ทำไง ?? "ไอศกรีมกะทิ-ถั่วแปบ-ขนมต้ม-ขนมเหนียว" ไปตีถล่มตลาด USA-ยุโรป ทำขายไม่ทัน !!

แม้จะเริ่มเข้าย่างฤดูฝน แต่สินค้า"ไอศกรีม"ในบ้านเราถือเป็นสินค้าขายดิบขายดี

 

เนื่องด้วยทุกฤดูกาลในบ้านเราไม่ว่าจะหน้าฝน หน้าหนาว  ในตอนกลางวันอากาศยังคงร้อนระอุแบบสุด ๆ !!

 

 

ทำให้ไอศกรีมแบรนด์ดังระดับพรี่เมี่ยมจากต่างประเทศยังคงทยอยไหลเข้ามาตีตลาดในบ้านเราปีละหลายยี่ห้อ

 

 

ขณะที่แบรนด์เก่าจากต่างประเทศที่เข้ามาตีตลาดก่อนหน้า ก็ใช้โปรโมชั่นลด แลก แจก แถมกันกระหน่ำ !!

 

 

สนนราคาไอศกรีมแต่ละยี่ห้อจากต่างประเทศ"ราคา"ไม่ใช่ถูก ๆ ไอศกรีมขนาดมาตรฐาน 1 สคูป (เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 51 มม. มีน้ำหนักประมาณ 42 กรัม)ราคาอยู่ที่ระดับ 100 กว่าบาทขึ้นไปก็มี รองลงมามีราคา 80-90-59บาทต่อสคูป

 

 

จนมาถึงไอศกรีมราคาถูกสุด ๆ อย่างไอศกรีมกะทิสดบ้านเรา  ใส่ท็อปปิ้งข้าวเหนียวมูล มันเชื่อม ลูกชิด โรยถั่วลิสงคั่ว ราดนมสดเล็กน้อย จะเลือกใส่ขนมปังหัวกระโหลกผ่าซีก หรือใส่ถ้วย และไอศกรีมเสียบไม้แบบโบราณ หรือไอศกรีมหลอดหลากสีใส่ถังหมุนไปหมุนมา ราคาเท่ากับ 10 บาท

 

 

ภาพรวมตลาดไอศกรีมในประเทศไทยตั้งแต่ระดับพรีเมี่ยม ระดับกลาง และระดับล่างมีมูลค่ารวมกันสูงถึง 15,000 ล้านบาท


 

 

@ถั่วแปบ-ขนมต้ม-ขนมเหนียวโกอินเตอร์


ขณะที่คนต่างชาติได้ทยอยเข้ามายื้อ แย้งมาร์เก็ตแชร์ตลาดไอศกรีมบ้านเรา กลับมีผู้หญิงไทยคนหนึ่งหาญกล้าทำไอศกรีมรสชาติไทย ๆ ไปตีตลาดอเมริกา และยุโรป ญี่ปุ่น รวมถึงตลาดในเอเซียประเทศอื่น ๆ


นี่แหละคือที่มา สุดยอดไอเดีย"แปลก" จริง ๆ


 

ทำอย่างไรทำให้"ไอศกรีมกะทิสด"จากมะพร้าวน้ำหอม และขนมไทย ๆ "ธรรมดา" อย่าง"ถั่วแปบ" "ขนมต้ม" และ"ขนมเหนียว" "เกี่ยวก้อยกันโกอินเตอร์ ไปขายดีถล่มทลายในตลาดหลายประเทศ  !! 

 

 


ความ"ไม่ธรรมดา"ซ่อนอยู่ตรงไหน โปรดติดตาม !!


 

นางสาวอัจฉรา  เจียมถาวร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บูโอโน่ (ประเทศไทย)จำกัด เปิดเผย"มติชนออนไลน"ว่า ทางบริษัทมีผู้ร่วมทุนเป็นชาวอิตาเลียน และแรกเริ่มบริษัทขายเฉพาะผลิตไอศกรีมแบบอิตาลี เรียกว่า "เจลาโต้" ซึ่งใช้ผลไม้สด ๆ ไทยเป็นวัตถุดิบหลัก ไม่ใส่สี ไม่แต่งกลิ่น เช่น กะทิ ทุเรียน มะม่วงน้ำดอกไม้ ส่งออกไปขายในต่างประเทศเป็นไอศกรีมระดับพรีเมี่ยมไปมันต่ำเข้าไปตีตลาดหลัก ที่สหรัฐอเมริกา รองลงมาเป็นยุโรปได้รับการตอบรับดีมาก เพราะฝรั่งจะนิยมของที่เน้นธรรมชาติ ปัจจุบันยอดขายของบริษัทจะแบ่งเป็นตลาดส่งออกถึง 95% ขณะที่ยอดขายภายในประเทศเพียง 5%

 

