การใช้อำนาจบุญแก้กรรม-ปัญหาชีวิต

เคล็ด : การใช้อำนาจบุญแก้กรรม-ปัญหาชีวิติ

ก่อนอ่านกรุณา ตั้งนะโม3จบ

ผู้เปิดเผยเรื่องนี้คือท่านพระอาจารย์เกษม อาจิณณสีโล ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่หล้า พระอริยเจ้าแห่งวัดภูจ้อก้อ จ.มุกดาหาร อุปสมบทเมื่อ พ.ศ. 2529 ท่านมีประสบการณ์ทางจิตที่โลดโผนพิสดาร แม้เดินจงกรมก็สามารถเดินเหยียบอากาศเอาผ้าไปพาดไว้บทกิ่งไม้สูงสิบเมตรได้ ทั้งสามารถมองเห็นภูติผี ปีศาจ เทวดา นาค ครุฑ ยักษ์อย่างจัดแจ้งแม้กระทั่งลืมตามีญาณระลึกชาติย้อนหลังได้มากมายหลายชาติ เป็นพระสงฆ์ที่ใช้เวลาท่องเที่ยวไปในนรกสวรรค์ปานเรื่องพระมาลัยโปรดสัตว์โลกนับครั้งไม่ถ้วน ด้วยท่านเป็นพระที่ไม่สนใจในลาภ ยศ ชื่อเสียง ทั้งเทพยดาสูง-ต่ำ ตลอดจนภูติ-ผี-ปีศาจ-เปรต-อสูรกาย-สัมภเวสี ที่ตกทุกข์ได้ยากทั่วทุกสารทิศ พากันหลั่งไหลมุ่งไปหาขอความช่วยเหลือจากท่านแต่ละวันผู้คนมากมายมากหน้าหลายตาต่างดั่นด้นข้ามป่าข้ามเขา ผ่านหนทางอันทุรกันดารไปกราบท่านเพื่อให้ท่านช่วยแก้ไขปัญหาเคราะห์กรรมต่างๆซึ่งท่านก็เพียงแต่แนะนำหลักการใช้บุญแก้กรรมแบบง่ายๆ แต่ทว่า...ได้ผลชงักงันอย่างคาดไม่ถึง อย่างชนิดที่ไม่มีพระรูปไหนกล้าพูดแนะนำได้อย่างนี้ เรามักท่องเป็นคาถาอยู่ร่ำไปว่าเวรกรรมนั้นแก้ไม่ได้ แต่พระอาจารย์ท่านยืนยันรับประกันอย่างหนักแน่นให้ฟ้าผ่าห่ากินว่า...แก้ได้ ไม่ต้องลงทุนอะไรมากไม่ต้องทำพิธีสวดอะไรให้ใหญ่โตเสียเวลา เสียเงินทองให้มากมาย แต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่ว่าทุกวันนี้คนทำบุญทำกันไม่เป็น ดึงบุญที่เคยทำมาใช้ก็ทำไม่เป็น เป็นแต่ตะบันก้มหน้าก้มตาชดใช้กรรมอย่างจนตรอกอยู่ท่าเดียวหลายท่านเมื่อนำคำสอนที่ท่านแนะนำไปปฏิบัติ ต่างก็ได้รับผลดีเกินคาด แต่ด้วยความที่ท่านไม่อยากเด่นอยากดัง หากใครจะขอนำประวัติท่านมาลงหนังสือท่านจะไม่ยอมพูดด้วย ท่านจะมีเมตตามากในการเทศน์การสอนญาติโยม แม้กลางคืนก็ยังต้อนรับผู้มาเยือนจากแดนทิพย์ไม่หยุดหย่อน พร่ำสอนเผยแพร่เคล็ดนี้ทั้งวันคืน ท่านมีแผ่นซีดีแจกจ่ายให้นำไปฟังแล้วบอกว่า “ฟังแล้วให้นำไปปฏิบัติแล้วแจกจ่ายกันฟังต่อ ฟังเข้าใจแล้วไม่จำเป็นต้องถ่อไปหาท่านที่วัดเพราะวันๆท่านก็เหนื่อยพอแล้ว การจะทำบุญทำที่ไหนก็ได้ เช่นทำบุญกับพ่อแม่เป็นพระอรหันต์อยู่ในบ้าน แล้วอุทิศบุญให้เทวดาและเหล่าสรรพสัตว์ในโลกทิพย์ก็ได้ผลเท่ากับถวายทานให้พระอรหันต์ วัดของท่านมีพอกินพอใช้แล้ว ไม่ขาดแคลนอะไร จึงไม่จำเป็นต้องหลั่งไหลมาทำบุญกับท่านก็ได้”

วิชาเจริญเมตตาแผ่กุศลนี้ พระอาจารย์กล่าวว่าเคยใช้กันมาก มาตั้งแต่สมัยพุทธกาล แต่เพิ่งสาบสูญไปเมื่อ 300-400ปีมานี้เอง ถ้าค้นคว้าในพระไตรปิฎกก็พบมากแห่งที่เกี่ยวข้องกับการทำบุญและเทวดาผู้รับบุญท่านมีเรื่องราวพิสดารมหัศจรรย์ในกรรมฐานอย่างมากมาย การตอบคำถามถึงปัญหาในการปฏิบัติธรรม ท่านจะตอบอย่างห้าวหาญทั้งคำถามในด้านโลกียะและ โลกุตระ ความหยาบละเอียดของอารมณ์พระอริยะเจ้าแต่ระดับทะลุไปจนถึงพระนิพพาน ทุกคำถามมีคำตอบจากท่าน สุดแต่ผู้ถามจะถามปัญหาใด ลีลาการตอบคำถามของท่านจะออกแบบบ้านๆฟังแล้วเข้าใจง่ายไม่ต้องตีความ นำไปสู่การปฏิบัติพัฒนาทางจิตยิ่งๆขึ้นไป หนังสือที่ประมวลสรุปไว้นี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เมื่ออ่านแล้วนำไปประพฤติปฏิบัติ ท่านก็จะประสบความสุขสำเร็จตามปรารถนา แต่เรื่องนี้มิได้มุ่งหวังที่จะไม่ให้ใคร ไม่ต้องตาย!! มิได้มุ่งหวังจะทำให้ใครอยู่ค้ำฟ้าไปตลอดกาล กฎของไตรลักษณ์ย่อมเป็นไปตามไตรลักษณ์ ไหนๆเราก็ต้องตาย แต่เมื่อเรามีทางเลือกที่จะตายได้อย่างสุขสงบ ตายอย่างไม่ต้องมีทุกข์เวทนา และตายได้อย่างมีสติพร้อม แล้วอย่างนี้เราจะปฏิเสธได้หรือ อีกอย่างหนึ่งข้อมูลสาระนี้จะไม่มีผลประโยชน์อันใดต่อท่านที่ยังเหนียวแน่นอยู่กับมานะสังโยชน์ และไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ขาดซึ่งอิทธิบาท 4 เช่นนี้แม้ฟ้าดินก็หมดปัญญาที่จะเข้าไปยุ่งอะไรกับท่าน เมื่อป้อนยาเข้าปาก แต่ไม่ยอมกลืน จะคายทิ้งก็สุดแท้แต่เถิด

