ผลบอล พรีเมียร์ลีก : ผีเข่นนิ่ม3-0ดิยุฟยิงด้วย เชลซี ดุ7-2

 

แมนยู - เบิร์นลี่ย์ / Manchester United - Burnley

ผลบอล พรีเมียร์ลีก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 – เบิร์นลี่ย์ 0

เริ่มการแข่งขันครึ่งแรก เบิร์นลีย์ เป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นบุกจากขวาไปซ้าย นาทีที่ 5 เอวร่า หนุนบอลจากซ้ายมาที่เสา 2 เบอร์บาตอฟ โหม่งชงให้ รุนี่ย์ ลอยตัวจักรยานอากาศ บอลหลุดกรอบออกหลัง ถัดมา 2 นาที เบิร์นลีย์ ได้โอกาสสวนกลับในนาทีที่ 7 คริส อีเกิ้ลส์ แทงขึ้นหน้าให้ ดาวิด นูเจนท์ เปิดข้าม เนวิลล์ มาทางซ้ายของสนาม สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ ได้บอลตัดสินใจซัดหลุดเสาไกลออกหลัง

นาทีที่ 15 แมนยู ขึ้นเกมบุกมาอีกครั้ง บอลจากขวาผ่านเข้ามากลาง นานี่ ซัดวืดหลุดมาถึง เบอร์บาตอฟ แต่งหนึ่งจังหวะแล้วกดด้วยขวา บอลหลุดเสาไกลออกไป นาทีที่ 27 แมนยู บุกกดดันทีมเยือน เบิร์นลีย์ พักใหญ่ นานี่ ผ่านบอลจากซ้ายมาขวา วาเลนเซีย เกี่ยวเอาบอลลงก่อนจ่ายเข้ากลาง เนวิลล์ ตักให้ รูนี่ย์ โขกทว่ากดไม่ลง

นาทีที่ 40 แมนยู ได้ลูกเตะมุมทางซ้าย นานี่ เปิดเข้ามาในเขตโทษลึกเข้ามือ เยนเซ่น นาทีที่ 43 แมนยู ขึ้นเกมบุกมาทางขวา วาเลนเซีย ปาดเข้าในให้ นานี่ ยึกยักๆ ก่อนไหลให้ รูนีย์ ปั่นด้วยขวาบอลหลุดออกหลัง ถัดมา 1 นาที วาเลนเซีย ผ่านเข้ากลางบอลกระดอนพื้นหนึ่งจังหวะ นานี่ ได้โอกาสพักอกก่อนลอยตัวจักรยานอากาศ เยนเซ่น ต้องออกแรงเซฟ จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0

มาต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 47 วาเลนเซีย ผ่านบอลจากขวาเข้ามากลาง พอล สโคลส์ พุ่งโขกจากแถวสอง เบรน เยนเซ่น รับเข้าซอง ถัดมา 1 นาที เบิร์นลีย์ ได้ลุ้นบ้าง จากการยิงไกลของ คริส อีเกิ้ลส์ บอลกระดอนพื้นหนึ่งจังหวะ ก่อนไหลเข้าซอง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์

นาทีที่ 52 แมนยู ต่อเกมกันขึ้นมา นานี่ ตอกส้นให้ เอวร่า พาบอลตะลุยเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจ่ายมาให้ รูนี่ย์ ซัดด้วยซ้ายข้างไม่ถนัด บอลโด่งข้ามคาน ถัดมา 5 นาที แมนยู พลาดได้ประตูขึ้นนำ วาเลนเซีย จ่ายให้ เบอร์บาตอฟ เกี่ยวด้วยขวา ก่อนม้วนตัวซัดด้วยซ้ายตามาแบบฉบับแข้งอาร์ต บอลชนเสาออกหลังอย่างน่าเสียดาย

เบิร์นลีย์ สวนกลับได้อย่างน่ากลัว นาทีที่ 60 คริส อีเกิ้ลส์ ที่เล่นได้อย่างโดดเด่น พาบอลลากจี้แนวรับแมนยู ก่อนจ่ายตัดออกซ้ายให้ ดาวิด นูเจนท์ สปีดแซง เนวิลล์ ซัดด้วยขวา บอลหลุดเสาไกลออกหลัง

ประตูแรกของเกมเกิดขึ้นในนาทีที่ 64 นานี่ จ่ายให้ รูนีย์ แทงทะลุเข้าไปในเขตโทษ เบอร์บาตอฟ วิ่งเบียดไปกับกองหลัง เบิร์นลีย์ จวนเจียนจะเสียจังหวะ ก่อนตวัดยิงด้วยซ้ายส่งบอลผ่านมือ ไบรอัน เยนเซ่น แมนยู ขึ้นนำ 1-0

