เรื่องน่ารู้ กับคำว่า "กิน"
“กิน” เพื่ออยู่ หรือว่าอยู่เพื่อ “กิน”
“ กิน ” ในความหมายที่ดี ได้แก่
กินแขก เป็นภาษาถิ่นพายัพ หมายถึง กินเลี้ยงในงานแต่งงาน เช่นเดียวกับคำว่า
กินดอง ทางภาคอีสาน และ กินเหนียว ทางใต้
กินสี่ถ้วย หมายถึง กินเลี้ยงในงานมงคล สี่ถ้วย คือ ขนมสี่อย่างได้แก่ ไข่กบ (สาคูหรือแมงลัก) นกปล่อย (ลอดช่อง) มะลิลอย(ข้าวตอก) และอ้ายตื้อ (ข้าวเหนียว)โดยจะมีน้ำกะทิใส่ชามอยู่ตรงกลาง
กินตำแหน่ง หมายถึง ได้ครองตำแหน่ง
กินบ้านผ่านเมือง หรือ กินเมือง เป็นคำโบราณ หมายถึง ได้ครองเมือง หรือครอบครองเมือง
กินเลี้ยง หมายถึง กินอาหารร่วมกันหลายคนเพื่อสังสรรค์กัน
กินขาด เป็นภาษาพูด หมายถึง ดีกว่ามาก เหนือกว่ามาก หรือชนะเด็ดขาด
กินเจ หมายถึง ถือศีลอย่างจีนหรือญวน โดยกินอาหารผักล้วน ไม่มีเนื้อสัตว์
กินบุญ หมายถึงกินเลี้ยงในงานบุญ
กินบวช หมายถึง กินเครื่องกระยาบวช(เครื่องกินที่ไม่มีของสดคาว)ในลัทธิพิธี เช่น พิธีตรุษ มักใช้คู่กับคำว่าถือศีล เป็น ถือศีลกินบวช
กินสำรับ หมายถึง กินอาหารที่เขาจัดมาให้เป็นสำรับ
กินดอกเบี้ย หรือ กินดอก หมายถึง ได้รับผลประโยชน์ที่เกิดจากทุนหรือเงินให้กู้
กินเส้น หมายถึง ชอบพอกัน ถูกคอกัน แต่มักใช้ในทางปฏิเสธว่า ไม่กินเส้นกัน คือ เขม่นกัน มากกว่า
“ กิน ” ที่คนไม่ค่อยชอบและพบเห็นกันบ่อยๆ ได้แก่
กินสินบน หมายถึง การหารายได้โดยไม่สุจริต
กินกริบ หมายถึง การหาประโยชน์ใส่ตัวได้อย่างแนบเนียน
กินเศษกินเลย หรือ กินเล็กกินน้อย คือ ยักยอกเอาบางส่วนที่มีจำนวนเล็กน้อยเป็นของตน เช่น แม่บ้านแอบกินเศษกินเลยค่ากับข้าวประจำวัน
กินนอกกินใน หมายถึง เอากำไรในการซื้อขาย ทั้งในราคาและนอกราคาที่กำหนด
กินตามน้ำ หมายถึง รับของสมนาคุณที่เขาเอามาให้โดยไม่ได้เรียกร้อง
กินแรง หมายถึง เอาเปรียบผู้อื่นในการทำงานหรือเลี้ยงชีพ หรือจะหมายถึงต้องใช้แรงมากก็ได้
กินลึก หมายถึง มีเล่ห์ลึกซึ้ง
กินหมาก โดยทั่วไปก็หมายถึงกินพลูป้ายปูนกับหมาก แต่ถ้าเป็นสแลง จะหมายถึง ถูกชกปากแตก (เลือดออกปากสีแดงเหมือนกินหมาก)
กินเปล่า หมายถึง ได้ประโยชน์มาโดยไม่ต้องตอบแทน หรือเป็นการเรียกทรัพย์สิน หรือสิ่งอื่นๆที่เสียไปเพื่อแลกกับสิทธิที่ตกลงกันว่า เงินกินเปล่า หรือจะหมายถึง ได้ผลประโยชน์ฝ่ายเดียวก็ได้ เช่น เตะกินเปล่า
กินผัว หมายถึง มีผัวกี่คนๆก็ตายหมด เช่นเดียวกับ
กินเมีย คือ มีเมียกี่คนๆก็ตายหมด
กินผี หมายถึงหาประโยชน์จากคนตาย
กินฟรี คือ กินโดยไม่เสียเงิน
กินล้างกินผลาญ หมายถึงกินครึ่งทิ้งครึ่ง
กินสั่ง หมายถึง กินมากผิดปกติ เมื่อถึงคราวจะตาย แต่โดยปริยายหมายถึงกินจุเกินควร
กินแหนง หมายถึงสงสัย ระแวง ไม่แน่ใจ มักใช้คู่กับแคลงใจ เป็นกินแหนงแคลงใจ
กินรวบ เป็นชื่อเรียกหวยใต้ดิน ซึ่งอาศัยเลขท้ายของสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ออกรางวัล
กินลูกตะกั่วหรือกินลูกปืน แปลว่าถูกยิง
กินรังแตน หมายถึงอารมณ์เสีย หงุดหงิดบ่นว่าเกินกว่าเหตุ
ส่วน “ กิน ” ที่เป็นคำกลางๆทั่วๆไป เช่น
กินขวา กินซ้าย หมายถึง อาการที่รถ เรือ ว่าว เป็นต้น เคลื่อนล้ำไปทางขวาหรือซ้ายมากเกินควร
กินทาง หมายถึง ล้ำทาง ใช้กับยวดยานพาหนะ