ที่มาของการเปิดเผยเคล็ดการแผ่บุญแก้กรรม
ชีวิตของมนุษย์และสัตว์ ทั้งในโลกนี้และในโลกทิพย์ล้วนมีส่วนสัมพันธ์กันในเรื่องกฎแห่งกรรมอยู่ตลอดเวลา ในการเวียนว่ายตายเกิดไปๆมาๆจะหาที่ไม่เคยเป็นญาติ ไม่เคยเป็นเพื่อน ไม่เคยเป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อกันนั้นไม่มี ชีวิตของทุกผู้ทุกคนจึงมีส่วนสัมพันธ์กันไม่มากก็น้อย ทั้งในส่วนดีมากและดีน้อย ทั้งในส่วนเลวมากเลวน้อย ทั้งในส่วนที่ทำให้เกิดความเครียดแค้นชิงชังมากและชิงชังน้อย ทั้งในส่วนที่รักและอุปการะมากและน้อยตามแต่กรณี

การได้ดีตกยาก เจ็บไข้ได้ป่วย ของมนุษย์และสัตว์ส่วนหนึ่งเกิดจากผลกรรมในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ อีกส่วนหนึ่งได้จากเหตุปัจจัยกระทบจากสิ่งรอบข้าง อีกส่วนหนึ่งเกิดจากการกระทำของวิญญาณลี้ลับที่เรามองไม่เห็น เช่น เทวดาช่วยเหลือเทวดาให้โทษ ผีให้โทษ เจ้ากรรมนายเวรที่เคียดแค้นชิงชังให้โทษในคนทุกคน สัตว์ทุกตัว จะมีเทวดารักษาอย่างน้อย 2 องค์ เทวดาประจำตัวนี่แหละที่มีอิทธิพลต่อเราอย่างคาดไม่ถึง บ้างก็ชอบช่วยเหลือให้เราประสบความสำเร็จ หรือช่วยปกป้องคุ้มครองให้เรารอดพ้นจากภัยอันตรายที่น่าหวาดเสียวมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งบางทีเราก็ยกให้เป็นอานุภาพของวัตถุมงคลที่แขวนคอเสียก็มี เด็กน้อยบางคนแม้ไม่มีวัตถุมงคลแขวนคอเลย แต่ตกบ้านตกเรือนด้วยความซุกซน แต่ไม่ได้รับอันตราย เพราะเหมือนมีใครมาอุ้มไว้ก่อนตกพื้นก็มี บุคคลบางคนไม่มีวัตถุมงคล ติดตัวเลยแต่สามารถหลุดพ้นจากอุบัติเหตุ และการดักทำร้ายของศัตรูมาได้อย่างปาฏิหาริย์ นั่นคือการปกปักรักษาจากเทวดาประจำตัวเขา และ/หรือ ญาติในโลกทิพย์ของเรา

