ภายหลังถูกแบนในหลายประเทศ ท่าม กลางการต้อนรับที่อบอุ่นและจัดเต็มของชาวไทยสร้างความประทับใจให้ ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก "เลดี้ กาก้า"

นับ เป็นอีกปรากฏ การณ์ที่ห่างหายไปนานจากเมืองไทยนับตั้งแต่คอนเสิร์ตราชาเพลงป๊อป "ไมเคิล แจ๊กสัน" ในปีพ.ศ.2536 ที่สนามศุภชลาศัย ซึ่งผุดกระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทยในท่าเต้น ลูบเป้า

ไมเคิลกลับมาเปิดคอนเสิร์ตอีกครั้งในปี 2538 ที่อิมแพ็ค อารีนา แต่ไม่ฮอตฮิตเท่าครั้งแรก

ในปี 2555 นับจากนาทีที่ "ยานแม่" ร่อนลงถึงสนามบินดอนเมือง สาวกสาวเฮี้ยว "เลดี้ กาก้า" ก็ได้เวลาเฟี้ยว!!

เมื่อ ถึงวันคอนเสิร์ต "เลดี้ กาก้า เดอะ บอร์น ดิส เวย์ บอลล์" ที่มีผู้ชมแน่นขนัดสนามราชมังคลาฯ กว่า 5 หมื่นคน สาวกทุกคนจัดเต็มสุดฤทธิ์ โชว์ความเป็น "ไทย มอนสเตอร์" แฟนพันธุ์แท้ของ "กาก้า" เลดี้ที่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายทั้งด้านบวกและลบ

ภายใต้หน้ากาก ชุดแฟนตาซีแพรว พราวระยิบระยับ ที่มีทั้งสวย เริ่ด แร็งส์!! มีอะไรซ่อนอยู่ในนั้น

เบส ด.ช.กิตติพงษ์ พงษ์ทักษ์กุล วัย 14 ปี หนึ่งในแฟนพันธุ์แท้ "เลดี้ กาก้า" ที่มาในชุดหนังสีแดง วิกผมหน้าม้าสีบลอนด์ เฝ้ารอเวลาที่ประตูแห่งความสนุกสุดมันจะเปิดออก

เบสเล่าว่าบ้านพัก อยู่วงเวียนใหญ่ ไกลจากสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตมาก จึงจองโรงแรมกับเพื่อนๆ เพราะต้องการมาถึงงานเป็นคนแรกๆ เนื่องจากส่วนตัวชื่นชอบเลดี้ กาก้า มากถึงมากที่สุด

"กาก้าทำทุกอย่างเพื่อเพศที่ 3 สู้เพื่อคนเพศที่ 3 จึงรู้สึกถูกโฉลก ในส่วนของแฟชั่นก็ชอบแบบนี้อยู่แล้ว ยิ่งทำให้ชอบมาก เราชอบเขาในฐานะศิลปินนักสู้ที่มีความเป็นตัวของตัวเอง รักตัวเอง ไม่ก้าวก่ายสิทธิคนอื่น และสู้เพื่อสิทธิของเพื่อนร่วมโลก ไม่รังเกียจใคร"

แม้เลดี้ กาก้า จะเป็นศิลปินไอดอลของเบส แต่ก็ไม่ได้เป็นไอดอลของเบสในทุกเรื่อง

"เรื่อง บุหรี่ แอลกอฮอล์ ในเมืองนอกอาจเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับตัวเองจะไม่นำไปทำตาม เพราะอยากรักษาสุขภาพของตัวเองด้วย มองเขาชื่นชอบเขาในมุมที่เขาเป็นศิลปินที่แสดงออกเพื่อความเท่าเทียม" เบสบอก

