ก็ไม่รู้ว่า งานนี้ต้องเฉพาะคนมีสีเท่านั้นหรือเปล่า ถึงจะสามารถเด็ดขาด ยุติปัญหาได้ ในสังคมบ้านเรา
กินเวลาแล้ว 3 เดือนกว่า ที่ปัญหาระหว่าง ยอดนักมวยไทย กับ ค่าย ป.ประมุข แดงขึ้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ แฟนมวยอย่างเรา แทบจะไม่เคยได้ข่าวระแคะระคายภายในค่ายกันเลย ซึ่งปัญหาหลักๆ ก็ไม่พ้นเรื่อง "เงินๆ ทองๆ"

ถ้าจะให้ไล่เรียงเหตุการณ์ ก็เหมือนกับมหากาพย์เรื่องหนึ่ง ที่มีครบทุกรสชาติ ไม่ว่าจะเซอร์ไพรส์ สุขเศร้า เคล้าน้ำตา หรือดราม่า ให้ติดตามกันต่อเนื่อง
บัวขาว ได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่กว่าจะมาดังเป็นข่าวครึกโครม ก็ปาเข้าไปวันที่ 9 มี.ค.แล้ว จากนั้นปฏิบัติการตามไล่หา ยอดแชมป์มวยเค-วัน และไทยไฟต์ 2012 ก็เริ่มขึ้น ไม่เว้นกระทั่ง พ่อแม่พี่น้อง ญาติสนิทมิตรสหาย ก็ถูกนำมาเป็นตัวละครหมด
ก่อนที่ บัวขาว จะทำเซอร์ไพรส์อีกครั้ง ออกมาเปิดโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจ ถึงสาเหตุที่หนีออกจากค่าย เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ณ สตูดิโอแห่งหนึ่งใน กทม. จากนั้นก็กลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่ จ.สุรินทร์ บ้านเกิด พร้อมกับมีข่าวตั้งค่ายของตัวเอง ชื่อว่า "บัญชาเมฆ"เมื่อรู้ว่า บัวขาว ปรากฏ ค่าย ป.ประมุข จึงพยายามอยากขอเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่นักมวยก็ไม่เปิดโอกาสที่จะเจรจาใดๆ จนคนในวงการมวยหลายฝ่าย ต้องเข้ามาเอี่ยวด้วยทั้งวงการ
แต่ที่ตกกะไดพลอยโจนมากที่สุด ก็เห็นจะเป็น ไทยไฟต์ หลังจาก ป.ประมุข ไม่อนุญาตให้บัวขาว ขึ้นชกในงานวันที่ 17 เม.ย. ที่พัทยา แถมยังมาโดนฟ้องอีก 100 ล้าน กลายเป็นคดีความกันใหญ่โต ซึ่งสาเหตุก็มาจากจุดไคลแม็กซ์ของเรื่องนี้นั่นเอง

ในวันที่ 17 เม.ย. ต่อหน้าแฟนหมัดมวย ณ แหลมบาลีฮาย หลายหมื่นคน และผู้ชมทางโทรทัศน์ เมื่อพิธีกรประกาศชื่อ บัวขาว ขึ้นเวทีชก ท่ามกลางเสียงโห่ร้องประหลาดใจของแฟนมวย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ มีการประกาศว่า ได้ถอดชื่อเขาออกจากรายการไปแล้ว ไม่เท่านั้น ยอดนักชก ยังสร้างความดราม่ามากขึ้น ด้วยการประกาศว่า "ยอมติดคุก" จนกลายเป็นคำฮิต "ทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์"
 

ในขณะที่ปัญหายังคาราคาซัง หลังจากนั้น ก็มีข่าว บัวขาว ได้ไปบวชเป็นพระอย่างเงียบๆ เมื่อวันที่ 6 พ.ค. และสึกออกมาในวันที่ 19 พ.ค. ซึ่งก็ทำให้เจ้าตัวพร้อมแล้ว ที่จะเผชิญหน้ากับความจริง และจบปัญหาวุ่นวายต่างๆ
และบทสรุปของการไกล่เกลี่ยประชุมเมื่อวานนี้ เนื้อหาหลักๆ ก็คือ การแบ่งสรรผลประโยชน์กันใหม่ ซึ่งทางบัวขาว จะได้รับมากกว่าเดิม อย่างที่ต้องการ ทั้งจากการชกและการโชว์ตัว

ส่วน ทางกำนันแก๊ ก็คงได้แต่ยอมถอยหนึ่งก้าว เพื่อความ "ปรองดอง" อย่างที่ทุกคนคาดหวัง อย่างน้อยก็ให้มันจบ แม้ดูเหมือนจะยังไม่ค่อย "แฮปปี้เอ็นดิ้ง" ก็เถอะ...