ในเรื่องกฎของกรรม เราชาวพุทธคงไม่มีใครปฏิเสธ เมี่อตนเดือดร้อน กำลังเครียดหรือกำลังทุกข์ทรมานใดๆ ที่จำต้องยอมทนอย่างไม่มีทางเลือก หลายๆท่านมักจะนึกคิดแต่เพียงว่า จะขอรับชะตากรรมนั้นหวังจะชดใช้ให้หมดเวรหมดกรรมจบๆกันไป การคิดเช่นนี้ดูจะเข้าท่าตามหลักการยอมรับในกฎของกรรม แต่ออกหยาบ และดูจะปิดโอกาสปิดช่องทางของตนเองอย่างสิ้นเชิง นี่เองพระอาจารย์กล่าวว่า พวกเราไม่รู้ว่ามันยังมีทางออก มีทางเลือกที่แสนจะง่าย ทั้งๆที่เรามีทางเลือกที่จะยอมรับในผลกรรมด้วยวิธีของตนเอง ทั้งๆที่เรามีวิธีที่จะชำระล้างหนี้แค้นหนี้กรรมให้แก่เจ้ากรรมนายเวรเขา โดยที่เราก็ไม่ได้เบี้ยวหนี้ โดยที่เรายังเคารพในกฎของกรรม โดยที่เราไม่ต้องทุกข์ทรมาน ไม่ต้องกลุ้มไม่ต้องเครียด ขณะเดียวกันเจ้ากรรมนายเวรเขาก็พอใจกับประโยชน์สุขนี้อย่างเต็มที่ ความเครียดแค้นพยาบาทอะไรต่างๆที่มีต่อเราก็จางมลายหายไปสิ้น เขาก็เป็นสุข เราก็เป็นสุข แต่นี่....เรากลับปล่อยให้เราเลือกที่จะเล่นงานเราอยู่ฝ่ายเดียว ต่างฝ่ายต่างก็เป็นทุกข์ด้วยกันทั้งคู่ เขาก็ทุกข์กรุ่นอยู่กับความพยาบาทอาฆาต เราก็ทุกข์ด้วยเวทนาเพราะเขาคอยจ้องแต่จะมาเล่นงานอย่างไม่เลิกรา อย่ากระนั้นเลย เรามายอมรับกฎของกรรมแต่โดยดี ในแบบฉบับที่เราเลือกได้ด้วย “บุญ” กันดีกว่า คนเราล้วนเคยสั่งสมบุญให้ทานกันมาแล้วทั้งนั้น ทั้งในชาติก่อนและในชาตินี้ ถ้าจะนึกถึงบุญมันก็เยอะจนจำไม่หวาดไม่ไหว แต่ด้วยความไม่รู้จักวิธีชำระหนี้แค้นให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ดั่งว่า ทำบุญไปก็คิดแต่จะรอให้ตายซะก่อนแล้วจึงค่อยไปรับบุญสรวงสวรรค์ แล้วก็พากัน เอาแต่บ่นว่า บุญอะไรก็ทำหมดแล้ว ชีวิตก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงดีขึ้นมาสักที ก็จะได้ดีอย่างไร ในเมื่อสักแต่ว่าทำบุญแต่ทำไม่เป็น ถูกสั่งสอนกันมาอย่างผิดๆ มัวแต่ไปรออุทิศให้ตอนกรวดน้ำ เจ้ากรรมนายเวรเขาเลยไม่ได้รับ บ้างก็ไม่เคยเผื่อแผ่ให้บุญแกเทวดาที่รักษาตัวเอง ไม่เคยให้เจ้ากรรมนายเวรที่ตามจองเวรกันอยู่ ไม่เคยให้เทวดาญาติทิพย์ที่อาศัยอยู่ในเขตบ้านเขตเรือน ไม่เคยให้แก่เทวดาที่ช่วยดูแลรักษากิจการงานห้างร้าน ไม่เคยให้เทวดาที่รักษาเจ้านายของตัวเอง แถมบางทีการแผ่อุทิศก็ให้ไม่เฉพาะเจาะจง เข้าอีก หรือ ดันไปให้ตอนที่แสงบุญหมดไปแล้ว เทวดาเหล่านั้นบางองค์อาจมีบุญน้อย มีฤทธิ์น้อยจึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเราได้มาก แต่ถ้าเขาได้รับอานิสงค์บุญจากเราอย่างถูกวิธีบ่อยๆ เขาจะกลายเป็นเทวดาที่มีฤทธิ์มีอำนาจ สามารถช่วยเหลือให้เราประสบความสำเร็จได้ดังใจหมาย

วิธีการทำบุญให้เกิดสัมฤทธิผล
พระพุทธเจ้าทรงแสดงที่มาแห่งบุญไว้ 3 ประการย่อๆคือ
1. บุญเกิดจากการให้ทาน
2. บุญเกิดจากการรักษาศีล
3. บุญเกิดจากการภาวนาอบรมจิตใจ
การสร้างความดีทุกประการนั้นล้วนเป็นแหล่งของการเกิดผลบุญกุศลทั้งสิ้น แล้วก่อให้เกิดอานิสงส์ที่จะสร้างความสำเร็จในชีวิตได้ทุกเรื่อง
บุญอันเกิดจากการให้ทานพระภิกษุสงฆ์ หรือให้ของแก่ใคร ไม่ว่าจะให้ของแก่พ่อแม่ พี่น้อง ญาติมิตร แม้เอาข้าวให้หมากิน เอาอาหารโยนให้ปลากิน เอาเศษอาหารโปรยให้มดกิน ขณะนั้นจะเกิดกระแสบุญเป็นแสงเรืองรองแผ่ออกจากตัวผู้ให้ทันที และเพียงไม่กี่วินาทีแสงนี้จะพุ่งหายขึ้นไปเบื้องบนแล้วสะสมเป็นกองบุญของผู้ให้อยู่บนเทวดาโลกดังนั้นจึง ***ขอเน้นย้ำว่าหลักสำคัญที่สุดว่า ขณะของหลุดจากมือเมื่อใส่บาตร/ถวายของพระสงฆ์ หรือให้ของแก่ใครก็ตาม เราต้องอธิฐานจิตแผ่บุญทันที อย่ามัวไปรอแผ่บุญตอนพระสวด “ยะถาสัพพี”*** เนื่องจากการแผ่ให้ตอนพระยถาฯอย่างที่เคยปฏิบัติกันมานั้นผิด เพราะกระแสบุญได้เลือนจางหายไปอยู่ในสวรรค์หมดแล้ว ต้องคิดแผ่บุญในทันทีทันใดว่า “บุญนี้จงเป็นของเทวดาผู้รักษาตัวข้าพเจ้า หรือ บุญนี้จงเป็นของเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า หรือ บุญนี้จงเป็นของเทวดา ภูต – ผี – ปีศาจ – เปรต – ครุฑ – นาค – ยักษ์ ที่สถิตอยู่ในสถานบ้านเรือนของข้าพเจ้า หรือจงเป็นของเทวดาผู้รักษาบิดามารดาของข้าพเจ้า เป็นต้น ขึ้นอยู่กับเราว่าต้องการแก้ปัญหากลัดกลุ้มในเรื่องไหน
บุญอันเกิดจากการภาวนา ให้อธิษฐานแผ่เมตตาก่อน เช่นว่า ขอบุญที่เกิดจากการภาวนาต่อไปนี้ ถึงแก่เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ข้าพเจ้าเจ็บป่วย(เป็นอะไร) หรือจะให้ใครก็ให้อธิษฐานเอาเองแล้วก็เริ่มภาวนาได้เลย หลังจากเลิกภาวนาก็ให้อุทิศบุญนี้ไปอีกครั้งหนึ่ง บุญที่เกิดจากการภาวนานี้ จะมีพลานุภาพแรงยิ่งกว่าบุญจากการให้ทานมาก ฉะนั้นพวกภูติผีชั้นต่ำมักรับไม่ค่อยได้ เราต้องเปิดช่องไว้ก่อนภาวนา เขาจะได้เตรียมรับตามกำลังความสามารถของตนเอง เพราะหากให้ตอนที่ภาวนาเสร็จแล้ว จึงให้ก็เปรียบเหมือนเราปล่อยน้ำที่พุ่งจากท่อดับเพลิง แต่เขาเอาภาชนะที่ไม่เหมาะสมมารับ เขาจะรับไม่ได้เนื่องจากกำลังจิตของเขาไม่แข็งแรงพอ หากเราอธิษฐานเปิดให้เขาเตรียมตัวไว้ก่อนก็เหมือนเปิดก๊อกน้ำออกค่อยๆ ใครภาชนะน้อยก็เอามาตวงรับตามกำลังที่เขามี แต่สำหรับเทวดาบุญหนักศักดิ์ใหญ่ท่านสามารถรับบุญใหญ่หลังภาวนาได้อยู่แล้ว เปรียบเหมือนท่านมีโอ่งมีถังขนาดใหญ่สำหรับรองรับน้ำที่พุ่งออกจากท่อดับเพลิงนั่นเอง
บุญอันเกิดจากการรักษาศีล การทำบุญด้วยการตั้งใจรักษาศีล ก็ย่อมเกิดกุศลขึ้นเช่นกัน ทุกครั้งที่ระลึกถึงศีลตัวเองรักษาดีแล้ว ไม่ด่างพร้อย ก็สามารถอธิษฐานส่งบุญได้ว่า “บุญที่ข้าพเจ้าได้รักษาศีลนี้จงถึงแก่.......”
หรือในการทำความดีทุกอย่าง เช่นแม้แต่การพูดให้เขาได้สติคิดดี การได้ช่วยเหลือคน การได้ทำประโยชน์ส่วนรวม ย่อมก่อให้เกิดความปีติดีใจ นั้นแหละคือบุญ ให้รีบส่งถึงผู้ที่เราต้องการให้บุญทันที

