'นวดกะปู๋' สวรรค์ต้องห้าม!!!

  จากตำรับตำราโบราณของศาสตร์การนวดกษัยจนถึงนวดกะปู๋ ดูเหมือนบริการทางเพศจะมีสีสัน เร้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นของลิ้มลองใหม่ๆของชายนักเที่ยว
       
       ต้นตำรับการนวด
       
       นวดกะปู๋ มีความคล้ายคลึงกับศาสตร์ การนวดกษัยหรือจับกษัยเป็นการนวดแผนไทยประเภทหนึ่งที่จะทำการนวดบริเวณลูก อัณฑะ และโดยรอบเพื่อให้การไหลเวียนในร่างกายดีขึ้น ช่วยในเรื่องการทำงานของไต และยังบรรเทาอาการปวดเอวปวดหลัง รวมไปถึงการทำงานของอวัยวะเพศและน้ำอสุจิ
       
       การนวดแบบนี้ก็เคยมีให้บริการกันอยู่ โดยร้านที่มีชื่อเสียงคือ 'นะคะ' หรือมีชื่อเก่าว่า 'ฟิตอัพ' ซึ่งมีอยู่หลายสาขา มีขั้นตอนการนวดเริ่มตั้งแต่การประคบร้อน นวดผ่อนคลาย จากนั้นหมอนวดก็จะเอาน้ำมันชโลมที่อวัยวะเพศแล้วนวด ซึ่งจะนวดอยู่นานพอสมควร เป้าหมายของการนวดคือ การฝึกและสร้างความอึด เพื่อให้ผู้ใช้บริการไม่หลั่งเร็ว
       
       นวดกษัย จะเน้นหน้าตาของหมอนวดที่จะไม่สวยมากนัก แต่วิธีการนวดแบบนี้ก็เป็นที่เชื่อกันว่าช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ และเป็นที่นิยมในหมู่นักเที่ยวที่ชอบเสน่ห์เฉพาะตัวของการนวดแบบนี้
       
       มาถึงปัจจุบัน การนวดกษัยมีเหลือให้บริการอยู่น้อยมากแล้วเพราะการนวดแบบนี้จำเป็นต้องใช้ เวลา และความชำนาญของผู้นวด ซึ่งโดยมากจะเป็นหมอนวดที่เคยทำงานอยู่ที่ร้านต้นตำรับเก่าแล้วมาเปิดเอง เป็นรายเล็กๆ

 

มาสู่ยุคนวดกะปู๋
      
       ถึงตอนนี้ที่การนวดกษัยปิดตัวลงมากมาย และถูกแทนที่ด้วยการเปิดตัวอันมากล้นของสถานบริการที่เรียกอย่างอ้อมๆว่า 'พริตตี้สปา' แต่รู้กันในนักเที่ยวว่า 'นวดกะปู๋' มีมากมายหลายสาขา ซึ่งมีการโปรโมทผ่านเว็บไซค์ และแปะลิงค์ตามเว็บบันเทิงต่างๆ
       
       จุดเด่นของบริการนวดกะปู๋ก็คือ หมอนวดหรือที่เรียกกันว่า 'น้องๆ' หรือ “พริตตี้” จะหน้าตาดี หุ่นดี ผิวขาวในระดับว่ากันว่า เทียบเท่ากับพริตตี้หรือเป็นพริตตี้มารับงานเองเลยก็มี ยังมีถึงระดับนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หรือนักเรียนมัธยมก็มีที่มาหารายได้พิเศษ
       
       โดยปกติแล้วสถานบริการพวกนี้จะเปิด-ปิดตั้งแต่ 10 โมงเช้าจนถึงตี4 แต่ตอนนี้ด้วยการแข่งขันที่สูงขึ้น ความต้องการในท้องตลาดที่มากขนาดว่านักเที่ยวต้องโทร.จองคิว ทำให้หลายร้านมีการขยายเวลาไปถึง 6 โมงเช้า
       
       นอกจากนี้ยังมีเว็บบอร์ดที่รวมตัวของเหล่านักเที่ยว สำหรับประชาสัมพันธ์โปรโมชั่น แจ้งความเคลื่อนไหวของน้องๆในวงการ รวมไปถึงการตั้งกระทู้เพื่อแบ่งปันประสบการณ์โดยจะเรียกว่า 'ส่งการบ้าน' ซึ่งจะทำให้ได้ส่วนลดพิเศษในการใช้บริการอีกด้วย และการบ้านเหล่านี้เองก็จะถูกเรียกอีกทีว่า 'ลายแทง' เพื่อให้นักเที่ยวคนอื่นตามรอยไปหาน้องๆ ตามคำร่ำลือ โดยจะระบุเป็นรหัสหรือสถานบริการที่น้องๆทำงานอยู่
       
