วันที่ 05 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 19:00:44 น.
Share
ผลการสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์/อิปซอสพบว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 4 ใน 5 ไม่เคยซื้อสินค้าหรือบริการเพราะอิทธิพลของโฆษณา หรือความเห็นในเฟซบุ๊ก เป็นสัญญาณล่าสุดว่าเฟซบุ๊กต้องพยายามอีกมากเพื่อทำให้ฐานผู้ใช้ 900 ล้านคน เป็นแหล่งสร้างรายได้จากการโฆษณา
ผลการสำรวจพบว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กร้อยละ 34 ใช้เวลากับเฟซบุ๊กน้อยกว่าเมื่อ 6 เดือนก่อน โดยเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่ใช้เวลามากขึ้น
ผลการสำรวจทางออนไลน์กับชาวอเมริกัน 1,032 คน ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม-4 มิถุนายน พบว่า ผู้ตอบ 2 ใน 5 เข้าเฟซบุ๊กทุกวัน ขณะที่ร้อยละ 21 ไม่มีบัญชีเฟซบุ๊ก ร้อยละ 44 ชอบเฟซบุ๊กน้อยลงตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ ร้อยละ 50 ใช้เท่าเดิม ผู้ใช้เฟซบุ๊กบ่อยที่สุดส่วนใหญ่อายุ 18-34 ปี
อย่างไรก็ดี ผลการสำรวจครั้งนี้ ไม่ได้สอบถามเกี่ยวกับรูปแบบของโฆษณาที่มีผลกระทบต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้า ของผู้ใช้ ขณะที่ผลการศึกษาโดย อีมาร์เก็ตเตอร์ ชี้ว่าการโฆษณาของเฟซบุ๊กเลวร้ายกว่าการโฆษณาผ่านอีเมล์ หรือการตลาดแบบไดเร็คต์เมล์ เมื่อพิจารณาในแง่การมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค
ความวิตกกังวลดังกล่าว เกิดขึ้นหลังเจเนอรัล มอเตอร์ บริษัทยานยนต์ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ และผู้โฆษณาใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ประกาศถอนโฆษณาทางเฟซบุ๊ก
ด้านเฟซบุ๊ก ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อการสำรวจความเห็นในครั้งนี้ แต่อ้างถึงกรณีศึกษาของ