ไขความจริง! พบปฏิทินชาวมายัน โลกไม่แตกในปี 2012
ความเชื่อเรื่องวันสิ้นโลกนั้น ก่อนหน้านี้ มีการอ้างอิงปฏิทินโบราณของชนเผ่ามายา ในทวีปอเมริกากลาง ซึ่งทำนายว่า โลกของเราอาจถึงคราวดับสูญในวันที่ 22 ธันวาคม คริสตศักราช 2012
ปฏิทินของชาวมายันต่างกับปฏิทินทั่วไป ที่เดินต่อไปข้างหน้า ในขณะที่ปฏิทินของเผ่ามายา ใช้วิธีการนับถอยหลัง จนถึงจุดเลข 0 จุดสิ้นสุดในปี 2012 โดยวงจรของปฏิทินประกอบไปด้วย 13 ช่วง หรือ “แบ็กทัน” โดยแบ็กทันสุดท้ายอยู่ในช่วงของ ค.ศ.1606 ถึง 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 ( พ.ศ. 2555 )
ข้อมูลข้างต้นเป็นกระแสที่ถูกถกเถียง วิพากษ์วิจารณ์กันในทุกวงการ มีการสร้างเป็นภาพยนตร์วันสิ้นโลก การเชื่อมโยงกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพิ่มน้ำหนักกับความเชื่อโลกแตกของชาว“มายา”ที่มีความเป็นเลิศทางด้านการคำนวณและดาราศาสตร์ ขณะเดียวกัน นักโบราณคดีหลายคน ออกมาปฏิเสธตำนานวันสิ้นโลกตลอดไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ด้วยเหตุผลบางประการชาวมายาได้ละทิ้งเมืองอันรุ่งเรืองของพวกเขาในช่วงเวลานั้น หยุดอารยธรรมที่กำลังเติบโตทั้งหลายไม่มีการถ่ายทอดมายังชนรุ่นหลัง เหลือแต่เพียงซากปรักหักพังอยู่กลางป่าดงดิบในกัวเตมาลา หรือว่าพวกเขาเห็นและรู้และเห็นอะไรบางอย่าง และทิ้งไว้เป็นปริศนา
ล่าสุด นักโบราณคดีชาวอเมริกัน ได้ค้นพบหลักฐานใหม่ เป็นภาพเขียนฝาผนังเก่าแก่ของชาวเผ่ามายาที่โบราณสถานแห่งหนึ่งที่ถูกค้นพบว่ามีความเก่าแก่และกำลังไขปริศนาด้วยการพบปฏิทินทางจันทรคติของชาวมายา ระบุว่าไม่ได้สิ้นสุดลงในปี 2012 แต่อย่างใด พิสูจน์จากภาพวาดฝาผนังดังกล่าว คาดว่าเขียนขึ้นตั้งแต่คริสตศัตวรรษที่ 800 หรือกว่า 1,200 ปีก่อน มีการตกแต่งประดับประดาอย่างมีเอกลักษณ์
ซึ่งปฏิทินที่ค้นพบชิ้นใหม่นี้ เป็นปฏิทินดาราศาสตร์ที่ชนเผ่ามายันระบุวันเวลานับจากวันที่บันทึกออกไปไกลกว่า 7,000 ปีข้างหน้า และนั่นแสดงให้เห็นว่า ณ ปัจจุบันนี้ วันเวลาที่นับจากวันที่จารึกปฎิทินดังกล่าว ได้ล่วงเลยมาเพียง 1,200 ปีเท่านั้น ขณะที่ภาพบางภาพแสดงถึงการคำนวณปฏิทินของชาวมายา ที่เราไม่สามารถล่วงรู้เลยว่าบ่งบอกถึงสิ่งใดกันแน่ แต่มีการเชื่อมโยงกับพระอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวอังคาร ดาวศุกร์ และโลก
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ภาพส่วนหนึ่งเผยให้เห็นข้อเท็จจริงที่ว่า วัฎจักรด้านกาลเวลาของชาวมายาไม่มีที่สิ้นสุด โดยเดือนธันวาคมปลายปีนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นวัฎจักรใหม่ของปฏิทินแบบชาวมายา หรือที่เรียกกันว่า “แบ็กทัน” นั่นเอง
ศาสตราจารย์เลออนโซ แบร์เรโน ผู้เชี่ยวชาญด้านชนเผ่าและภาษามายันแห่งมหาวิทยาลัยเรจินา แคนาดากล่าวว่า ปฎิทินมายาของชาวมายันนั้นถูกตีความผิดมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้เขาเรียนการอ่านปฏิทินมายามาจากคนเฒ่าคนแก่ชาวมายันแท้ ๆ แต่ไม่มีชาวมายันคนไหนพูดถึงวันสิ้นโลกเลยสักคน และไม่เคยมีสื่อใดๆ มาสัมภาษณ์ชาวมายันเพื่อไขข้อเท็จจริงเลยสักคน
นับว่าเป็นครั้งแรกที่มีการค้นพบศิลปะของชาวมายาบนฝาผนังของบ้าน ปัจจุบันอยู่ในเมืองซุลตัน ประเทศกัวเตมาลา ซึ่งเชื่อว่าจิตกรน่าจะเป็นนักบวชผู้เชี่ยวชาญด้านตัวอักษร และการทำปฏิทิน เพื่อช่วยกษัตริย์ของชาวมายา ผูกโยงพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ เข้ากับปรากฏการณ์ต่างๆบนท้องฟ้า
การขยายออกไปของปฏิทินนี้ เป็นอีกหลักฐานหักล้างความเชื่อที่ว่าโลกแตก ถึงคราดับสูญได้ได้บ้าง ซึ่งอย่างน้อยก็ทำให้มวลมนุษย์ได้รู้ว่า เราจะสามารถดำรงอยู่กับโลกใบนี้อีกต่อไป ขึ้นอยู่กับว่า จะรักษาไว้ได้มากน้อยเพียงใด เพราะโลกแตกไม่น่ากลัวเท่าภัยธรรมชาติ ที่กำลังเกิดขึ้นจริงในปัจจุบันอย่างภาวะโลกร้อนที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ สร้างความเสียหายจากภัยพิบัติอย่างมหาศาล ...