ปาฏิหาริย์! หนุ่มป่วยเจ้าชายนิทรา ร้องไห้ เพราะเสียงคู่หมั้น
อานุภาพ ของความรักที่ทำให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้ ไม่ได้มีเพียงแต่ในหนังหรือละครเท่านั้น แต่มันเกิดขึ้นจริง ๆ แล้ว กับกรณีของคุณแมทธิว เทเลอร์ หนุ่มอังกฤษวัย 31 ปี ที่ย้ายไปสอนภาษาอังกฤษที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ปฏิกิริยาตอบสนองอีกครั้ง น้ำตาของเขาไหลเป็นทาง เมื่อได้ยินเสียงของคู่หมั้นผ่านทางโทรศัพท์
แม้ จะยังไม่สามารถลุกขึ้น หรือฟื้นตื่นขึ้นมาพูดคุยได้ แต่เพียงแค่อาการตอบสนองเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการขยับมือซ้ายและขวาทุกครั้งที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ และน้ำตาที่ล้นเอ่อในดวงตาก่อนจะหยดไหลรินผ่านข้างแก้มลงมา ก็นับเป็นสัญญาณของการมีชีวิตที่วิเศษเหลือเกินกับผู้ป่วยที่อยู่ในขั้น โคม่าขนาดนี้
เว็บไซต์เดลิเมลรายงานว่า แมทธิว ย้ายจากเคาน์ตี้เดอร์บี้เชียร์ในอังกฤษ ไปทำงานเป็นครูสอนภาษาที่เกาะบาหลีตั้งแต่ปี 2009 และก็ได้พบรักกับ อันดา นุรุล วัย 27 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนของเขา ทั้งคู่คบหาดูใจและได้หมั้นหมายกัน รวมทั้งกำลังวางแผนที่จะแต่งงาน แต่ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมปีที่แล้ว เมื่อแมทธิวประสบอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์อย่างรุนแรง แรงกระแทกทำให้กะโหลกศีรษะของเขาแตกร้าว
แมทธิวไม่ได้ทำประกันเอาไว้เมื่อเขาย้ายมาอยู่ที่บาหลี ค่ารักษาจึงไม่เพียงพอ ครอบครัวของแมทธิวในอังกฤษที่พ่อและแม่แยกทางกันไปแล้ว จึงรวบรวมเงินเพื่อเป็นค่ารักษาให้กับลูกชาย ซึ่งเป็นเงินราว 100,000 ปอนด์ (4,849,000 บาท) โดยได้พ่อบุญธรรมสละเงินเก็บของตัวเอง 50,000 ปอนด์ และพ่อแท้ ๆ ของแมทธิวนำบ้านของตัวเองไปจำนองเพื่อหาเงินมาสมทบส่วนที่เหลือ จนกระทั่งแมทธิวได้เข้ารับการผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมกระดูกเบ้าตาที่เสียหาย และถูกย้ายกลับมายังโรงพยาบาลในบ้านเกิดเมื่อเดือนตุลาคม แต่ทว่าหลังการผ่าตัดครั้งนั้น แมทธิวก็ไม่เคยตื่นขึ้นมาอีกเลย
เขา นอนนิ่งเป็นเจ้าชายนิทราอยู่บนเตียง ในห้องผู้ป่วยที่มีครอบครัวของเขามานอนเฝ้าอย่างใกล้ชิด รวมทั้ง อันดา คนรักชาวบาหลี ก็เดินทางมาเพื่อเฝ้าไข้เขาด้วยเช่นกัน แต่ทว่าสาวคนรักก็มาอยู่ได้เพียงสามเดือนเท่านั้น เธอก็ถูกทางการบีบให้กลับไปยังบาหลี เพราะวีซ่าของเธอหมดอายุ จำต้องทิ้งให้คนรักให้นอนไม่ไหวติงอยู่บนเตียง โดยที่ตัวเองไม่สามารถทำอะไรได้เลย
แต่เมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เธอได้โทรศัพท์กลับไปหาครอบครัวของแมทธิว โดยทั้งหมดกำลังอยู่ในห้องผู้ป่วยของแมทธิวพอดี แม่ของแมทธิวได้นำโทรศัพท์ไปแนบที่หูของเขา และแม้จะไม่รู้ว่าอันดาพูดอะไรกับเขาบ้าง แต่ ทุกคนในที่นั้นก็สังเกตเห็นได้ถึงน้ำตาที่เอ่อคลออยู่ในดวงตา แล้วค่อย ๆ หลั่งรินลงมาข้างแก้ม แล้วเขาก็ขยับปากเหมือนกับจะพูดตอบกับโทรศัพท์ว่า "ใช่" (yes) อย่างเงียบงันอีกด้วย
อาการ ตอบสนองที่นับเป็นปาฏิหาริย์นี้ ยังนำมาซึ่งความดีใจและความหวังที่กลับมาเรืองรองอีกครั้งแก่ทุก ๆ คนในครอบครัว จากนั้นมา มือข้างซ้ายและขวาของเขาดูจะพยายามยกขึ้นมาทุกครั้งที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ อาการของเขาเริ่มตอบสนองดีขึ้นทีละนิด โดยครอบครัวของเขาบอกว่า "แม้จะแค่เล็กน้อย แต่เราก็มีความสุขกันมากจริง ๆ กับปฏิกิริยาของเขา"
ทั้งนี้ ตัวแทนจากองค์กรเพื่อผู้ได้รับบาดเจ็บทางสมอง ได้ออกมากล่าวว่า อาการของแมทธิว น่าจะค่อย ๆ ฟื้นฟูขึ้นมาได้บ้าง โดยต้องได้รับการบำบัดเพื่อกระตุ้นการรับรู้ทางประสาทสัมผัสในหลาย ๆ ด้านควบคู่กันไป ทั้งเรื่องของเสียง สัมผัส การได้กลิ่น และการลิ้มรสชาติ ส่วนอาการจะพัฒนาได้มากขึ้นแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับอาการของตัวผู้ป่วยเอง
แม้ จะไม่ทราบได้แน่ชัดว่า แมทธิวจะสามารถฟื้นกลับมาได้เป็นปกติหรือใกล้เคียงปกติมากที่สุดหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ขอให้ปาฏิหาริย์แห่งรักเช่นนี้ ทำให้อาการของเขาดีวันดีคืนยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยนะคะ