คัมรี่ซิ่งฝ่าสายฝนชนต้นไม้ไฟคลอก2ศพ
ภรรยากับหลานสาวถูกย่างสดคารถ 2 ศพ ส่วนคนขับแค่บาดเจ็บ ปมเหตุไม่น่าใช่ถังแก๊สบึ้ม
พ.ต.ท.ทรงพล พูลพิพัฒน์ พนักงานสอบสวน สภ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักพุ่งชนต้นไม้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนสาย340 ตลิ่งชั่น-สุพรรณบุรี หลักกม.ที่ 66-67 มุ่งหน้าจ.สุพรรณบุรี พื้นที่หมู่ 5 ต.เทพมงคล อ.บางซ้าย จึงรีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย มูลนิธิร่วมกตัญญู
ในที่เกิดเหตุมีฝนตก ส่วนข้างทางพบรถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีดำ หมายเลขทะเบียน ษฐ-4861 กรุงเทพมหานคร ชนอัดก๊อปปี้กับต้นไม้ สภาพพังยับเยินทั้งคัน มีเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง บนถนนมีร่างโชกเลือดของนายนพกร ตูวิเชียร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ต.ท่าระหัด อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและตามร่างกายหลายแห่ง เป็นขับรถเก๋งคันเกิดเหตุร้องไห้ฟูมฟายขอให้ช่วยเหลือคนที่อยู่ในรถ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้น้ำฉีดประมาณ 20 นาที สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ตรวจสอบในซากรถด้านข้างคนขับพบศพน.ส.สุดารัตน์ ทัดดี อายุ 29 ปี ภรรยานายนพกร สภาพศพยังสวมเข็มขัดนิรภัยอยู่ ตามร่างถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก
ส่วนที่เบาะด้านหลังพบศพน.ส.กชกร ตูวิเชียร อายุ 17 ปี หลานสาวของนายนพกร สภาพศพไหม้ทั้งตัวเป็นตอตะโก ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 เมตร พบถังแก๊สรถยนต์ตกอยู่ สภาพไม่ถูกเพลิงไหม้แต่อย่างใด
พ.ต.ท.ทรงพล กล่าวว่าจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายนพกร ได้ขับรถเก๋งคันเกิดเหตุมุ่งหน้ากลับจ.สุพรรณบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุฝนตกอย่างหนัก ทำให้ถนนลื่นรถเสียหลักตกลงไปข้างทางพุ่งชนต้นไม้ภาพพังยับเยิน และได้พยายามออกมาจากตัวรถเพื่อช่วยแฟนสาวและหลานสาว แต่ระหว่างนั้นที่ด้านหน้ารถเก๋ง เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และเกิดระเบิดเสียดังสนั่นจนไฟลุกท่วมทั้งคัน ไม่สามารถช่วยเหลือแฟนสาวและหลานสาวออกมาได้
ส่วนสาเหตุไม่น่าเกิดจากถังแก๊สระเบิด เพราะพบถังแก๊สตกอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ10 เมตร สภาพถังไม่ถูกเพลิงไหม้แต่อย่างใด การเกิดเพลิงไหม้น่าจะมาจากน้ำมันเบนซินที่อยู่ในตัวถังรถ ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมต้องรอสวบสวนผู้บาดเจ็บอีกครั้งเนื่องจากสภาพจิตใจขณะนี้ยังไม่พร้อมที่จะให้สอบสวน เบื้องต้นได้ส่งศพทั้งสองรายไปชันสูตรเพิ่มเติมที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต จ.ปทุมธานี