พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2011-12 เป็นปีแรกที่ต้องตัดสินแชมป์ด้วยแต้มลูกได้เสียระหว่างคู่แข่งที่เบียดแย่งแชมป์กันจนวินาทีสุดท้ายนับตั้งแต่รีแบรนด์ลีกสูงสุดของอังกฤษมาเป็นเวลา20ปี เป็นความดราม่าในความเซอร์ไพรส์ สำหรับการแข่งขันฟุตบอลลีกที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
แต่ละทีมกลิ้งกันหลายตลบกว่าจะมาตัดสินแชมป์และอันดับต่างๆด้วยการยิงประตูกันจนถึงวินาทีสุดท้ายซึ่งแน่นอนว่าเป็นช่วงเวลาที่ดราม่าที่สุดใน3 โลก และเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น พร้อมกับเหตุการณ์ และสีสันมากมายตลอดการแข่งขันร่วม 1 ปี
สำหรับเหตุผลของความดราม่า และความเซอร์ไพรส์หลายๆอย่างที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเชื่อว่าส่วนหนึ่งมีที่มาจากห้วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านของหลายๆสโมสร ทั้งในทิศทางขึ้น และทางลง มีทั้งผู้เล่น ผู้จัดการ เดินเข้าและเดินออก การจากมา จากไป ของพวกเขาสร้างความเปลี่ยนแปลงไม่มากก็น้อยให้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หลายทีมมีนายกองกลางดงขุนพลผู้ไม่ได้รับการเหลียวแล มีแข้งวัยชราในคราบขาจร มีแฟนบอลไร้ชื่อที่ชุบชีวิตนักเตะคู่แข่งขึ้นมา
พวกเขา คือ ฮีโร่ ที่โผล่มาให้จารึกชื่อในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ลองไล่เรียงกันดูว่าหากวัด "ความเป็นฮีโร่" แล้วใครเป็นใครกันบ้าง
10. ร็อบบี้ คีน
หัวหอกไอริชผู้ไม่เคยยอมแพ้เป็นฮีโร่ที่อาจถูกมองข้ามมากที่สุดของพรีเมียร์ลีก เมื่อแอสตัน วิลล่า ยืมตัวมาจากแอลเอ กาแล็คซี่ หลังจากที่ร่อนเร่ไปมาหลายฤดูกาลนับตั้งแต่เอาชื่อไปจมไว้ที่แอนฟิลด์ ของลิเวอร์พูลแค่ไม่ถึงปี
เมื่อไม่มีตำแหน่งตัวจริงในสเปอร์ส ยุคแฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ และถูกแอสตัน วิลล่า ยืมตัวมาร่วมทีม หลายคนไม่เชื่อในฝีเท้าของหัวหอกไอริช ที่เคยโด่งดังกับไก่เดือยทองมาก่อน แต่คีน พิสูจน์ฝีเท้าให้แฟนบอลได้เห็นอีกครั้งยิง 2 ประตูใส่ทีมเก่าช่วยให้ทีมเก็บ 3 แต้มสำคัญ ก่อนยิงประตูใส่นิวคาสเซิลเป็นประตูที่ 3 ในการลงเล่น 7 นัดให้กับแอสตัน วิลล่า แม้จะไม่มีใครพูดถึงเขา แต่ประตูมหัศจรรย์กำ 3 แต้มที่คีนช่วยแอสตัน วิลล่า อาจเพียงพอสำหรับแข้งวัย 31 ปีในการเป็นฮีโร่ที่กลับมาพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง
9. แบรนเดน ร็อดเจอร์ส
กุนซือสวอนซี พาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รีแบรนด์พรีเมียร์ลีกเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ก่อนหน้าเริ่มฤดูกาล 2011-12 หลายคนเล็งสวอนซี เป็นหนึ่งในทีมเต็งที่จะกลับไปเล่นแชมเปี้ยนชิพ แต่ด้วยมือของร็อดเจอร์ส หงส์ขาวไม่เป็นแบบที่คาด