 

"ไอศกรีมที่เราส่งออกไปได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า เพราะผลไม้เราจะเน้นที่ออกตามฤดูกาลสด ๆ เท่านั้น ให้มีความเป็นธรรมชาติไม่ใช่สารเร่ง ใช้สารเคมี ทางบริษัทจึงมีสวนที่มีคอนแทรคฟาร์มมิ่งรวมกันอยู่ ทำให้มั่นใจในเรื่องปลอดสารตกค้าง เพราะการส่งออกไปต่างประเทศจะมีการตรวจสอบเข้มงวดมาก"นางสาวอัจฉรากล่าวและ ว่า


 

 

ตลอดเวลาของการส่งออกทางบริษัทได้พยายามคิดค้นที่จะทำสินค้าเพิ่มมูลค่า ด้วยการขยายตลาดให้ได้มากขึ้น แต่ในตลาดยุโรปติดเรื่องเงื่อนไขกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศด้วย โดยเฉพาะสินค้าที่ส่งเข้าไปขายห้ามมี"นม"เป็นส่วนผสมด้วย จึงได้คิดวิธีการที่จะทำให้เจลาโต้ผลไม้สดต่าง ๆ มีความหลากหลายแตกต่างจากเจลาโต้ที่ขายในตลาดยุโรปเองด้วยการทำเป็นขนมโมจิ รสชาติต่าง ๆ เช่น งาดำ ลิ้นจี่ ฯลฯ ห่อหุ้มด้วยไอศกรีมด้านใน แต่ตัวเนื้อแป้งที่หุ้มด้านนอก

 

 

ทางบริษัทมีการวิจัยและพัฒนาให้ยังนุ่นเหมือนโมจิปกติ ซึ่งปรากฎว่า ได้รับการตอบรับในตลาดยุโรปดีมาก ส่วนตลาดญี่ปุ่นไม่สามารถส่งโมจิเข้าไปขายได้ เพราะมีเรื่องกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศเช่นกัน


 

และเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ได้คิดพัฒนาต่อยอดขึ้นไปอีก โดยคิดว่า น่าจะสามารถนำกะทิมาใช้แทนนม แต่จะทำอย่างไรให้ผลิตไอศกรีมกะทิได้หลากหลายขึ้น จึงได้มีการนำขนมไทย เช่น ถั่วแปบ ขนมต้ม ขนมเหนียว นำแป้งมาห่อหุ้มไอศกรีมกะทิภายนอก ด้านบนยังคงเป็นเอกลักษณ์ของขนมไทยแต่ละชนิด "ถั่วแปบ" โรยหน้าด้านบนด้วยถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่ง โรยมะพร้าวขูดเส้น  "ขนมต้ม" โรยมะพร้าวขูดเส้น และ"ขนมเหนียว" โรยด้วยน้ำตาลมะพร้าว ข้าวคั่วให้พองเหลืองด้านบน โดยที่แป้งของนมแต่ละชนิดยังเหนียวนุ่ม ขณะที่มะพร้าวยังคงให้รสชาติเหมือนปกติ แม้จะต้องผ่านการแช่แข็งที่อุณหภูมิ -20 องศา

 

 

นอกจากนี้ ในเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้คิดค้นขนมไหว้พระจันทร์ไส้ทุเรียนสดส่งไปขายที่ฮ่องกง ซึ่งคนจีนชอบรับประทานทุเรียน ทำให้ขนมไหว้พระจันทร์ขายดีมาก

 

 

อย่างไรก็ตาม คิดว่าผลไม้สด ๆ ของไทยมีความอร่อย อุดมด้วยไปคุณค่าทางสารอาหาร น่าจะมีทางคิดค้นทำผลิตภัณฑ์อะไรที่หลากหลายได้อีกมาก โดยล่าสุดขยายตลาดทำพวกเบเกอรี่ เช่น มาการองไส้ผลไม้ต่าง ๆ เป็นต้น ทั้งนี้ ปัจจุบันนอกจากบริษัทจะผลิตสินค้าในแบรนด์ของตัวเองแล้ว คือ "Buono" แล้ว มีการรับจ้างผลิตให้กับบริษัทใหญ่ ๆ ด้วย ปัจจุบันบริษัทมียอดขายประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี

 

 

ใครที่สนใจอยากรู้ว่า รสชาติถั่วแปบ ขนมต้ม ขนมเหนียว หุ้มไอศกรีมรสชาติเป็นอย่างไรแวะไปชม ไปชิมกันได้ที่ห้างที่อิเซตันชั้น 5 และสยามพารากอน ชั้น G แต่ต้องรีบไปกันหน่อย เพราะทางบริษัททำมาวางขายไม่มากนัก เพราะตลาดต่างประเทศตอนนี้ขายดีจนทำส่งไม่ทัน

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...