แมนยู ได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 69 พอล สโคลส์ แทงเข้าเขตโทษให้ เบอร์บาตอฟ ซัดจังหวะแรกติดเซฟ เยนเซ่น เข้าทาง รูนี่ย์ ดึงจังหวะก่อนกดด้วยขวาส่งบอลกองก้นตาข่าย

เบิร์นลีย์ เกือบได้ประตูตีไข่แตก นานทีที่ 83 สตีเว่น จอร์แดน ผ่านเข้ามาในเขตโทษ ธอมป์สัน ได้โขกบอลตกกระดอนพื้นชนเสา ก่อนที่แนวรับแมนยู จะเคลียร์ออกมาได้ 5 นาทีต่อมา แมนยู ขึ้นเกมมาทางขวา วาเลนเซีย เปิดมากลางให้ มาเม่ บิรัม ดิยุฟ เทคตัวขึ้นโขก ทว่าหลักไม่ดีกดไม่ลงสุดท้ายออกหลัง

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนยู มาบวกได้อีกประตู วาเลนเซีย สาดยาวจากขวาเข้ามากลาง ดิยุฟ ชิงจังหวะโขกได้ก่อนในจังหวะที่ เยนเซ่น ออกมาตัดบอล แมนยู นำห่าง 3-0 และเป็นประตูแรกในสีเสื้อ “ปีศาจแดง” ของกองหน้าเซเนกัลรายนี้ด้วย ก่อนสุดท้ายจะจบเกมไปด้วยสกอร์ดังกล่าว

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เวส บราวน์, จอนนี่ อีแวนส์, ปาทริซ เอวร่า, แกรี่ เนวิลล์, พอล สโคลส์, หลุยส์ อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค (แอนเดอร์สัน น.65), หลุยส์ นานี่, เวย์น รูนี่ย์ (ไมเคิ่ล โอเว่น น.73), ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (เมเม่ บิราม ดิยุฟ น.73)

เบิร์นลีย์ : ไบรอัน เยนเซ่น, ไทรอน เมียร์ส, ไมเคิ่ล ดัฟฟ์, ดาวิด เอ็ดการ์, โจ จอร์แดน, เวด เอลเลียตต์, แกรแฮม อเล็กซานเดอร์, คริส อีเกิ้ลส์ (ร็อบบี้ เบล็ค น.82), เควิน แม็คโดนัลด์ (โจอี้ กุ๊ดยอห์นเซ่น น.73), ดาวิด นูเจนท์, สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ (สตีเว่น ธอมป์สัน น.36)

เชลซี 7 – ซันเดอร์แลนด์ 2

เริ่มเกมในครึ่งแรกเจ้าบ้านเป็นฝ่ายบุกเข้าใส่ทันที และในนาทีที่ 5 เชลซี ได้ลุ้นจากลูกเตะมุม แลมพาร์ด เปิดมาเสาสองแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ 3 นาทีต่อมา เจ้าถิ่นมาได้ประตูแรกจากการจังหวะที่ อเนลก้า วิ่งหลุดจากการเช็คล้ำหน้า ลากเลื้อยเข้าไปที่หน้าประตู แตะหลบ ฟูล็อป จอมหนึบทีมเยือนก่อนที่จะแปนิ่มๆ เข้าประตูไป เชลซี ออกนำไปก่อน 1-0

เชลซี - ซันเดอร์แลนด์ / Chelsea - Sunderland

นาทีที่ 13 ซันเดอร์แลนด์ มีโอกาสครั้งแรกจากลูกยิงของ ดาร์เรน เบนท์ แต่ก็ไปตรงตัวของ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารทีมเจ้าถิ่น นาทีที่ 17 เชลซี หนีไปเป็น 2-0 จากจังหวะที่ มาลูด้า ลากเลื้อยผ่านกองหลังของ ซันเดอร์แลนด์ ก่อนที่แต่งเข้าขวายิงยัดเสาสองเข้าประตู

นาทีที่ 22 เชลซี นำห่างไปเป็น 3-0 จากจังหวะที่ แอชลี่ย์ โคล จับบอลอย่างแม่นยำ ล็อคหลบกองหลัง ซันเดอร์แลนด์ ก่อนที่จะจิ้มผ่านตัว ฟูล็อป นายทวารทีมเยือนเข้าประตูไป