การเบิกบุญ
การเบิกบุญเก่าที่เคยส่งสมมาแต่อดีตมาใช้ บุญที่เราทำไว้แล้วมีมากมายที่สะสมอยู่ในสรวงสวรรค์ ทั้งที่ได้ทำไว้แต่ปางก่อน หรือ ได้ทำไว้ในชาตินี้ เราสามารถเบิกบุญนั้นมาแจกจ่ายอุทิศให้แก่ผู้อยู่ในโลกวิญญาณ ได้เหมือนเรามีเงินเก็บในธนาคาร เราก็ใช้เอทีเอ็มกดเบิกเงินออกมาใช้จ่าย แต่การเบิกบุญนั้น ที่สำคัญลืมไม่ได้เลยคือ ต้องอาศัยอำนาจพระรัตนตรัยขึ้นนำก่อนเสมอ คือให้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ด้วยอำนาจของพระพุทธเจ้า “ด้วยอำนาจของพระธรรม ด้วยอำนาจของพระสงฆ์ จงบันดาลให้บุญของข้าพที่ทำมาแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันถึงแก่.......” จะให้ใครก็คิดนึกให้เอาเอง การเบิกบุญแจกจ่ายนี้สามารถให้ได้ทุกที่ทุกเวลา เมื่อนึกขึ้นได้ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม อุจจาระ ปัสสาวะอยู่ก็ตาม

