เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28  พ.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.ต.ท.ประเสริฐ พิมเสน พนักงานสอบสวน  สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาท ที่บ้านเลขที่ 18/2 ม.2 ต.พระแก้ว อ.ภาชี แล้วคู่กรณีนำคนเจ็บขึ้นรถยนต์กระบะหลบหนีไป จึงพร้อมด้วยพ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร ผกก. รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

 พบภายในบ้านมีเลือดไหลนองเต็มพื้น และหยดเป็นทางยาว พบมีดปลายแหลมตกอยู่ 1 เล่ม ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่าถูกผู้ก่อเหตุนำตัวขึ้นรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ไตตัน สีขาว หมายเลขทะเบียน ฒค-848 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไปจึงได้วิทยุสกัดจับ

 ต่อมาศูนย์วิทยุอยุธยาได้รับแจ้งจากประชาชนที่นั่งตกปลาอยู่ใต้ สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนเลี่ยงเมืองสาย 356 หลักกม. 4-5 ม.4 ต.บ้านรุน อ.พระนครศรีอยุธยา ว่า มีรถยนต์กระบะซึ่งตรงกับที่ สภ.ภาชี แจ้งสกัดจับกุม มาจอดแล้วโยนศพลงไปในแม่น้ำ จากนั้นขับรถหนีอย่างรวดเร็วไปตามถนนสายเอเชีย จึงได้วิทยุสกัดจับกุม

 ต่อมาพ.ต.ท.ชูสิทธิ์ อุดมกิจมงคล สวป.สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน นำกำลังตั้งจุดสกัดบนถนนสายพหลโยธิน หลักกม.48-49 ต.เชียงรากน้อย พบเห็นรถยนต์คนร้ายขับมาด้วยความเร็ว จึงเข้าประกบแล้วบังคับให้จอดรถ ก่อนเข้าจับกุมตัวทราบชื่อ นายภูมินทร์ หรือทิว สมชายดี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/27 ซอยอินทามระ1 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. ในสภาพร่างกายเปื้อนเลือด 

 ในรถพบเสื้อเชิ้ตสีแดงเปื้อนเลือดทั้งตัว อาวุธมีดปังตอ 2 เล่ม ในกระบะรถพบฝาตู้เสื้อผ้า จอบและเสียม 2 อัน มีคราบเลือด ฝาท้ายกระบะยังพบรอยเลือดจำนวนมาก ต่อมาพล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.ภ 1 พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก. พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธวงศ์ รองผกก.ป. สภ.พระอินทร์ราชา เดินทางมาสอบสวนผู้ต้องหา

 นายภูมินทร์ ให้การรับสภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านางนภาพรรณ สีหราช อายุ 27 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 18/2 ม.2 ต.พระแก้ว อ.ภาชี  ซึ่งเป็นภรรยา มีอาชีพขายไอศกรีมในตลาดภาชี คบหากันมา 1 ปี  ตนเองช่วยเหลือผู้ตายและลูกติดกับสามีเก่า 3 คนมาตลอด ผู้ตายจะขอเงินใช้ครั้งละ 3-4 พันบาทเป็นประจำ ตนเองจะมาหาผู้ตายอาทิตย์ละครั้ง

 ก่อนเกิดเหตุผู้ตายโทรศัพท์ขอเงิน 4,000 บาท ตนเองบอกไปว่ายังไม่มีเงินให้รอก่อน แต่กลับถูกผู้ตายต่อว่าอย่างรุนแรง บอกว่าถ้าหาเงินมาให้ไม่ได้ก็ไม่ต้องมาร่วมเพศกับผู้ตาย จึงเกิดความแค้น เตรียมอาวุธมีดปลายแหลมและมีดปังตอมาเพื่อฆ่าผู้ตาย เมื่อมาถึงที่บ้านพบผู้ตายอยู่เพียงคนเดียว จึงใช้อาวุธมีดที่เตรียมมาแทงเข้าที่หน้าอกไป 1 ครั้ง ผู้ตายร้องขอชีวิต จากนั้นได้ใช้มีดแทงซ้ำอีกหลายครั้ง แต่เห็นว่าผู้ตายยังไม่เสียชีวิต จึงใช้มีดปังตอที่เตรียมมาปาดคอ จากนั้นลากศพออกจากบ้านเพื่อจะนำขึ้นรถกระบะ ขณะนั้นเห็นผู้ตายยังขยับตัว จึงถอยรถทับซ้ำ แล้วลากศพขึ้นรถเพื่อจะนำไปทิ้ง แต่เกรงมีคนเห็นจึงขึ้นบ้านไปงัดฝาตู้เสื้อผ้านำมาปิดทับเอาไว้ แล้วนำศพไปโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้

 ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. ที่ใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาจุดที่ผู้ต้องหานำศพมาโยนทิ้ง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำกำลังนักประดาน้ำงมค้นหา กระทั่งพบศพนางนภาพรรณ ห่างจากจุดที่โยนศพทิ้งประมาณ 10 เมตร ในสภาพสวมเสื้อยืดสีขาว กางกีฬาขาสั้นสีเทา ตามร่างกายมีบาดแผลถูกแทงกว่า 10 แผล ลำคอถูกปาดด้วยของมีคมจนเหวะหวะ เป็นแผลที่ทำให้เสียชีวิต สร้างความสลดใจต่อประชาชนที่พบเห็นเป็นอย่างมาก

 ขณะที่ พล.ต.ต.อนุรักษ์ กล่าวว่า เป็นคดีที่โหดเหี้ยมมาก ดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้รวดเร็ว ซึ่งจะต้องสอบสวนผู้ต้องหาให้ละเอียด ทราบว่าผู้ต้องหาเดิมเป็นชาวเวียดนาม แต่มาอยู่ประเทศไทยเป็นเวลานานจนได้รับสัญชาติไทย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน