นายมาดามิฮัน กับนางซาลามู พ่อและแม่ของเด็กชายมาร์วานิจัน หัวใจแทบสลาย เมื่อพบว่าลูกชายของพวกเขาไร้ซึ่งดวงตาทั้งสองข้างมาตั้งแต่เกิด มีผิวหนังขึ้นมาปกคลุมแทนที่
แต่ถือว่าโชคยังดีที่เด็กชายมีสุขภาพที่แข็งแรง จนเมื่อไม่นานมานี้พวกเขาก็ได้พา มาร์วานิจัน เดินทางจากหมู่บ้านเล็กๆ ของเขตปกครองตัวเองซินเจียงอุยกูร์ ไปยังโรงพยาบาลทหารในเมืองอุรุมชี อันเป็นเมืองเอกของซินเจียง ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ด้วยความหวังที่ว่า แพทย์อาจพอมีหนทางให้ลูกชายของพวกเขาได้มีดวงตาและมองเห็นโลกรอบตัวได้เช่น เด็กทั่ว ๆ ไป
โดยหลังจากที่แพทย์ทำการตรวจเช็คบริเวณที่ควรจะมีดวงตาด้วยไฟฉาย ปรากฎว่าเมื่อฉายไฟไปยังบริเวณที่ควรเป็นตาข้างซ้าย เด็กน้อยมีอาการตอบสนองต่อแสงไฟเป็นอย่างดี และยังมีท่าทีสนุกสนานที่ได้เล่นกับไฟฉาย
ผลการตรวจที่ทำให้พ่อและแม่ของหนูน้อยหัวใจพองโต ก็คือเด็กชายมีลูกตาข้างซ้ายฝังอยู่ในเบ้าตา และรับรู้แสงไฟได้ เขาจึงมีอาการตอบสนองต่อแสงจากไฟฉาย แต่ที่น่าเศร้าก็คือ แพทย์ไม่อาจผ่าตัดนำดวงตาข้างซ้ายนั้นขึ้นมาวางให้อยู่ในสภาพดวงตาแบบปกติ ได้ เพราะตาข้างเดียวที่เขามีและฝังอยู่ในเบ้าตานั้น เป็นลูกตาที่ไม่มีเลนส์ตา ต่อให้ผ่าตัดนำมันมาวางในตำแหน่งดวงตาได้ เด็กน้อยก็ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อยู่ดี
ส่วนทางออกพอจะเป็นไปได้ก็คือ รอจนเขาอายุครบ 16 ปี แล้วจึงกลับมาผ่าตัดใส่ดวงตาเทียมอีกครั้ง แต่นั่นก็หมายความว่า แม้เขาจะมีดวงตาเช่นเดียวกับคนทั่วไป ที่ดูเหมือนจริง และกลอกไปมาได้ แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นได้อยู่นั่นเอง
นอกจากกรณีของหนูน้อย มาร์วานิจันแล้ว ในระยะเวลาที่ผ่านมา ก็ยังมีกรณีเด็กที่เกิดมาโดยไร้ลูกตาเช่นเดียวกัน อย่างกรณีที่เกิดขึ้นในปี 2010 กับเด็กหญิงบรีล จากรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ที่เกิดมาโดยไม่มีลูกตาทั้งสองข้างในเบ้าตาเลย ซึ่งเกิดจากอาการ Microphthalmia อันเนื่องมาจากความผิดปกติของพันธุกรรม ทำให้เนื้อเยื่อภายในเบ้าตาไม่เจริญเติบโต
ส่วนอีกหนึ่งกรณีที่เพิ่งเป็นที่รับทราบกันเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่าน มา คือกรณีของเด็กชายคริสเตียน วัย 1 ขวบ จากรัฐเทนเนสซีของสหรัฐฯ ที่ตาบอดทั้งสองข้างตั้งแต่กำเนิด ลูกตาทั้งสองข้างไม่ก่อตัวตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เนื่องจากภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ที่มีผลกระทบไปรบกวนการทำงานของการเจริญเนื้อเยื่อส่วนลูกตาด้วย
สิ่งที่ผู้ปกครองของเด็กน้อยทั้งสามคนนี้บอกเอาไว้เเหมือน ๆ กันก็คือ ลูกน้อยของเธอยังคงร่าเริงไม่ต่างกับเด็กทั่ว ๆ ไป ยังคงยิ้มและหัวเราะได้อย่างสดใส แม้จะอยู่ในโลกที่มืดมิดก็ตาม