นานาปัญหาเคราะห์กรรมแก้ได้ด้วยบุญ
ท่านที่ทุกข์ทรมานด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โรคภัยไข้เจ็บปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่เกิดกับตัวเรานั้น สืบเนื่องจากการกระทำของเจ้ากรรมนายเวร ผู้เคียดแค้นชิงชัง พระพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้ฆ่าสัตว์ย่อมอายุสั้น ผู้เบียดเบียนสัตว์ย่อมสุขภาพไม่ดี เชื้อโรคร้ายแรงต่างๆที่มีอยู่ในร่างกาย ก็ล้วนแต่เป็นเจ้ากรรมนายเวรทั้งนั้น โรคเรื้อรังร้ายแรงการรักษาด้วยวิธีการกินยา ฉีดยาเข้าไปฆ่าทำลายเขา หรือการใช้พลังจิต-อำนาจสมาธิอย่างใดๆ เข้าไปขับไล่ นอกจากเป็นการรักษาที่ขาดเมตตาปราณีอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้ว ขณะเดียวกันก็ยิ่งทำให้เหล่าเจ้ากรรมนายเวร ยิ่งทวีความพยาบาทเคียดแค้นผู้ป่วยมากขึ้นไปอีก หลายโรคจึงหมดหนทางเยียวยา ผู้ป่วยต้องจมอยู่กับความทุกข์เวทนาไปต่างๆนานา จะตายก็ไม่ตาย จะหายก็ไม่หาย ทรัพย์สินที่มีก็พินาศไปกับค่ารักษา ทุกข์ทั้งคนป่วย ทุกข์ทั้งคนที่เป็นญาติๆเป็นบริวาร ในที่สุดหลายรายต้องจบชีวิตลงไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆที่มีทางเลือกทั้งๆที่มีโอกาส ทั้งๆที่มีบุญก็มากมายแต่ไม่รู้จักเบิกมาล้างแค้นให้แก่เขา ดังนั้นการเยียวยาที่ถูกต้อง ต้องโอนบุญ-เบิกบุญไปให้เฉพาะเจาะจงแก่เจ้ากรรมนายเวร ที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยนั้นๆ (อย่าไปบอกว่าให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย.....เหมือนอย่างที่เคยทำ) และให้เทวดาที่รักษาตัวเราไปในขณะเดียวกัน การอธิษฐานเบิกบุญเก่าอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรที่รบกวน ควรทำวันละหลายๆครั้ง จนเขาพอใจ อารป่วยของเราจะหายเร็วขึ้น
วิธีการให้บุญแก่เจ้ากรรมนายเวร ควรทำดังนี้เป็นตัวอย่าง เช่น ผู้ที่ป่วยด้วยมะเร็งปอด ก็ส่งบุญอย่างเฉพาะเจาะจงว่า “บุญนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยมะเร็งปอด ฯลฯ (สุดแต่มะเร็ง หรือเป็นอะไร) พวกเชื้อโรคมะเร็งเมื่อได้รับบุญแล้วขอให้เจ้ามีชีวิตที่ดีขึ้น มีภพภูมิที่สูงขึ้น จงหลุดจากชีวิตชั้นต่ำเดี๋ยวนี้ เมื่อเราหายแล้วเราจะทำบุญให้แก่พวกเจ้า ส่งชีวิตของพวกเจ้าให้สูงขึ้นเรื่อยๆ พวกเจ้าจงเลิกจองเวรจองกรรมในเราเสียที ตั้งแต่นี้เราจะตั้งตนอยู่ในศีลในธรรม เลิกการเบียดเบียนเข่นฆ่าชีวิตสัตว์อื่น ขอส่งบุญที่เกิดจากการรักษาศีลแก่เจ้าด้วย
ท่านที่กลัดกลุ้มเรื่องบุตรหลานบริวาร ชอบสร้างแต่ความเดือดร้อน สั่งสอนไม่ฟัง แบบนี้ต้องให้เทวดาผู้รักษาตัวเขาเป็นผู้ขนาบตักเตือน วิธีที่เทวดาตักเตือนนั้นท่านจะสั่งการดลไปที่ความรู้สึกนึกคิดจิตใจของเขา ถ้าเทวดาประจำตัวของเขาเป็น มิจฉาทิฐิ เมื่อได้รับบุญบ่อยๆ เทวดาท่านจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในทิพย์ของตนเอง มีชีวิตที่สุขสบายขึ้น มีฤทธิ์อำนาจขึ้น เขาจะทราบได้เองว่า สิ่งที่เขาได้รับนั้นมาจากไหน เมื่อเราอุทิศบุญให้ ท่านก็อธิษฐานด้วยว่า “เมื่อเทวดาได้รับบุญแล้วขอให้มีความสุขๆ มีกินมีใช้ มีเสื้อผ้าที่อยู่อาศัย และขอให้ช่วยอบรมตักเตือนให้ลูกของข้าพเจ้าเป็นคนดีด้วย” ดังนี้ไม่นานหรอก จะเกิดเรื่องพิสดารขึ้นกับบุตรเกเรคนนั้นจนต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นคนดีแน่นอน
คนที่กลุ้มเรื่องแฟน เรื่องครอบครัว สามี/ภรรยา เรื่องเพื่อน/คนรอบข้าง คู่ครองจองตนเองเป็นคนที่น่าเอือมระอาเหลือเกิน อยากให้คู่ครองเป็นคนดี รักเรา ละเลิกจากประพฤติชั่ว เหลวไหล ก็ให้ทำยุทธวิธีแบบเดียวกับที่ให้บุญแก่เทวดาที่รักษาบุตร แล้วท่านจะพบกับความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นแบบไม่น่าเชื่อ
หากกิจการ ธุรกิจการค้าขายของท่านล้มเหลงหรือซบเซา เมื่อท่านทำบุญทุกครั้งควรอุทิศบุญให้เทวดาประจำตัวของท่านและเทวดาที่ดูแลกิจการค้าพร้อมกันไป แล้วอธิษฐานว่า “เทวดารับบุญของเราแล้วโปรดช่วยเหลือกิจการค้าธุรกิจของเราให้ประสบความสำเร็จด้วยเถิด ถ้าเราร่ำรวยขึ้นก็จะทำบุญให้ท่านยิ่งๆขึ้นไปอีก” จะให้คำเรียกตนเองว่า ข้าพเจ้า ว่าข้า ว่าเรา ก็ได้ ทั้งนั้น
ท่านที่เปิดร้านค้าขาย จะเป้นร้านอะไรก็แล้วแต่ เมื่อทำบุญก็ให้อุทิศบุญแก่เทวดาที่รักษาร้านค้านั้นด้วย แล้วบอกว่า “เทวดาเมื่อได้รับบุญแล้วโปรดเรียกลูกค้ามาอุดหนุนให้มากๆด้วย”
การอุทิศโอนบุญ ไม่ต้องพูด อย่าไปอุทิศเอาตอนกรวดน้ำให้ใช้เพียงแค่การคิด และต้องรีบคิดในทันที อย่ามัวรีรอชักช้าเป็นอันขาด เพราะแสงบุญที่เกิดขึ้นจะดำรงอยู่ไม่กี่วินาทีและจะหายวับไปอยู่ในสวรรค์ ถ้าเราฝึกบ่อยๆเราจะชำนาญในการคิดเพราะการคิด......กระแสบุญจะแรงกว่าการพูดออกจากปาก เวลาหย่อนของลงไปในบาตรปั๊บให้คิดส่งบุญทันที และต้องคิดให้ชัดเจนอย่าลางเลือน ให้ของแก่ใครเมื่อของหลุดจากมือปั๊บ เราต้องคิดส่งบุญให้ปั๊บทันที อย่าช้า!!
