ตี๋ ใหญ่ ตัว จริง หน้า ตา แบบ นี้
อวสานตี๋ใหญ่
ความ แค้นใหญ่หลวง ที่เกือบถูกปลิดชีวิตที่เมืองนนท์นั้น กล่าวกันว่าตี๋ใหญ่ผูกใจเจ็บ นายตำรวจชุดจับกุมอย่างมาก โดยเฉพาะผู้การสมเกียรติ พ่วงทรัพย์ ตี๋ใหญ่จะเกลียดเป็นพิเศษ ถึงขั้นขนาดดักลอบฆ่านายตำรวจมือปราบคนนี้หลายครั้ง หลายเครา แต่คนดีผีคุ้ม แผนของตี๋ใหญ่ไม่สำเร็จ
วันที่ 29 เมษายน 2522 เวลา 13.10 น.
ที่ร้านทองแม่บุ้งกี่ เลขที่ 986/39 ในตลาดมหาชัย ถนนสุขาภิบาล จ.สมุทรสาคร กำลังเปิดร้านตอนเที่ยง
ในร้านประกอบด้วยนายสมัคร วรานุภาพ อายุ 53 ปี เจ้าของร้านกำลังคุยกับนายสมาน วรานุภาพ อายุ 50 ปี น้องชายพร้อมนางปราณี ภรรยาวัย 39 ปี นั่งอยู่ใกล้ๆ กัน ถัดมาเป็นนายสุธีลูกชายของนายสมัครอายุ 19 ปีรวมกับลูกๆ ของนายสมานมีนายธีระธรกับ ด.ช.สาธิต อายุ 15 ปี รวมอยู่ด้วย นอกจากนี้หลังร้านมี นางสาวจิราภรณ์ บุตรสาวของนายสมัครนั่งทำงานบ้านอยู่กับนางคำปัน คำมา อายุ 17 ปี สาวใช้
ทันใดนั้น......
มีชายหนุ่มสองคน แต่งกายด้วยชุดทหารพราน กับชุดกากี ถือปืนกล เอ็ม.16 บุกเข้าร้านทองแหกปากให้ทุกคนในร้านห้ามขยับเขยื้อน
นาย สมัครตกใจในเหตุการณ์ทีค่เกิดขึ้น เขารีบหนีหลังร้าน แต่ไม่ทัน เพราะคนร้ายกราดยิงนายสมัครด้วยปืนเอ็ม.16 กระสุนถูกบริเวณหน้าผาก หน้าอกเบื้องซ้ายและหน้าท้องขาดใจตายคาที่ นอกจากนั้นกระสุนลูกหลงยังไปถูกนายสุธีที่ก้านคอกระสุนฝังใน นางปราณีโดนกลางหลัง นางสาวจิราภรณ์ที่อยู่ด้านหลังโดนกระสุนที่สะบักขวาทะลุปอด นางสาวคำปันโดนขาขวา นอกนั้นสามารถหลบลูกหลงอย่างหวุดหวิด
จาก นั้นคนร้ายรีบใช้ปืนยิงกราดตู้โชว์แล้วใช้พานท้ายปืนทุบตู้กระจกให้แตก ละเอียด แล้วเก็บกวาดทองนากนานาชนิดใส่เป้สีเขียวแบบทหาร 2 ใบที่เตรียมมา
ที่หน้าร้านมีคนร้ายสองคนดูต้นทางและคอยคุ้มกันจนเสร็จภารกิจ ทั้งหมดวิ่งไปทางท่าน้ำเทศบาล พอดีเวลานั้น จ.ส.ต.พลเทพ พลจันทร์ อายุ 42 ปี ตำรวจประจำตู้ยามสถานีรถไฟเกิดได้ยินเสียงปืนดังกึกก้องจึงออกไปดูว่าอะไร เกิดขึ้น และถูกคนร้ายยิงปืนใส่ด้วยปืนเอ็ม.16 จนตายคาตู้ยาม
จาก นั้น พลฯ แนบ ดวงสงฆ์ ตำรวจจราจร สภ.อ.สมุทรสาคร ขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นเหตุการณ์และเกิดการต่อสู้กับกลุ่มคนร้ายและยิง โดนคนในกลุ่ม ล้มฟุตไปหนึ่งคนล้มเลือดกระฉูด
