เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 มิ.ย. นางหงษ์ แซ่ลี่ อายุ 81 ปี พร้อมทนายความส่วนตัว นำตัวนายเก่ง (นามสมมติ) อายุ 18 ปี หลานชาย ที่ก่อเหตุขับรถยนต์มินิคูเปอร์ สีแดง ทะเบียนป้ายแดง 4721 กทม. พุ่งชน น.ส.โชติกา ประสาทโสภณ อายุ 22 ปี น.ศ.ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) พร้อมเพื่อน ได้รับบาดเจ็บรวม 4 คน ขณะลงไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนกันบนสะพานพระราม 9 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.ทางด่วน 1

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ผู้ต้องหาไปถึง สน.ทางด่วน 1 เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เมื่อนายไรวินทร์ ประสาทโสภณ อายุ 24 ปี ลูกพี่ลูกน้องของน.ส.โชติกา เดินเข้าไปคว้าคอผู้ต้องหาจากทางด้านหลัง พร้อมพูดว่า "มึงแสบมากนักใช่มั้ยที่ทำน้องกู" ทำให้ผู้ต้องหาหันมาชกเข้าที่กรามด้านซ้ายของนายไรวินทร์ 1 ครั้ง ทำให้เกิดเหตุชุลมุนขึ้น จนนางหงษ์เสียหลักล้มทรุดลงไปกับพื้น ตำรวจต้องรีบแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน ก่อนเหตุการณ์จะบานปลาย

จากนั้น พ.ต.ท.กันตภณ สินธวาชีวะ สวส.เจ้าของคดี พร้อมพ.ต.ท.ณัฐพล โกมินทรชาติ รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมการจราจรด่วน 1 นำตัวผู้ต้องหาเข้าห้องสอบสวนสตรี เด็กและเยาวชน เพื่อสอบปากคำเป็นเวลา 2 ชั่วโมง จากนั้นเจ้าหน้าที่พาญาติผู้บาดเจ็บทั้ง 4 ราย ให้ผู้ต้องหากราบเท้าขอขมาเป็นรายคน จากนั้นออกมายกมือไหว้ขอโทษต่อหน้าสื่อมวลชน พร้อมกล่าวว่ารู้สึกเสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น อยากขอโทษผู้บาดเจ็บทั้งหมดด้วย พร้อมขอยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจและไม่มีเจตนาที่จะก่อเหตุแต่อย่างใด

เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายและได้รับบาดเจ็บสาหัส,ขับขี่รถโดยไม่มีใบอนุญาต และหลบหนีไม่อยู่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ก่อนนำตัวส่งสถานพินิจต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ก็เป็นดุลยพินิจของทางสถานพินิจว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ส่วนเรื่องผู้บาดเจ็บบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบ และนางหงษ์มอบเงินช่วยเหลืออีกจำนวนหนึ่งด้วย