จากกรณีหนุ่มคลั่งเขมือบหน้า เหยื่อริมถนนที่ไมอามี่จนตำรวจต้องจำใจยิงตาย ที่ตกเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลกเมื่อ 2 วันก่อน ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจไมอามี่ได้สอบสวนคดีนี้อย่างละเอียด และเปิดเผยใบหน้าของคนร้ายและเหยื่อจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว โดยระบุคนร้ายเป็นชายวัย 31 ปี ส่วนเหยื่อนั้นเป็นชายเร่ร่อน
เว็บไซต์ซีบีเอสนิวส์ของอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ตำรวจเมืองไมอามี่ รัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ได้แถลงเกี่ยวกับกรณีคนร้ายเปลือยกายล่อนจ้อน ก่อเหตุกัดกินใบหน้าเหยื่อริมถนน ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมว่า คนร้ายรายนี้เป็นชายหนุ่มวัย 31 ปี ชื่อว่า นายรูดี้ ยูจีน ส่วนเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย เชื่อว่าคือ นายโรนัลด์ ป๊อปโป้ ชายเร่ร่อนวัย 65 ปี ที่ตอนนี้อาการยังสาหัสจากการถูกกัดแทะเนื้อไปทั่วทั้งใบหน้า
รูดี้ ยูจีน (ซ้าย) และโรนัลด์ ป๊อปโป้ (ขวา)
จากการสอบสวนอย่างละเอียดตลอด 2 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สันนิษฐานว่า ก่อนเกิดเหตุในวันนั้น นายยูจีนได้เสพยาที่เรียกว่า บาธซอลต์ ซึ่งส่งผลให้มีอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นมาก ทำให้นายยูจีนต้องถอดเสื้อผ้า เปลือยกายล่อนจ้อน มีอาการเพ้อคลั่ง และมีพละกำลังมากขึ้นอย่างน่าตกใจ จาก นั้นก็เข้าทำร้ายนายป๊อปโป้ซึ่งเป็นชายเร่ร่อนด้วยมือเปล่า ริมถนนในไมอามี่ ก่อนจะกัดแทะใบหน้าของนายป๊อปโป้จนเหวอะหวะอาการปางตาย แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะข่มขู่เท่าไร เขาก็ยังไม่หยุดแทะใบหน้านายป๊อปโป้ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องจำใจยิงนายยูจีนจนเสียชีวิต
ทางด้านนายแพทย์พอล อดัม แพทย์ในโรงพยาบาลแจ็คสันเมโมเรียล ได้เปิดเผยว่า " เป็นไปได้ว่านายยูจีนเสพยาบาธซอลต์จนคลั่ง เนื่องจากอาการของผู้เสพยาชนิดนี้ จะทำให้มีอาการทุกอย่างเหมือนกับที่นายยูจีนเป็น นั่นคือผู้เสพจะรู้สึกร้อนจากอุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มสูงขึ้น และถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก จากนั้นก็มีอาการคลุ้มคลั่ง มีพละกำลังมากขึ้นอย่างน่าตกใจ เป็นอันตรายต่อผู้คน เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงทีมแพทย์เอง" นอกจากนี้ นายแพทย์อดัมยังบอกด้วยว่า ปัจจุบันยาชนิดนี้เริ่มจะเป็นที่นิยมกันมากขึ้นด้วย เพราะมันใช้ได้ดีในกรณีที่ผู้ใช้กำลังจะไปก่อเรื่องตีรันฟันแทงกับผู้อื่น