ทว่า เหล่าคนร้ายไม่ยอมทอดทิ้งให้เพื่อนตายอย่างหมาข้างถนน พวกโจรยังอุตสาห์ประคองเพื่อนที่บาดเจ็บหนีไปอย่างทุลักทุเล ขณะเดียวกันก็ได้ใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าเป็นการข่มขู่ชาวบ้านและตำรวจเป็นระยะ ระยะ จากนั้นก็หนีมาที่ท่าน้ำของเทศบาลและหนีโดยทางเรือหางยาวขนาด 2 ตอนติดเครื่องกระหึ่มมุ่งหน้า อ.กระทุ่มแบน
และก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เย็น วันเดียวกันมีการพบศพคนร้ายที่พลฯ แนบ ดวงสงฆ์ ยิงในขณะหลบหนีที่ สวนริมคลองตัน ในบ้านเลขที่ 74 ม.4 .,คลองตัน อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร
นี้ เองตำรวจเริ่มรู้ซึ้งแล้วว่าตอนนี้ตี๋ใหญ่กลายเป็นบุคคลอันตรายระดับชาติ เสียแล้ว เพราะมันกลายเป็นสัญลักษณ์ของพวกโจร เป็นทั้งคนผลิตพวกโจรสายต่างๆ ออกมาเย้ยกฎหมายมาอย่างมากมายหลายก๊ก หลายเหล่า ถ้าปล่อยนานๆ เข้าโดยไม่ทำอะไร มีหวังประเทศไทยกลายเป็นแหล่งซ่อมสุมชุมโจรเป็นแน่
เจ้าหน้าที่ตำรวจจำต้องวางแผนทำอะไรสักอย่าง...........อะไรที่มีประสิทธิภาพ สามารถปราบตี๋ใหญ่ได้อย่างอยู่หมัด
ตี๋ ใหญ่ ในตอนนั้นรู้ตัวดีว่า......เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดใหญ่ทิ้งภาระอื่นๆ เพื่อมาตามจับเขาโดยเฉพาะ เขาเริ่มยิ่งระมัดระวังตัวเป็นทวีคูณ ลางสังหรณ์บางอย่างเกิดขึ้น
ตี๋ ใหญ่เคยปรารภว่า....เขาอาจจะต้องตายเพราะคนใกล้ชิดคนใดคนหนึ่ง....แน่นอนมัน เป็นลางสังหรณ์ที่เป็นเรื่องจริงในอีกไม่กี่เดือนต่อมา ยุทธการขั้นต่อไปของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คือการใช้แผนเกลือจิ้มเกลือ ไม่เช่นนั้น หากไล่ล่ากันต่อไป ชื่อเสียงของกรมตำรวจยิ่งเสื่อมลงเสื่อมลง ซึ่งนั้นทำให้ค่าหัวของโจรผู้นี้มีมูลค่า 50,000 บาท ในสมัยนั้น
และนั้นก็คือจุดเริ่มต้นของอวสานของตี๋ใหญ่
แผนการของตำรวจถูกวางไว้อย่างแยบยล เริ่มจากนายทวีป เสือคล้ำ ลูกน้องคนสนิทของตี๋ใหญ่ที่ไว้วางใจคนหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจามประกบ แล้วกล่อมให้ร่วมมือเวลาต่อมา จากนั้นก็สั่งให้นายทวีปเป็นสายส่งข่าวบอกความเคลื่อนไหวของตี๋ใหญ่ให้ทราบ โดยมีเงินรางวัลนำจับ 50,000 บาท เป็นของล่อใจ แน่นอน งานนี้......ตำรวจหมายมั่นปั้นมือว่ามันต้องสำเร็จ
นายทวีปตกลงกับตำรวจ
กล่าว กันว่าช่วงเวลานี้ ตี๋ใหญ่กำลังตัดสินใจวางวางมือจากการปล้นฆ่าและหันไปหาที่ลี้ภัยไกลๆ สักที่หนึ่ง แล้วอยู่อย่างคนธรรมดาสามัญ แบบปกติสุข โดยมีเงินเก็บก้อนหนึ่งพอสมควร แต่......ลิขิต แห่งชีวิตได้ถูกขีดไว้แล้ว...มันต้องไปตามนั้น.......
