ขอบคุณภาพจาก  www.mcot.net

วานนี้ (17 พ.ค.) พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รองผบก.ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ แถลงข่าวจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทย ที่ไปตั้งศูนย์บัญชาการที่มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เพื่อหลอกลวงคนไทย

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ที่มาตั้งฐานในเมืองไทย เพื่อหลอกลวงคนในประเทศจีนได้ จากนั้นทางการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ไทยจึงประสานไปยังประเทศจีน เพื่อขยายผล และแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

เมื่อสอบสวนผู้ต้องหาจึงได้ข้อมูลของ นายยุทธศักดิ์ และผู้ต้องหาอีก 5 คน เมื่อตรวจสอบข้อมูล พบว่าทั้งหมดกลับมาจากจีนแล้ว ยกเว้นนายยุทธศักดิ์ที่ยังคงอยู่ในประเทศจีน จึงส่งข้อมูลให้ทางการจีนช่วยขยายผลต่อ

โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้มีคนร้ายทั้งหมด 12 คน เป็นชาวไต้หวัน 2 คนไทย 10 คน เมื่อพบหลักฐานการกระทำผิดจึงมีการส่งเรื่องกลับมายังประเทศไทย ศาลจึงออกหมายจับ เพื่อให้นำตัวผู้ต้องหามาขยายผลต่อที่ประเทศไทยทันที ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

จากการสืบสวนบื้องต้น กลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่า โดนหลอกไปทำงานที่ประเทศจีน และถูกบังคับให้ทำงาน เพราะโดนยึดพาสสปอร์ตไป แต่จากการตรวจสอบพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งชาวไทย และชาวจีน มีระบบการทำงานที่เหมือนกันคือ มีการให้เงินเดือนอย่างชัดเจน และแบ่งการทำงานกันเป็น 3 ทีม คือ
ทีมที่ 1 ทำการแนะนำตัว ขอข้อมูลตัวบุคคลจากผู้เสียหายแล้วส่งต่อไปยังทีมที่ 2
ทีมที่ 2 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ทำการยัดเยียดข้อหา ว่าผู้เสียหายพัวพันกับคดีค้ายาเสพติด หรือมีคดีอื่น ๆ 
ทีมที่ 3 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง เสนอให้ความช่วยเหลือ แต่ผู้เสียหายห้ามบอกใครต้องปิดเป็นความลับ จากนั้นก็จะหลอกให้โอนเงินต่อไป

เมื่อทำงานเสร็จ ทั้ง 3ทีมจะแบ่งเปอร์เซ็นต์สัดส่วนเงินที่ได้กัน ส่วนการหาเบอร์โทรศัพท์ของผู้เสียหายนั้น ชาวไต้หวันจะเป็นผู้จัดหามาให้จำนวนหลายหมื่นเลขหมาย ขณะนี้ทางการไทยได้ข้อมูลมาแล้วว่า บุคคลดังกล่าวคือใคร และกำลังเร่งประสานงานกับทางจีน เพื่อดำเนินการขยายผลเพื่อจับกุมต่อไป