เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จาก นางกุหลาบ พงษ์สร อายุ 67 ปี หลังทราบว่าหลานสาวที่กำลังตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการน่าเป็นห่วงทั้งแม่และลูกในครรภ์

นางกุหลาบและเครือญาติได้เปิดเผยว่า นางสาวศิริพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นหลานสานแท้ๆ ได้ตั้งครรภ์กับ พลทหารอนุชา หรือ นายอนุชา (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 23 ปี เป็นทหารเกณฑ์สังกัดอยู่ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.สระแก้ว

โดยปกติแล้ว หลานสาวจะพักอาศัยอยู่กับนางกุหลาบ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา สามีของหลานสาวได้ขับรถมารับตัวออกไป ซึ่งก็ไม่ได้เอะใจใดๆ แต่ต่อมาช่วงค่ำของวันเดียวกัน มีโทรศัพท์จากโรงพยาบาลแจ้งว่า หลานสาวถูกนำตัวมารักษาที่โรงพยาบาล เพราะถูกทำร้ายร่างกายจนอาการโคม่า จึงได้รวมตัวเครือญาติเข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

หลังจากได้รับแจ้งความร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลที่ นางสาวศิริพร รักษาตัวอยู่ พบว่ายังอยู่ในอาการโคม่า ไม่ได้สติ สภาพร่างกายมีร่องรอยถูกทำร้ายอย่างรุนแรง ใบหน้าบวมช้ำ ตามร่างกายมีรอยขีดข่วน และรอยไหม้คล้ายถูกไฟลน ผมบนศรีษะถูกกระชากหลุดร่วง ภาพรวมอาการสาหัสเป็นอย่างยิ่ง

ส่วนทางด้าน นายอนุชา ซึ่งเป็นผู้นำภรรยาท้อง 5 เดือนส่งโรงพยาบาลด้วยตัวเอง ได้ยอมเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การรับสารภาพว่า ปัจจุบันเป็นทหารเกณฑ์อยู่ และเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์เอง หลังจากที่ขับรถไปรับที่บ้านป้าของภรรยา และได้เช็คอินเข้าพักที่บังกะโลแห่งหนึ่ง ก่อนจะเกิดทะเลาะมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ด้วยอารมณ์โมโหฉุนเฉียว จึงได้จับภรรยามัดมือมัดเท้าและลงมือซ้อมอย่างทารุณ จับศรีษะโขกกับขอบเตียงหลายครั้ง และใช้ไฟแช็กลนตามร่างกาย จนภรรยาสลบแน่นิ่งไป ก่อนจะนั่งดูปฏิกิริยาของภรรยาอยู่นาน เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงได้นำตัวมาส่งโรงพยาบาลและเข้ามอบตัว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยเจตนา รวมทั้งกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น ทั้งนี้หากนางสาวศิริพรและลูกในครรภ์เสียชีวิตในภายหลัง ก็เตรียมจะเพิ่มข้อหาหนักให้แก่ นายอนุชา อีกหลายกระทง