ผู้มีอาชีพเกี่ยวเนื่องกับการฆ่าหรือเบียดเบียนสัตว์อื่น เช่น เจ้าของโรงฆ่าสัตว์ คนขายเนื้อสัตว์ ชาวประมง ขายปลาสดตามตลาด เชือดไก่ขาย คนเหล่านี้ต้องสร้างบาปกรรมทุกวันๆจึงก่อความเคียดแค้นชิงชังให้แก่สัตว์ที่ถูกฆ่าอยู่ทุกวี่ทุกวัน เขาก็พยายามของล้างจองผลาญ แต่ในขณะที่บุญเก่าของผู้นั้นยังมีอยู่เจ้ากรรมนายเวรก็ทำอะไรไม่ได้ แต่หากว่านายเวรเขาสบโอกาสได้ช่องเมื่อไร วิญญาณสัตว์ที่เคียดแค้นเหล่านั้น (นายเวร) จะให้เคราะห์หามยามซวยแก่เราได้ทันที ต้องพยายามไถ่ถอนกรรมของตัวด้วยการทำบุญ แล้วโอนอุทิศให้วิญญาณสัตว์ที่ตัวเองฆ่า ทำบ่อยๆ ส่งบ่อยๆ เอาเนื้อสัตว์ที่เราขายนั้นทำอาหารถวายพระ หรือเลี้ยงผู้อื่นอธิษฐานว่า “บุญนี้ให้สัตว์ทั้งหลายที่ได้ฆ่าหรือ ผู้อื่นฆ่าเพราะคำสั่งเราเหล่าสัตว์เหล่าใด ได้รับบุญแล้วขอให้มีแต่ความสุขความเจริญ มีชีวิตวิญญาณที่ดีขึ้น จงหลุดพ้นจากกรรมเวรที่ตัวเองเคยสร้างไว้แล้ว จงมีภพที่สูงขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งเป็นเทวบุตรเทวดาในสรวงสวรรค์ เมื่อได้รับบุญแล้วจงอโหสิกรรมให้เราด้วย อย่าได้จองเวรซึ่งกันและกันเลย เจ้าตายเพราะเราแต่ก็มีชีวิตที่ดีขึ้นเพราะเรา ดีหว่าเจ้าตายเองหรือตายเพราะฝีมือผู้อื่น ซึ่งมีชีวิตทุกข์ทรมาน”
ผู้ที่ถูกผีเข้า จงเอาของให้ทานแก่ผู้ทรงศีล จะพระหรือฆราวาสก็ได้ แล้วอุทิศบุญเจาะจงถึงผีในร้างผู้ป่วยขอให้ได้รับบุญนี้เมื่อได้บุญแล้วโปรดออกจากร่างผู้ป่วยเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ยอมออกก็ให้บ่อยๆ ให้สิ่งของเล็กๆน้อยๆ ให้เงินห้าบาทสิบบาท ให้กาแฟ 1 แก้ว โอวัลติน 1 แก้ว แล้วอุทิศได้ทั้งนั้น
ผู้ที่ถูกคุนไสย ให้อธิษฐานดังนี้ “ด้วยอำนาจพระพุทธเจ้า ด้วยอำนาจพระธรรม ด้วยอำนาจพระสงฆ์ โปรดจงลบล้างอำนาจชั่วช้าต่ำทรามที่มีผู้ส่งเข้าป่วยให้สูญสลายไป ณ บัดนี้” ขอบุญนี้จนถึงวิญญาณชั่วร้ายที่มีคนส่งเข้าร่างผู้ป่วยเมื่อเจ้าได้รับบุญแล้ว จงมีความสุขความเจริญ จงมีฤทธิ์มีอำนาจหลุดพ้นจากการบังคับกดขี่ของผู้ทรงเวทวิทยาคมที่ส่งเข้ามา จงออกจากร่างคนป่วยเดี๋ยวนี้ “ถ้าไม่หายให้ทำบ่อยๆ เดี๋ยวอาการก็ดีขึ้นเอง โดยไม่ต้องไปทำพิธีอะไรอื่น ไม่ต้องไปเสาะหาจ้างหมอผีผู้มีวิยาคมทีไหนมาแก้เพราะอำนาจของพระรัตนตรัยนั้นยิ่งเหนือทุกสิ่งทุกอย่างในสากลจักรวาลอยู่แล้ว
หลีกเลี่ยงการสวดมนต์เพื่อขับไล่วิญญาณ บทสวดมนต์แต่ละบทมีอำนาจขับไล่และเบียดเบียนพวกวิญญาณชั้นต่ำในโลกทิพย์ให้ได้รับความเดือดร้อน พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติห้ามมิให้ภิกษุทำน้ำมนต์ขับไล่ผีไว้ในพระวินัยบัญญัติ ดังนั้นการสวดเพื่อเจริญพุทธานุสติ ธัมมานุสติ และสังฆานุสติ โปรดอย่าตั้งจิตไปกำหราบคุกคามภูตผีปีศาจชั้นต่ำทั้งหลายให้ได้รับความเดือดร้อน เมื่อจะสวดให้ตั้งจิตระลึกเสียก่อนว่า “ภูตผีปีศาจชั้นต่ำทั้งหลาย บัดนี้เราจะกล่าวบทสวดมนต์ ใครชอบฟังเอาบุญกุศลก็ให้ตั้งใจฟัง หากใครฟังแล้วทรมานก็ให้หลีกหนีไปที่อื่นจนกว่าเราจะสวดมนต์เสร็จแล้วจึงกลับมาเถิด เราไม่ได้สวดเพื่อขับไล่ใคร แต่เราสวดเพื่อเจริญในพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณเท่านั้น”
โปรดอย่านิมนต์พระมาทำพิธีขับไล่ภูตผีในที่อยู่อาศัยควรงดเด็ดขาด เพราะวิญญาณนั้นเขาอยู่อาศัยที่นั้นมาก่อนเราอย่างสงบสุข บางตนก็เป็นญาติที่เราเคารพรักมาก่อน ตายไปแล้วมีบุญน้อยกุศลน้อยก็เป็น ภูตผีอาศัยอยู่ในบ้านนั้น ภูตผีบางตน มีความทุกข์เดือดร้อน พยายามส่งกระแสความเดือดร้อนให้เรารู้สึกเพื่อจะได้ทำบุญส่งให้เขา แต่คนเข้าใจคิดว่าเขาเบียดเบียนหลอกหลอน จึงนิมนต์พระมาสวดขับไล่ เมื่อเราไปทำพิธีขับไล่ก็ยิ่งเดือดร้อนเข้าไปอีก แล้วพวกวิญญาณเหล่านั้นจะรวมหัวกันกลั่นแกล้ง ผู้คนในบ้านให้เดือดร้อนวุ่นวาย กันมากขึ้น มีแต่เรื่องทะเลาะกันขัดแย้งกันเนืองๆสังเกตดู บ้านไหนที่มีคนถือวิชาอาคมสวดมนต์ไล่ผีบ่อยๆคนในบ้านจะหาความสุขความสงบไม่ได้เลย พ่อ แม่ ลูก สามี ภรรยา ทะเลาะขัดแย้งด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง จนฆ่ากันตายมานักต่อนัก ฉะนั้นต่อไปเมื่อเหตุเดือดร้อนภายในบ้านหรือองค์กร ควรทำบุญอุทิศให้พวกเขา เมื่อพวกเขาอยู่สุขสบายก็เลิกรบกวนเรา แล้วจะกลับเป็นองค์รักษ์ชั้นดีที่คอยปกปักรักษาเราต่อไป
หลีกเลี่ยงการติดผ้ายันต์กันภูตผีในบ้าน หรือการพกเครื่องราง ของขลังที่เบียดเบียนวิญญาณชั้นต่ำให้ได้รับความเดือดร้อนและเคียดแค้น อันจะส่งผลให้เขาหันกลับมาเป็นเจ้ากรรมนายเวรจองล้างจองผลาญเราไม่มีที่สิ้นสุด โดยที่เราไม่รู้ตัว บ้านเรือนเคหะสถานเป้นของที่มีอยู่ในโลกนี้ เป็นทั้งที่อยู่ของผู้ที่มีชีวิตในโลกและในอีกมิติหนึ่งที่เรามองไม่เห็น ไม่ควรเห็นแก่ตัวว่าเป็นสมบัติของเราเพียงผู้เดียว ควรร่วมกันอยู่กันอย่างสงบสุข พวกวิญญาณต้องอาศัยบุญกุศลถึงอยู่ได้ ถ้าได้รับบุญจากมนุษย์ผู้อาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินเดียวกัน เขาย่อมพึงพอใจและจะรักษามนุษย์ให้มีความสุขความเจริญ แม้พระพุทธเจ้าก็ตรัสสอนไว้ใน เทวตาทิสสทักขิณานุโมทนา ว่า