เบสกล่าวด้วยว่าคนที่เรารักมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี การที่วัยรุ่นบ้านเรามารอคอยเลดี้ กาก้า ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะเขาไม่ได้มาแสดงที่บ้านเราบ่อยๆ ไม่ได้อยู่เมืองไทย ทุกคนจึงอยากดู อยากเห็นชัดๆ ส่วนใครที่ไม่ชอบก็ต่างคนต่างความคิด ความเข้าใจในจุดหมายไม่เหมือนกัน เงินที่ซื้อบัตรก็ไม่ได้เดือดร้อนใคร เพราะทยอยเก็บจากค่าขนมตั้งแต่รู้ว่าเขาจะมาเมืองไทย

ด้าน นินาร์ น.ส.ฐานิตา วงศ์ประเสริฐ อายุ 17 ปี ร่วมบอกเล่าถึงเหตุผลที่ชื่นชอบเลดี้ กาก้า ว่า "เพราะเขาไม่ได้เป็นนักร้องที่ร้องเพลงเก่งอย่างเดียว แต่ยังเป็นผู้นำแฟชั่น และชอบการใช้ชีวิตของเขาที่สู้ชีวิต เริ่มจากศูนย์กระทั่งขึ้นสู่จุดสูงสุด"

นินาร์ยังบอกเล่าถึงความประทับใจในวันที่เลดี้ กาก้า เดินทางมาถึงประเทศไทย

"หนู ไปรอรับที่สนามบิน ได้ยืนอยู่แถวหน้าเพราะไปรอตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ เขาเดินมาตรงหน้าหนูก่อนหยิบกรอบรูปภาพที่เป็นรูปของตัวหนูเองแต่งตัวในชุด เลียนแบบกาก้า พร้อมเขียนข้อความว่า Welcom to Thailand ซึ่งเตรียมไปให้เขา แต่เขาเดินมาหยิบไปจากมือหนูเอง ตอนนั้นรู้สึกช็อกเพราะที่ไปรออยู่แถวหน้าคิดว่าแค่ได้เจอ ไม่คิดว่าเขาจะเดินมาหยิบรูปของหนูเอง"

นินาร์ให้มุมมองว่า คนอาจจะไม่ชอบที่เขาแต่งตัวโป๊ แต่ในเมืองไทยเขาก็ไม่ได้ทำอะไรขนาดนั้น และเราคงไม่ทำตามอยู่แล้ว อย่างเพื่อนๆ ที่มาในวันนี้ก็ทำชุดมาโดยดัดแปลงให้ดูดี ไม่ได้โป๊อะไรอยู่แล้ว ศิลปินคนอื่นก็ชื่นชอบแต่ไม่ถึงขั้นมารอรับที่สนาม บิน หรือตัดชุดเพื่อมาในงานคอนเสิร์ต

"แต่สำหรับเลดี้ กาก้า ชอบมาตั้งแต่อัลบั้มแรก เห็นครั้งแรกก็รู้สึกถึงความแปลก เงินที่ซื้อบัตรแม่ก็สนับสนุนเพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่เป็นเรื่องของความสุข"

ไม่เพียงเหล่าลิตเติ้ลไทยมอนสเตอร์ในกรุงเทพฯ ยังมีแฟนเพลงอีกจำนวนไม่น้อยที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด

ตา ต้าร์ นายวัชรพนธ์ เกสรสุคนธ์ ซึ่งเดินทางมาจากจ.ราชบุรี ตั้งแต่ตี 4 พร้อมชุดที่มาแบบจัดเต็มบอกเล่าว่า เตรียมชุดล่วงหน้าเป็นเดือน ส่วนเงินค่าบัตรเข้าชมก็ต้องเก็บเป็นปี เพราะเขาคือแรงบันดาลใจ เขาสร้างพื้นที่ในสังคมให้กับคนเพศที่สาม การที่คนไม่ชอบก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แต่สำหรับตัวเองเห็นว่าการแต่งกายและการแสดงออกของเลดี้ กาก้า มีความเหมาะสมเพราะเปิดเผยตัวเอง

"การเดินทางมาดูคอนเสิร์ตครั้งนี้ ครอบครัวสนับสนุนเต็มที่ เพลงของเขาทำให้เรามีความสุข เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างกำลังใจให้เราในการใช้ชีวิตนอกจากครอบครัว"