เกมผ่านไปแล้วครึ่งชั่วโมง ซันเดอร์แลนด์ ยังหาช่องเข้าไปทำประตูยังไม่ได้ ในขณะที่เจ้าถิ่นยังคงเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 34 เชลซี ได้บุกอีกครั้ง อเนลก้า ทำชิ่งให้ แอชลี่ย์ โคล เปิดมาหน้าประตู และเป็น แลมพาร์ด ที่เข้าชาร์จด้วยเท้าขวา หมดสิทธิ์ที่ ฟูล็อป จะรับได้ เชลซี 4-0 แล้ว

ช่วงเวลาที่เหลือของครึ่งแรก เชลซี ยังเป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่า แต่ก็ยังทำประตูเพิ่มไมได้ หมดเวลา 45 นาทีแรก เชลซี ยังนำ ซันเดอร์แลนด์ อยู่ 4-0

มาต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 49 เชลซี พลาดการได้ประตูไปอย่างน่าเสียดาย จากลูกยิงระยะไกลของ อเนลก้า บอลพุ่งไปชนคานอย่างจัง แต่ 3 นาทีต่อมา เชลซี มาได้ประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่ โจ โคล วางบอลใส่พานให้ บัลลัค เทคตัวขึ้นโขก เป็นประตูให้เชลซีนำห่างไปเป็น 5-0

แต่นาทีที่ 55 ซันเดอร์แลนด์ ตีไข่แตกได้สำเร็จ จากจังหวะที่ โจนส์ โหม่งชงให้ เซนเด้น ได้ซัดด้วยขวาบอลพุ่งเข้าก้นประตูอย่างสวยงาม ซันเดอร์แลนด์ ตามมาเป็น 1-5

เจ้าถิ่นมาเอาคืนได้ในนาทีที่ 65 จากจังหะที่ เซอร์คอฟ โยนบอลมาที่หน้าประตู ฟูล็อป วิ่งออกมาปัดบอลแต่กลับไปเข้าเท้าของ อเนลก้า ก่อนที่จะแปด้วยขวาและไม่มีเหลือ เชลซี 6-1

เชลซี ยังเป็นฝ่ายได้ลุ้นประตูอย่างต่อเนื่อง และในนาทีที่ 73 มาลูด้า ปั่นลูกเตะมุมมาที่หน้าประตู แต่ก็โดนผู้เล่นของ ซันเดอร์แลนด์ เคลียร์บอลออกมาได้ นาทีที่ 75 อเนลก้า เกือบมาทำแฮตทริก จากจังหวะที่ มาลูด้า โยนบอลข้ามฝากให้ อเนลก้า ก่อนที่จะแปไปตรงตัวของ ฟูล็อป นายทวารทีมเยือน

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกมการแข่งขันเจ้าถิ่นยังคงเติมเกมบุกอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะ เป็นฝ่ายนำ ในขณะที่ทีมเยือนก็ทำได้เพียงแค่รอจังหวะสวนกลับเท่านั้น นาทีที่ 90 แลมพาร์ด มายิงประตูให้ เชลซี นำ ซันเดอร์แลนด์ 7-1

แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซันเดอร์แลนด์ มาได้ประตูเพิ่มจาก ดาร์เรน เบนท์ หมดเวลาการแข่งขัน เชลซี เปิดบ้านไล่ยำ ซันเดอร์แลนด์ อย่างเละเทะ 7-2 พร้อมรั้งจ่าฝูงต่อไป

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่ (อเล็กซ์ น.46), แอชลี่ย์ โคล (เซอร์คอฟ น.46), โจ โคล, มิชาเอล บัลลัค, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, จูเลียโน่ เบลเล็ตติ, นิโกล่าส์ อเนลก้า

ซันเดอร์แลนด์ : มาร์ตัน ฟูล็อป, ฟิล บาร์ดสลี่ย์, ลอริค กาน่า, เปาโล ดา ซิลวา, จอร์จ แม็คคาร์ทนี่ย์, สตีด มัลบร็องก์, ดาวิด เมย์เลอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ดารีล เมอร์ฟี่, ดาร์เรน เบนท์, เคนวิน โจนส์

ผลบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่อื่น

ทอตแน่ม ฮอทสเปอร์ เสมอ ฮัลล์ ซิตี้ 0-0
วูล์ฟแฮมป์ตัน แพ้ วีแกน แอธเลติก 0-2
ปอร์ทสมัธ เลื่อนเตะ เบอร์มิ่งแฮม

Credit: ผลบอล พรีเมียร์ลีก : ผีเข่นนิ่ม3-0ดิยุฟยิงด้วย เชลซี ดุ7-2
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...