ยัสมิง ปะเทเส กัปเปติ วาสังปัณฑิตะชาติโย
สีลวันเตตถะ โภเชตวา สัญญะเต พรหมะจานิโน
ยา ตัตถะ เทวตา อาสุง ตาสัง ทักขิณะมาทิเส
ตา ปูชิตา ปูชะยันติ มานิตา ฆานะยันติ นัง
ตะโต นัง อนุกัมปันติ มาตาปุตตัง วะ โอระสัง
เทวะตานุกัมปิโต โปโส สะทา ภัทรานิ ปัสสะติ

แปลความว่า ผู้ฉลาดชาติบัณฑิต เมื่ออาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งใดควรเชื้อเชิญผู้ทรงศีลเข้าไปเลี้ยงดูในสถานที่แห่งนั้น แล้วอุทิศบุญให้แก่เทวดาผู้อาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้น เทวดาเมื่อได้รับการบูชาแล้วย่อมบูชาตอบ คือทำความอนุเคราะห์ช่วยเหลือผู้อุทิศบุญให้แล้วนั้นเหมือนบิดามารดาผู้รักบุตรย่อมอนุเคราะห์บุตร ผู้ใดได้รับการช่วยเหลือจากเทวดาแล้วย่อมประสบแต่ความเจริญรุ่งเรืองเป็นนิจ

การให้ทานแก่บุคคลย่อมมีผลบุญแตกต่างกัน ให้ในพระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานย่อมเกิดผลมากกว่าให้พระพุทธเจ้าองค์เดียว ให้ในพระพุทธเจ้าย่อมมีผลมากกว่า ให้ในพระอรหันต์ ให้ในพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ผู้ออกจากนิโรธสมาบัติย่อมมีผลมากกว่าให้ในพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ในสถานภาพปกติ ให้ในพระอรหันต์ย่อมมีผลเหนือกว่าให้ในพระอนาคามี ให้ในพระอนาคามีย่อมมีผลมากกว่าพระสกิทาคามี ให้ในพระสกิทาคามีย่อมมีผลมากกว่าพระโสดาบัน ให้พระโสดาบันย่อมมีผลมากกว่าให้ผู้ทรงฌาน ให้ในผู้ทรงฌานย่อมเหนือกว่าให้ในพระผู้ประพฤติศีลตามปกติ ให้ในผู้มีศีลย่อมมากกว่าให้ผู้ไม่มีศีล ให้ในคนย่อมมากว่าให้ในสัตว์ ให้ในสัตว์ผู้โพธิสัตว์ย่อมมีผลมากกว่าในสัตว์ธรรมดา ให้ในสัตว์ที่มีคุณย่อมมีผลมากกว่าให้แก่สัตว์ที่ไม่มีคุณ และแม้แต่ให้อาหารแก่พวกมดปลวกก็ยังเกิดบุญกุศล ดังนั้น เชื่อว่าการให้ย่อมเกิดบุญกุศลทั้งสิ่ง แต่จะมากจะน้อยก็ต่างกันไป เงิน 1 บาทถวายพระอรหันต์มีผลมากมายนับไม่ได้ แต่ให้ภิกษุผู้ทุศีลมีผลน้อย นี่คือความแตกต่างของนาบุญ ผู้รู้จักเลือกก็ให้เลือกเถิด ถ้าเลือกไม่ได้ก็ให้ถวายในสงฆ์ส่วนรวม ก็มีอานิสงส์มาก
คนในศาสนาไหนก็ส่งบุญได้ ไม่ว่าพุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู ซิก ล้วนมีวิธีสร้างกุศลผลบุญสะสมคุณงามความดีด้วยกันทั้งนั้น เมื่อเกิดบุญกุศลขึ้นสามารถส่งถึงผู้อยู่ในโลกทิพย์ได้ด้วยวิธเดียวกัน ถึงเช่นกันก่อผลลัพธ์แบบเดียวกัน