ตี๋ ใหญ่ตัดสินใจวางแผนปล้น...อีกครั้งซึ่งอาจเป็นครั้งสุดท้ายโดยเขาหมายมั่นจะ ปล้นปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง และแน่นอนแผนการครั้งนี้เสือคล้ำไปคาบข่าวกับตำรวจเรียบร้อย
มีข่าวลือ ข่าวอ้างว่า ขณะตี๋ใหญ่อยู่ระหว่างหลบหนี ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน นายทวีป เสือคล้ำ ได้ขโมยตะกรุดโทนของพระอาจารย์สุดแห่งวัดกาหลงมอบให้ตี๋ใหญ่ ไม่รู้เพราะสาเหตุใดที่ทำให้นายทวีปต้องเสี่ยงขโมย อาจเป็นเพราะอาจทำให้ตี๋ใหญ่ขาดมนต์คาถาอาคม หรือตำรวจสั่งให้ทำเพราะคาดว่าถ้าตี๋ใหญ่ทำตะกรุดหายเขาต้องมาวัดกาหลงแน่ ซึ่งที่นั้นเหมาะสำหรับการล้อมจับตี๋ใหญ่อย่างยิ่ง(บางแห่งบอกว่าเขาได้ลืม ตะกรุดโทนและเขี้ยวเสือที่รับจากหลวงพ่อสุดมา อยู่ในซ่องมหาชัย แต่ค้นหาอย่างไรก็ไม่เจอ จึงต้องบากหน้ามาที่วัดกาหลง)
แน่นอนไปตามที่คาดเมื่อตะกรุดหาย ตี๋ใหญ่จำต้องเดินทางไปวัดกาหลง เพื่อไปขอตะกรุดอันใหม่จากหลวงพ่อสุดอีกครั้ง………….
และนี้คือจุดจบของตี๋ใหญ่!!
26 กุมภาพันธ์ ณ นากุ้ง ลึกเข้าไปที่วัดกาหลง เขตจังหวัดสมุทรสาคร
ตี๋ ใหญ่และสมุนสามคนขับรถปิกอัพมาสด้าสีขาวหมายเลขทะเบียน ม 0063 ขนาด 1200 ซีซี. สมุทรสาคร ขับไปทางวัดกาหลงเพื่อมาหาพระอาจารย์หลวงพ่อสุด แห่งวัดกาหลง แต่ไม่พบตัว
ขณะ ที่เดินทางกลับ รถของตี๋ใหญ่มาถึงซอยวัดธรรม เขาก็พบด่านตำรวจและตำรวจรายล้อม........ ตำรวจโบกมือให้รถหยุด แต่ดาวโจรเลือดมังกรใช้กระสุนปืน 11 ม.ม. ยิงใส่ และใช้รถแหกด่านจ้าละหวั่น
จาก นั้น รถตี๋ใหญ่ก็พุ่งวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จนถึงบริเวณที่ตำรวจวางแผนซุ่ม จากนั้นทัเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ใช้อาวุธปืนนานาชนิดยิ่งใส่รถส่ายไปส่ายมาจนลูก น้องที่นั่งอยู่ด่านหลังต้องหนีลงจากรถวิ่งหนีไปป่าละเมาะสองข้างทาง เพราะขื่นอยู่ต้องตายตามลูกพี่แน่นอน
หลังจากนั้นประชาชนอย่างเราก็ไม่ทราบแล้วละครับ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตี๋ใหญ่?
