก่อนและหลังเกิดเหตุ ซึ่งจะต้องขยายผลการสอบสวนและสืบหาหลักฐานต่างๆ มาเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต้องสงสัยว่ามีชนวน หรือมูลเหตุ หรือมีความเกี่ยวข้อง หรือเชื่อมโยงกับผู้ตายอย่างไร หรือมีการว่าจ้างมาจากผู้ใด ขณะเดียวกัน อยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติอาชญากรกลุ่มผู้ต้องสงสัย ส่วนปมการสังหารเจ้าหน้าที่พุ่งประเด็นหลักไปที่เรื่องชู้สาว เนื่องจากพบข้อมูลบางอย่างระบุว่า ผู้ตายมีแฟนเป็นชาวต่างชาติ 2 คน อยู่คนละประเทศ และอาจมีความขัดแย้งกัน จนอาจมีการจ้างวานกลุ่มมือปืนมาสังหารผู้ตายเพื่อชำระแค้น แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียด ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ได้มากนัก เพราะเกรงจะมีผลกับรูปคดี.

10 มิ.ย. 55 เวลา 11:49 5,466 3 340
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...