เมื่อเวลา 02.00 น.วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่ห้องป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองนครราชสีมา พ.ต.ท.อนันต์ พิมพ์เจริญ รอง ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อมด้วย ร.ต.ท.สุทธิรักษ์ ลัคนาลิขิต รองสารวัตรป้องกันปราบปราม พร้อมกำลังสายตรวจร่วมกันจับกุมตัวนายสิงห์หา แสงรู้ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 ท้าวสุระซอย 1 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมเครื่องแบบตำรวจประดับเครื่องหมาย เสื้อสะท้อนแสง กุญแจมือ ซองใส่ปืน วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง เงินสด 1,400 บาท และรถเก๋งฮอนด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กว 5106 นครราชสีมา จึงนำตัวไปดำเนินคดีฐานแสดงตนและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ สวมเครื่องแบบตำรวจและใช้วิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต โดนสามารถจับกุม ได้พร้อมของกลาง
การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากก่อนหน้าหน้านี้เวลาประมาณ 01.00 น. ร.ต.ท.สุทธิรักษ์ ลัคนาลิขิต นำกำลังสายตรวจตั้งด่านตรวจป้องกันเหตุ ที่บริเวณทางโค้งหน้าวัดโคกพรม ขาเข้าเมืองนครราชสีมา ถ.มิตรภาพ และขณะเรียกตรวจรถจักรยานยนต์คันหนึ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งคนขับแจ้งกับตำรวจว่าตนถูกจับกุมและเสียเงินให้กับตำรวจคนหนึ่งแล้ว ที่ไปยืนดักรออยู่ก่อนที่จะขับมาถึงด่านตรวจประมาณ 800 เมตร
ทาง ร.ต.ท.สุทธิรักษ์ ฯ แปลกใจที่มีตำรวจเรียกรับเงินจากเจ้าของรถ จึงเดินทางย้อนไปดูตรงจุดที่ได้รับแจ้ง พบเห็นผู้ต้องหาแต่งเครื่องแบบตำรวจยืนซุ่มรอดักเรียกตรวจจับรถจักรยานยนต์ และทราบว่าเป็นตำรวจปลอม จึงควบคุมตัวนำมาดำเนินคดี ในเบื้องต้นนายสิงห์หา ให้การว่า เป็นลูกจ้างเต็นท์ขายรถยนต์แห่งหนึ่งใน อ.สูงเนิน และเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้าน ช่วยงานด้านจราจรของ สภ.เมืองนครราชสีมา ทั้งนี้นายสิงห์หารับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง แต่อ้างว่า ก่อนเกิดเหตุมาทำหน้าที่ช่วยตำรวจดักรถจักรยานยนต์ ที่ขี่ย้อนศรหนีการจับกุม เมื่อพบจะไล่ให้ขี่กลับไปที่ด่านตรวจ แต่มีบางรายที่ยื่นข้อเสนอให้เงินเพื่อแลกกับให้ปล่อยตัวไป
เบื้องต้นทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยได้รับแจ้งจากพลเมืองดี และผู้ขับขี่รถหลายรายว่ามีกลุ่มบุคคลแต่งกายคล้ายตำรวจ แต่บุคลิก ท่าทาง การพูดการจา ไม่เหมือนตำรวจ แต่เหมือนอาสาสมัครตำรวจบ้าน มักไปซุ่มตามถนน ตรอก ซอกซอยคอยเรียกตรวจรถจักรยานยนต์ที่ผิดกฎหมาย หรือผู้ขับขี่ที่ดื่มสุรา จากนั้นจึงเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการถูกจับกุม.