เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ไชน่าเดลี่ของจีน รายงานว่า เกิดเหตุสุดสลดขึ้นในจีน เมื่อคู่รักชายหญิงคู่หนึ่งดื่มเหล้าจนมึนเมา และขับรถชนหญิงชรารายหนึ่งบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะฝังหญิงชราทั้งเป็นหนีความผิด เพราะนึกว่าเธอตายแล้ว
รายงานระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา เมื่อคู่รักหนุ่มสาววัย 25 ปีคู่หนึ่ง จากมณฑลกุ้ยโจวของจีน ได้ไปเที่ยวคาราโอเกะกันตลอดทั้งคืน และดื่มเหล้าจนเมามาย จากนั้นทั้งคู่ก็ขับรถกลับบ้าน แต่ระหว่างทาง พวกเขาก็เกิดขับรถไปชนเอาหญิงชราวัย 68 ปีรายหนึ่งจนบาดเจ็บสาหัส จึงลงมาช่วยกันอุ้มร่างของหญิงชราขึ้นรถ พร้อมกับบอกผู้ที่เห็นเหตุการณ์ที่อยู่โดยรอบว่าพวกเขาจะรีบพาหญิงชราไปส่งโรงพยาบาล
แต่หลังจากขับรถออกมาไกลจากที่เกิดเหตุแล้ว ทั้งคู่ก็พบว่าหญิงชรานอนนิ่งไม่ไหวติงใด ๆ ก็นึกว่าหญิงชราเสียชีวิตแล้ว และเกิดความรู้สึกกลัวความผิดทั้งคดีขับรถชนคนตายและเมาแล้วขับ จึงตัดสินใจขับรถออกไปยังเขตก่อสร้างนอกเมือง ก่อนฝังหญิงชราในพื้นที่ก่อสร้างที่เต็มไปด้วยโคลนหวังทำลายหลักฐาน จากนั้นก็ทิ้งรถไว้ห่างจากที่ฝังร่างหญิงชรากว่า 300 เมตร แล้วทั้งคู่ก็หลบหนีไป
วันรุ่งขึ้น คนงานก่อสร้างก็มาพบรถเก๋งคันหนึ่งถูกจอดทิ้งไว้ในพื้นที่ก่อสร้าง โดยบริเวณเบาะหลังรถมีคราบเลือดเต็มไปหมด จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสืบสวนทันที ก่อนจะมีการพบศพหญิงชราถูกฝังอยู่ห่างออกไปราว 300 เมตร และจากการชันสูตรศพหญิงชราพบว่า ปอดของเธอมีแต่ดินโคลนเต็มไปหมด ซึ่งมันเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นชัดว่า เธอถูกฝังขณะที่ยังมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน จึงได้หายใจเอาดินโคลนเข้าไปด้วย
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้สืบสวนคดีนี้อย่างละเอียด จึงรู้ว่าคู่รักซึ่งเป็นเจ้าของรถที่ถูกทิ้งไว้นั้น ได้ขับรถชนหญิงชราจนบาดเจ็บสาหัสก่อนจะนำร่างมาฝังทั้งเป็นลงในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อปกปิดหลักฐาน แต่กลับพลาดทิ้งรถเอาไว้
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามจับกุมตัวหนุ่มสาวทั้ง 2 รายมาดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยทั้งคู่ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม และได้รับโทษจำคุกในเบื้องต้น เพื่อรอการพิพากษาคดีต่อไป ขณะที่คดีนี้ก็ได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในเครือข่ายสังคมออนไลน์จีนว่า เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นความไร้ศีลธรรมของคนสมัยใหม่ได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว