ตำรวจจับทันควันคนร้ายเมาฆ่าข่มขืนแม่เฒ่าวัย 74 เจ้าของร้านขายของชำ ขณะย่องเข้าไปขโมยเหล้า แต่เหยื่อตื่นมาพบเลยก่อเหตุ
วานนี้ (26 พฤษภาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต ในบ้านเลขที่ 47 ถนนแก้วเสนา ชุมชนเกตุแก้ว ต.วารินชำราบ จึงพร้อมเจ้าหน้าที่สอบสวนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นร้านขายของชำพบศพนางบุญล้อม มรดก อายุ 74 ปี เจ้าของบ้านนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอนด้านหลังร้าน สภาพศพมีร่องรอยถูกบีบคอจนเป็นรอยฟกช้ำ และร่องรอยการถูกข่มขืน อีกทั้งยังพบคราบอสุจิเปื้อนบริเวณอวัยวะเพศของผู้ตาย ส่วนที่หัวเตียงนอนและบริเวณชั้นวางของในร้านมีร่องรอยของการรื้อค้นกระจัดกระจาย จึงมอบให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาเกๅบหารอยนิ้วมือแฝงของคนร้าย ก่อนส่งศพไปให้แพทย์นิติเวชผ่าชันสูตร เบื้องต้นแพทย์ลงความเห็นการเสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจ และถูกข่มขืน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีคนเห็นนายยุทธนา หรือ หน่อย นิลดา อายุ 38 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 63/3 ชุมชนบ้านมั่นคง ต.วารินชำราบ ซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกับที่เกิดเหตุ มาป้วนเปี้ยนอยู่หลายรอบ จนมาพบผู้เสียชีวิตดังกล่าว
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังเข้าตรวจค้นภายในบ้าน นายยุทธนา ก่อนว่าพบนอนหลับอยู่บนเตียง และที่กางเกงขาสั้นที่นายยุทธนาสวมใส่มีรอยเลือด ใกล้กันยังพบขวดสุราขาว 40 ดีกรี 2 ขวดบุหรี่ยี่ห้อหนึ่ง ที่คาดว่านำมาจากร้านของคนตาย จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
ทั้งนี้ นายยุทธนาให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งดื่มเหล้าขาวกับเพื่อนคนงานก่อสร้าง เมื่อเหล้าหมดได้มาที่ร้านของคนตายเพื่อขอซื้อเหล้าไปดื่มต่อ พบว่าร้านปิดจึงแอบปีนเข้าไปหลังร้านและพบผู้ตายที่อยู่บ้านคนเดียวตื่นขึ้นมาพบ จึงใช้มือบีบไปที่ลำคอและถูกคนตายกัดนิ้วมือ ทำให้ออกแรงบีบคออย่างแรงจนแน่นิ่งไป จากนั้นด้วยความเมาจึงทำการข่มขืนศพไป 2 ครั้ง ก่อนรื้อค้นได้เงินสด 20,000 บาทสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น และคว้าเอาเหล้าขาวกับบุหรี่หลบหนีออกมา ก่อนไปเที่ยวตามแหล่งบันเทิงในตัวจังหวัด กระทั่งกลับมานอนพักจนถูกเจ้าหน้าที่ตามมาจับตัวไว้ได้