ผลที่จะบังเกิดจากการโอนบุญ-เบิกบุญ
• ทำให้เทวดาที่ได้รับบุญแล้วท่านจะมีฤทธิ์เพิ่มขึ้นสามารถช่วยเหลือผู้ส่งบุญให้ได้รับความสำเร็จ เทวดาที่รักษาเคหะสถานบ้านช่องบางหลังก็แสดงฤทธิ์แทนเจ้าของบ้าน เปิด-ปิดทีวี วิยุและไฟฟ้าในบ้านได้เอง ทำให้พวกโจรขโมยไม่กล้าเข้าไปยกเค้าเพราะเหมือนมีคนอยู่ในบ้านทั้งที่ความจริงไม่มีใครอยู่บ้านเลย เทวดาสามารถป้องกันไม่ได้เกิดไฟไหม้บ้าน ป้องกันภัยอันตรายจากพายุ ต้นไม้โค่นล้มทับบ้าน บ้านไหนถูกไฟไหม้แสดงว่าเทวดาไม่รักษาเพราะเจ้าของบ้านมีบาปกรรมและไม่เคยส่งบุญให้เทวดาและเจ้ากรรมนายเวร ที่บ้านข้าพเจ้าก็มีเหตุแปลกขึ้นบ่อยๆ พัดลมเปิดเอง ไฟฟ้าปิดเอง ถ้าทำอะไรไม่เหมาะสมจะมีสิ่งตักเตือนเกิดขึ้น
• ทำให้เจ้ากรรมนายเวรหยุดการจองเวรแล้วกลับมาเป็นเทวดาปกปักรักษาตัวเรา
• ทำให้เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์-สัตว์ทั้งหลายไปทางไหนมีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น การเดินทางไปไหนมาไหนก็จะแคล้วคลาดจากภัยอันตราย
• ธุรกิจการค้า หน้าที่การงาน จะราบรื่น จะพบช่องทางทำมาหากินที่แจ้งชัด ถ้าตกงานก็ได้งานทำ ถ้าเจ้านายเกลียดก็จะรักชอบขึ้น
• ร้านอาหาร ร้านขายของ จะมีแขกเข้าร้านมากกว่าเดิมและอย่าลืม ถ้ามีคนมาอุดหนุนให้อธิษฐานบุญให้แก่เทวดาที่รักษาลูกค้าที่มาอุดหนุนทันที ต่อมาเทวดาก็จะดลใจให้ลูกค้ากลับมาหาเราอีก
• จะหลับก็ง่าย จะนอนก็สบาย ไม่ต้องใช้ยานอนหลับ ไม่ต้องสะดุ้งผวาตกใจแม้ฝันก็ฝันดี สุขภาพก็จะแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมารบกวน
• ครอบครัวจะอยู่กันอย่างอบอุ่นมีความสุข มีความเข้าอกเข้าใจกัน
• เพื่อนบ้านที่เขม่นชิงชัง เป็นเกาเหลาต่อกัน ก็หันหลับมาเป็นมิตรรักใคร่ใยดี ให้ความเกรงใจซึ่งกันและกัน

ดังที่ข้าพเจ้าเล่ามาเป็นแค่อย่างผิวๆย่อๆเท่านั้น รายละเอียดประสบการณ์ของผู้ที่ได้ปฏิบัติตามแล้วได้ผลอย่างสุดจะบรรยายยังมีอีกมากในแต่ละวันขอให้ท่านขยันในการ เบิก/เปิดบุญให้ถี่ๆ อยู่บ่อยๆ ท่านยิ่งให้ ท่านก็จะได้ผลอย่างคาดไม่ถึง ทั้งบุญก็ได้เพิ่มขึ้นทวีคูณ อีกทั้งยังเป็นการเจริญเมตตาอยู่ในตัว ยิ่งถ้าท่านเป็นนักศีลนักบุญด้วยแล้ว ยิ่งจะเห็นผลเร็วอย่างมาก ท่านใดสนใจอยากได้แผ่นซีดี วีซีดี การแสดงธรรมของพระคุณเจ้าเกษมเพิ่มเติม โปรดแจ้งความประสงค์ได้

คนจะเลิกทำบาปมาแสดงบุญก็เพราะได้ฟังธรรม คนจะสนใจทาน รักษาศีลบำเพ็ญภาวนา ก็เพราะได้ฟังธรรม คนจะหลุดพ้นจากทุกข์ได้ก็เพราะได้ฟังธรรม พระพุทธเจ้าจังตรัสว่า “ธรรมทานคือการให้ธรรมเหนือกว่าการให้สิ่งอื่นทั้งหมด แม้ถวายทานในพระสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานก็ยังไม่เหนือกว่าให้ธรรมทานได้”

บุญกุศลที่เกิดจากธรรมทานนี้ ข้าพเจ้าขอมอบแด่เทวดาที่รักษาท่านผู้อ่านและผู้ฟังทุกท่าน เมื่อเทวดาได้รับบุญนี้แล้วจงมีความสุขความเจริญมีฤทธิ์มีอำนาจ จงช่วยเหลือท่านผู้อ่านและผู้ฟังให้ประสบความรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไปตลอดกาลนานเทอญ

ผู้ใดอยากจะพิมพ์เผยแพร่เป็นธรรมทาน ให้อนุญาตพิมพ์ได้และให้ใส่ที่อยู่ไว้ด้วย เพื่อคนที่สนใจจะได้ขอหนังสือนี้จากผู้รับไปพิมพ์นั้น และให้ใส่คำว่า “ห้ามขาย” ไว้ที่ปกหน้าและปกหลังของหนังสือด้วย หากโยมผู้ใดมีข้อสงสัยประการใดให้โทรมาที่ 086-583-3355 หรือ 089-619-6284 เจริญพร....

 ***************************************************************************

ขอบคุณ เครดิต จาก bloggang

และamata beauty รูปภาพประกอบทางเน็ต

http://www.amatabeauty.com/index.php?mo=3&art=121899

Credit: http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=wbj&month=05-2007&date=19&group=24&gblog=1
#นานาสาระ
sekimi
เจ้าของบทประพันธ์
สมาชิก VIPสมาชิก VIPสมาชิก VIP
18 ม.ค. 53 เวลา 13:47 1,729 5 50
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...