       โดยย่านชุมทางนวดกะปู๋นั้นจะมีหลายโซนตั้งแต่พระราม2 -ปิ่นเกล้า,ลาดพร้าว-รัชดา ,บางนา-ศรีนครินทร์,พระราม 9 -รามคำแหง และเรียบทางด่วนรามอินทรา ในส่วนของราคานั้นจะแบ่งตามหน้าตาหรือระดับของน้องๆ แบ่งเป็น เอส กับ เอ็มที่อาจจะสวยกว่าและราคาแพงกว่า นอกจากนี้ยังมีราคาค่าบริการซึ่งจะจัดเป็น 3 ระดับด้วยกัน
       
       ระดับ 1 นั้นคือการใช้มืออย่างเดียวราคา 700-1200บาท ระดับ 2 เรียกว่าถอดบนคือผู้บริการจะถอดเสื้อผ้าแล้วใช้ปากช่วย บวกราคาเพิ่มอีก500-700 ส่วนระดับ 3 คือการมีเพศสัมพันธ์กันโดยค่าตัวที่บวกเพิ่มจะสูงมากตั้งแต่ 2000 บาทขึ้นไป ซึ่งตรงนี้อยู่ที่การตัดสินใจของผู้ให้บริการด้วยว่าจะยินยอมหรือไม่ โดยราคาอาจสูงไปถึงหลักหมื่น ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าอยู่ที่การต่อรองหรือคารมของนักเที่ยว
      

นักเที่ยวต้องลุ้น
       
       นักเที่ยวบริการประเภทนี้จะเป็นกลุ่มชายวัยกลางคนไปจนถึงนักศึกษา ด้วยราคาที่มีหลายระดับ และไม่มีความสัมพันธ์แบบสอดใส่ รวมถึงหญิงที่มาให้บริการมีหน้าตาสวย และอายุน้อย นัท(ไม่ประสงค์ออกนาม) นักศึกษาจบใหม่ที่มีประสบการณ์เที่ยวนวดกะปู๋ก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งเขาเล่าว่าเคยไปใช้บริการอาบ อบ นวดจากที่รุ่นพี่แนะนำเนื่องจากได้รับงานพิเศษระหว่างเรียน หลังจากจบงานจึงมีการฉลองกันบ้าง
       
       “เวลาผมไปใช้บริการพวก นี้ อย่างแรกก็คือต้องเลือกที่หน้าตาก่อน แล้วอาบ อบ นวด หน้าตาสวยๆจะแพงมาก ซึ่งเมื่อได้มาเที่ยวนวดกะปู๋มันก็ถือว่าถูกกว่า และตรงกับความต้องการของเราที่อยากจะผ่อนคลายนิดหน่อย”
       
       น้องๆ แต่ละคนนั้นก็มีการให้บริการที่แตกต่างกันไป อาจเพราะเขายังหนุ่มอยู่ทำให้เขายังไม่เคยได้รับการบริการที่ไม่ดี และทุกครั้งแน่นอนว่าต้องมีการพูดคุยทำความรู้จักระหว่างกัน
       
       “ระดับสามที่มีอะไรกัน มันแพงเกินไปสำหรับผม แต่มีครั้งหนึ่งที่มีน้องคนหนึ่งซึ่งผมไปใช้บริการเขาบ่อย เจอกันบ่อย ก็มีครั้งหนึ่งที่เหมือนเขาจะอยากมีอะไรกันแบบไม่ต้องเสียเงิน แต่ผมนึกว่าเขาล้อเล่น เพราะตอนนั้นผมไม่รู้”
       
       แก่นแท้ของบริการประเภทนี้ ส่วนหนึ่งก็คือการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ในราคาที่เหมาะสม เขาเผยถึงประสบการณ์กับน้องคนหนึ่งที่เขาไปใช้บริการอยู่เป็นประจำ ซึ่งเขาเผยว่า มีครั้งหนึ่งที่เขาติดใจเลดี้บอย หรือสาวประเภทสอง เพราะบริการดี ใจถึง แต่ในส่วนประเด็นเรื่องราคานั้น การเที่ยวบริการแบบนี้ก็ถือเป็นรายจ่ายที่ค่อนข้างแพง
       