ตามข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่ากันว่า ณ เวลานั้นเองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประกบไล่ตามรถที่ตี๋ใหญ่ขับอย่างกระชั้นชิด
ตี๋ใหญ่รู้ตัวแล้วว่า ตอนนี้ตำรวจไล่ล่าตามติดมาและตัดสินใจสู้ ดีกว่าถูกจับไปขังที่คุกนรกนั้น
จาก นั้นเสียงระเบิด ห่ากระสุน จากปลายกระบอกปืน ของผู้ไล่ล่า และผู้ถูกล่า ดังบกึกก้องกัมปนาท สนั่นหวั่นไหว สะท่านสะเทือน เลื่อนสั่น
พอ ฝุ่นจาง เสียงปืนสงบ ปรากฏร่างของตี๋ใหญ่เขานั่งที่คนขับ เขานอนสงบนิ่ง คราบเลือดแดงฉาดเปรื้อนเปรอะ เขาสวมยีนส์ เสื้อลายสก็อตสีน้ำเงิน จากการสำรวจตามร่างกาย ตี๋ใหญ่โดนกระสุนทะลุทะลวงเข้าที่โหนกแก้มซ้าย 2 นัด กกหูขวา 1 นัด ไหล่ซ้ายและราวนมซ้ายอย่างละ 1 นัดรวมทั้งที่รักแร้ซ้าย และต้นคอ เขาเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ
แน่ นอนเหตุการณ์นี้เป็นคำออกจากของ พล.ต.ท.เสน่ห์ สิทธิพันธ์ ผบ.ช.น. กับ พล.ต.ท. สุขุมวาท ผบ.ช.ภ. 1 ได้ร่วมกันแถลงข่าวทั้งหมดว่าตี๋ใหญ่ตายเพราะตำรวจยิง
แต่ ก็มีเสียงเล่าอ้างอีก ว่าตี๋ใหญ่อาจตายเพราะลูกน้องหักหลัง โดยสมุนสามคนอาจฆ่าตี๋ใหญ่ก่อนที่จะหนี เพราะกลัวตำรวจตามจับเพราะลูกพี่ตามหนีพร้อมสามคนมีหวังโดนจับพร้อมกันหมด แน่ จึงน่าจะทิ้งไว้สักคนเป็นตัวล่อถ่วงเวลาตำรวจ ซึ่งคนนั้นคงไม่มีใครเกินตี๋ใหญ่คนที่ตำรวจต้องการตจัวมากที่สุดนั้นเอง หรือไม่ก็ไม่ก็มีความแค้นกับตี๋ใหญ่อยู่ก่อนแล้วเพราะเงินจากการปล้นที่ สมุทรสาครที่ผ่านมาไม่ลงตัวทำให้แตกแยกกันในแก๊ง
ภาย หลังจากการเสียชีวิตแล้ว ยังมีเสียงเล่าลือกันอีกว่า ตี๋ใหญ่แท้จริงยังไม่ตาย บ้างก็ลือกันว่าตี๋ใหญ่ได้หนีไปอยู่สหรัฐอเมริกา บ้างก็เชื่อว่าที่ตี๋ใหญ่เสียท่าแก่ตำรวจ เพราะได้หลบไปซ่อนอยู่ใต้ผ้าถุง อาคมในตัวจึงเสื่อม เป็นต้น เรื่องราวของตี๋ใหญ่ยังถูกเล่าขานต่อ ๆ กันมา จึงได้ถูกสร้างเป็นละครโทรทัศน์ 2 ครั้ง ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2528 ทางช่อง 5 ผู้ที่รับบทตี๋ใหญ่ คือ ฉัตรชัย เปล่งพานิช พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ รับบทโดย ฐาปกรณ์ ดิษยนันท์ และในปี พ.ศ. 2543 ทางช่อง 3 ผู้รับบทตี๋ใหญ่ คือ ศรราม เทพพิทักษ์ และ พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ รับบทโดย ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์
ทั้งหมดนี้คือข่าวที่โด่งดังที่สุดในปีนั้นซึ่งยังอยู่ในความทรงจำต่อใครหลายๆ คนจนถึงทุกวันนี้
ก่อนจบ
ตะกรุด โทนของหลวงพ่อสุดนั้นเป็นตะกรุดดอกใหญ่ทำจากตะกั่ว หลวงพ่อลงมือจารด้วยตัวเอง เป็นการจารทีละตัวและท่องคาถากำกับแล้วปรุกเสกครั้งแล้วครั้งเล่า จากนั้นเอาด้ายมามัดหุ้มตัวตะกร้ออีกทีแล้วก็ว่าด้วยคาถากำกับเป็นอันเสร็จ พิธี สำหรับตะกรุดโทนที่ตี๋ใหญ่ใช้นั้นหลวงพ่อสุดใช้เวลาปลุกเสกเป็นพิเศษถึง 3 ไตรมาส และตะกรุดโทนนี้เองที่ทำให้ตี๋ใหญ่คงกระพันชาตรี นอกจากตะกรุดโทนแล้วยังมียันต์ตะกร้ออีกด้วย
หลวงพ่อสุด ศิริทฺโร มรณภาพในปี 2526 ภายหลังจากตี๋ใหญ่ถูกสังหาญไปแล้ว 2 ปีรวมศิริอายุได้ 81 ปี...แต่ตำนานของขลังของท่านกลายเป็นที่กล่าวขลังของคนชอบคาถาอาคมอย่างไม่รู้จบ