กินช้อน กินตะเกียบ หมายถึง กินอาหารด้วยช้อนหรือตะเกียบ
กินตัว หมายถึง ผุหรือขาดกร่อนไปเองอย่างผ้าขนสัตว์ หรือผ้าไหม
กินนอน หมายถึง โรงเรียนที่จ้ดให้นักเรียนกินอยู่หลับนอนในโรงเรียน
กินงาย หมายถึง กินอาหารมื้อเช้า
กินเพล กินอาหารตอนเพล หรือบางทีก็ว่า ถือศีลกินเพล
กินเพรา (อ่านว่ากิน-เพฺรา) หมายถึง กินอาหารมื้อเย็น
กินมือ หมายถึงกินอาหารด้วยมือ
กินไม่ลง หมายถึง เอาชนะไม่ได้ หรือรับไม่ไหว
กินหู้ หมายถึง ผิดคาด (มาจากการแทงหวยสมัยก่อน)
กินลม หมายถึง ต้านลม เช่น ว่าวกินลม หรือจะหมายถึงเดินหรือนั่งรับลมก็ได้
กินดิบ หมายถึง ชนะโดยง่าย
“ กิน ” ที่เป็นสำนวน เช่น
กินลมกินแล้ง หมายถึง ไม่ได้ประโยชน์ หรือทำเหนื่อยเปล่า
กินบุญเก่า หมายถึง นั่งกินนอนกินสมบัติเก่า หรือได้รับผลจากความดีที่เคยกระทำไว้แต่ปางก่อน
กินเหมือนหมู อยู่เหมือนหมา หรือ กินอย่างหมู อยู่อย่างหมา หมายถึงเละเทะไม่มีระเบียบ
กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง หมายถึง รู้ดีอยู่แล้ว แสร้งทำเป็นไม่รู้
กินปูนร้อนท้อง หมายถึง ทำอาการพิรุธขึ้นเอง แสดงอาการเดือดร้อนขึ้นเอง
กินที่ลับไขที่แจ้ง หมายถึงเปิดเผยเรื่องที่ทำกันในที่ลับ
กินน้ำตาต่างข้าว หมายถึง ร้องไห้เศร้าโศกจนไม่เป็นอันกินอันนอน
กินน้ำใต้ศอก หมายถึงจำยอมเป็นรองเขา ไม่เทียมหน้าเทียมตา มักหมายถึงเมียน้อยที่ต้องยอมลงให้เมียหลวง
กินน้ำพริกถ้วยเก่า หรือ กินน้ำพริกถ้วยเดียว หมายถึง อยู่กับเมียคนเดิมหรือเมียคนเดียว
กินน้ำไม่เผื่อแล้ง หมายถึง มีอะไรใช้หมดทันทีไม่คิดถึงวันข้างหน้า
กินน้ำเห็นปลิง หมายถึง รู้สึกตะขิดตะขวงใจเหมือนจะกินน้ำเห็นปลิงอยู่ในน้ำก็กินไม่ลง
กินบ้านกินเมือง หมายถึง นอนตื่นสายมาก หรืออาจจะหมายถึงฉ้อราษฎร์บังหลวงก็ได้
กินแกลบกินรำ เป็นสำนวนว่า โง่ เช่น ฉันไม่ได้กินแกลบกินรำนี่ จะได้ไม่รู้ทันคุณ เป็นต้น
กินเกลือกินกะปิ หมายถึง อดทนต่อความลำบากยากแค้น เช่น เขาเคยกินเกลือกินกะปิมาด้วยกัน
กินเหล็กกินไหล หมายถึง ทนต่อความเหน็ดเหนื่อยหรือความเจ็บปวดได้อย่างผิดปรกติ
กินข้าวต้มกระโจมกลาง หมายถึง ทำอะไรด้วยความใจร้อน ไม่พิจารณาให้รอบคอบ มักเป็นผลเสียแก่ตน
กินบนเรือนขี้บนหลังคา หมายถึง คนเนรคุณ
กินเผื่อหมา หมายถึง กินมากจนอ้วก
ทั้งหมดข้างต้น เป็นเพียงตัวอย่างของคำว่า “ กิน ” ที่มิใช่มีความหมายเพียงเอาอาหารเข้าปากเข้าท้องเท่านั้น แต่เมื่อผสมกับคำอื่นๆแล้ว ยังเกิดความหมายใหม่อีกมากมายทั้งในแง่บวกและลบ โดยเฉพาะคำว่า “ กิน ” ที่มีความหมายถึงการคอรัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวง หรือ การโกงเข้ากระเป๋าตัวเอง เช่น กินหิน กินเหล็ก กินปูน เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่รังเกียจกันมาก แต่ก็ยังเป็นพฤติกรรมที่พบเห็นโดยทั่วไป และนับวันก็จะเพิ่มมากขึ้นในทุกวงการ ทางเดียวที่จะแก้ได้คือ ความซื่อสัตย์ และ สัจจะ ที่จะต้องปลูกฝังให้มีเพิ่มขึ้นในเด็กและเยาวชนของเราต่อไปในภายหน้า ส่วนผู้ใหญ่ที่สายเกินแก้คงต้องใช้มาตรการลงโทษทางสังคม และกฎหมายอย่างจริงจัง หรือไม่ก็ต้องให้กรรมตามทัน หรืออาจจะปล่อยให้ท้องแตกตายแบบชูชก ?