1 มี.ค. บัวขาว หายตัวไป ก่อนจะมาเป็นข่าวครึกโครม วันที่ 9 มี.ค.
11 มี.ค. คมพยัคฆ์ ซีพีเฟรชมาร์ท นักมวยแชมป์โลก รุ่นไลต์ฟลายเวท ของสภามวยโลก เปิดเผย บัวขาว โทรศัพท์มาพูดคุย 
12 มี.ค. บัวขาว ออกมาแถลงข่าวเปิดใจ ถึงสาเหตุหนีค่าย ณ​ สตูดิโอ แห่งหนึ่งใน กทม.
13 มี.ค. นายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย อาสาสางปมขัดแย้ง
17 มี.ค. บัวขาว เริ่มสร้างค่าย บัญชาเมฆ ที่บ้านเกิด จ.สุรินทร์ 
29 มี.ค. กกท. ยืนยัน บัวขาว หมดสิทธิ์ชกไทยไฟต์ ถ้าไม่มาเคลียร์กับ ป.ประมุข 
3 เม.ย. บัวขาว เดินทางไปชี้แจงปัญหากับ "บิ๊กหนุ่ม" นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการฯ กกท. 
4 เม.ย. บัวขาว มาปรากฏงานแถลงข่าวไทยไฟต์ 2012 พร้อมยืนยัน จะขึ้นชกแน่นอน
13 เม.ย. ไทยไฟต์ ประกาศ ถอดชื่อบัวขาว ออกจากรายการ 
17 เม.ย. บัวขาว แหกกฎ ขึ้นชกไทยไฟต์ 2012 ที่พัทยา 
19 เม.ย. "เสธ.ยอด" พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย เข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยปัญหา ให้บัวขาว 
20 เม.ย. "กำนันแก๊" ร่วมกับ หัวหน้าค่าย บุคคลในวงการมวย จัดงานแถลงข่าว หลัง บัวขาว แหกกฎขึ้นชกไทยไฟต์ / บัวขาว เดินทางไป กาตาร์ พร้อมกับ สมรักษ์ คำสิงห์ 
24 เม.ย. บัวขาว เดินทางไปถ่ายทำรายการ มิราเคิล ออฟ ไลท์ ที่มาเก๊า
26 เม.ย. กมธ.กีฬา เชิญ กกท., บัวขาว, ไทยไฟต์, กำนันแก๊ ชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้น / ป.ประมุข ฟ้องศาลเรียกค่าเสียาย 100 ล้าน กับ บ.สปอร์ตอาร์ต, โปรโมเตอร์ไทยไฟต์, นักกายภาพบำบัดของบัวขาว, กกท. และ บัวขาว 
30 เม.ย. ไม่มาประชุมรับฟังการพิจารณาโทษจาก กกท. โดยอ้างว่าป่วย
2 พ.ค. กกท. สั่งลงโทษ โปรโมเตอร์ ไทยไฟต์ ห้ามจัด 6 เดือน
6 พ.ค. บัวขาว ซุ่มเงียบ บวชพระที่ จ.สุรินทร์ โดยมีภาพและข่าวปรากฏผ่านทางเฟซบุ๊ก BanchamekGym 
17 พ.ค. กกท. สั่งลงโทษ เพิกถอนทะเบียนนักมวยของ บัวขาว เป็นเวลา 6 เดือน 
19 พ.ค. บัวขาว ลาสิกขาจากการเป็นพระ และยืนยันจะไปชี้แจง กกท. วันที่ 22 พ.ค.
21 พ.ค. ไทยไฟต์ โชว์หลักฐานเด็ด พร้อมฟ้องกลับ ป.ประมุข 200 ล้าน
22 พ.ค. กกท. เชิญบัวขาว และ ป.ประมุข พร้อมกับ "เสธ.ยอด" คนกลาง เข้ามาไกล่เกลี่ยยุติปัญหา