       “จริงๆ มันก็ถือว่าราคาแพง เปลืองเงินนะ มันก็เหมือนให้คนอื่นช่วยเหลือตัวเองให้เรา แต่ถ้ามีเงินเหลือเยอะก็จะไปผ่อนคลายบ้าง”

 

สิ่งทดแทนอาบ อบ นวด

   
       ท่ามกลางการเติบโตของธุรกิจนวดกะปู๋ ธุรกิจคู่แข่งอย่างอาบ อบ นวดกลับอยู่ในช่วงทรงตัวที่ไม่เติบโตขึ้น แต่ก็ยังมีกลุ่มลูกค้ามาใช้บริการ
       
       ภาคภูมิ สิทธิวุฒิ ผู้บริหารเว็ป ilikemassage.com ศูนย์รวมข้อมูลบริการอาบ อบ นวด เผยถึงความนิยมของการเปิดสถานบริการนวดกะปู๋ว่า เปิดกันมากขึ้นจนแทบหยุดไม่อยู่
       
       “อาบ อบ นวดก็ยังมีคนใช้บริการอยู่ พวกป๊าไม่ชอบลุ้นน่ะครับ เขาก็ชอบอาบ อบ นวดที่ได้มีอะไรกันชัวร์ ซึ่งในเรื่องของการเปิดบริการ อาบ อบ นวดจะจดทะเบียนเป็นสถานบริการครับ ซึ่งราคาของใบอนุญาตแต่ละห้องแพงมาก ขณะที่นวดกะปู๋จดทะเบียนในฐานะเป็นรีสอร์ทสปา แต่เบื้องหลังเขาจ่ายกันยังไงก็อีกเรื่องหนึ่ง”
       
       ในส่วนของความปลอดภัยนั้น เขามองว่า คนทั่วไปจะรู้สึกว่าบริการนวดกะปู๋นั้นปลอดภัยกว่าอาบ อบ นวด แต่จริงๆแล้วอาบ อบ นวดจะมีการตรวจร่างกายตลอดเพื่อป้องกันโรคตามกฎที่กำหนด ขณะที่นวดกะปู๋นั้นไม่มี
       
       “กลุ่มลูกค้าของนวดกะปู๋ก็เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นวัยรุ่นซะเยอะ อันนี้จากที่ผมตั้งข้อสังเกตนะ อาจไม่ได้อ้างอิงอะไรได้”
       
       มาถึงตอนนี้ แม้สถานบริการอย่างอาบ อบ นวดจะลดจำนวนลง และมีการจะเสนอยกเลิกพรบ.สถานบริการประเภทสาม(อาบ อบ นวด) ดังที่เป็นข่าวจากกรณี 'เอไลน่า' จนดูเหมือนว่าการค้าบริการทางเพศคงหมดไปจากสังคมไทยในไม่ช้า แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับเป็นไปในทางตรงข้าม
       
       แน่นอนว่าสังคมนี้ไม่ควร ยอมรับ หรือทำให้สิ่งผิดเป็นสิ่งถูก ทว่าผลของการออกกฎข้อห้ามก็ดูเหมือนจะให้ผลตรงกันข้าม ชนิดที่ต่อให้มาร้องโวยวายเรื่องศีลธรรมกันมากมาย ในสังคมปากว่าตาขยิบแบบนี้ เสียงใดๆก็ดูจะไม่มีผลต่อความเป็นไปที่ดำรงอยู่เลย
      
       ศัพน์ในวงการนวด
       
       ส่งการบ้าน คือ การที่ไปเที่ยวมาแล้วเขียนลงเว็ปบอร์ดเพื่อแบ่งปันประสบการณ์
       นางไม้ คือ สวยแต่ไม่บริการ แข็งทื้อเหมือนท่อนไม้
       เงินหล่น คือ บริการไม่คุ้มค้า
       เงินทอน คือ คุ้มค่า
       กรุ๊งกริ๊ง คือ ได้รับบริการจากน้องต่ำกว่ามาตรฐานที่คาดหวังไว้เล็กน้อย
       ถูกล้วงกระเป๋า คือ การที่น้องที่หมายตาถูกเรียกตัดหน้าไปอย่างน่าเสียดาย
       ม้าลาย คือ สาวบริการที่เป็นนักศึกษา
       ไฟเตอร์ คือ น้องที่บู๊ดุเดือดสู้ไม่ถอย
       
       ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต thainewsland.com

 

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

 

 

Credit: http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000063598
24 พ.ค. 55 เวลา 22:00 71,016 14 140
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...