สวอนซี แสดงความสามารถด้วยการรักษาสไตล์การต่อบอลบนพื้น ฉีกมาตรฐานของฟุตบอลอังกฤษที่เล่นด้วยพละกำลังและบอลกลางอากาศเป็นหลัก จนแฟนบอลยกนิ้วให้สวอนซีว่าเป็นทีม "ทอทอล ฟุตบอล" ตามแบบฉบับของลูกหนังดัตช์ เล่นด้วยแนวทางเดียวกับสโมสรบาร์เซโลน่า และทีมชาติสเปน ตอกหน้าเอาชนะอาร์เซนอล เล่นงานเชลซี อัดลิเวอร์พูลทิ้งท้าย รวมถึงยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับแชมป์ลีกเกือบดับความหวังลุ้นแชมป์ของแมนฯซิตี้ สุดท้ายจบอันดับ 11 ของตารางเหนือทีมเก่าแก่ของพรีเมียร์ลีกอย่างซันเดอร์แลนด์ และวิลล่า ด้วย นับว่าน่าสนใจทีเดียวสำหรับสวอนซี ของฮีโร่คนใหม่คนนี้
8. แอนดริว ดีนเนอร์
ไม่ต้องตกใจ ดีนเนอร์ ผู้เป็นฮีโร่คนเดียวของฟุตบอลอังกฤษฤดูกาลนี้ที่ไม่ใช่นักฟุตบอล เขาคือผู้ช่วยแพทย์หัวใจแฟนบอลสเปอร์สที่เข้าไปชมการแข่งขันเอฟเอ คัพ กับโบลตัน ซึ่งเกิดเหตุการณ์ช็อควงการลูกหนังเมื่อฟาบริซ มูอัมบ้า มิดฟิลด์ทร็อตเตอร์ หัวใจล้มเหลวกลางสนาม
ดีนเนอร์ (ขวาสุด) เดินนำเจ้าหน้าที่สนามหลังปฐมพยาบาลมูอัมบ้าแล้ว
ดีนเนอร์ (ซ้าย) ถ่ายรูปกับมูอัมบ้า เป็นครั้งแรก
รายงานข่าวของบีบีซีให้สัมภาษณ์และยืนยันว่า ดีนเนอร์ เป็นแฟนบอลสเปอร์ส ที่เห็นเหตุการณ์ระหว่างชมการแข่งขันบนอัฒจันทร์และขออาสาลงไปช่วยมูอัมบ้า นักเตะคู่แข่ง เป็นผู้แนะนำสถานที่รักษาที่โรงพยาบาลทรวงอกและเป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบอาการของมูอัมบ้า กล่าวได้ว่า ดีนเนอร์ มีส่วนช่วยชีวิตแข้งโบลตัน ให้กลับมาสู่อ้อมอกของครอบครัวอีกครั้ง สมควรเป็นแฟนบอลในฐานะฮีโร่ของฟุตบอลอังกฤษฤดูกาลนี้
7. เดมบ้า บา - เดมบ้า ปาปิส ซิสเซ่
ไม่รู้ว่า อลัน พาร์ดิว กุนซือนิวคาสเซิลเห็นนิมิตรจนขุดหัวหอกมหาประลัยชาวเซเนกัลคู่นี้มาจากไหน แต่ถือว่าผลงานอันยอดเยี่ยมของสาลิกาดงปีนี้ นอกจากจะมาจากฝีมือของอลัน พาร์ดิว แล้ว ยังมาจากฝีเท้าของคู่หัวหอกมหาประลัยคู่นี้ด้วย
เดมบ้า บา (ภาพซ้าย) และ เดมบ้า ซิสเซ่ (ภาพขวา)
ครึ่งแรกของฤดูกาลเดมบ้า บา ประเดิมเปิดตัวก่อนด้วยการยิง 8 ประตู ทำ 2 แฮตทริก ในการลงเล่น 10 เกมส์แรก นำเป็นดาวซัลโว ส่วนครึ่งหลังช่วงท้ายฤดูกาล บา โชว์ฟอร์มไม่ออก กลายเป็นโชว์ของ ซิสเซ่ ที่ย้ายมาจากไฟร์บวร์ก ยิงไป 13 ประตูจากการลงเล่น 15 เกมส์ รวมถึงลูกยิงปั่นโค้งสุดสวยปลิดชีพเชลซี รวมกันแล้วทั้งคู่ซัลโว 29 ประตู ห่างจากสถิติที่แอสตัน วิลล่า ยิงได้ทั้งฤดูกาลแค่ 8 ประตูจึงทำให้พวกเขาเป็นคู่หูฮีโร่มหาประลัยของพรีเมียร์ลีก
6. เวย์น รูนี่ย์
ฤดูกาลนี้ปีศาจแดงอาจขับเคี่ยวกับคู่ปรับ มีลุ้นเกือบได้สัมผัสแชมป์สมัยที่ 20 แม้สุดท้ายโอกาสจะหลุดลอยไป แต่ต้องยอมรับว่า ฤดูกาลนี้เป็นอีกปีที่ยากลำบากสำหรับทีมของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือสก็อตปวดหัวกับปัญหาภายในทีมที่ตัวหลักหายหน้ากันไปหลายคน สู้รบปรบมือกับคู่ปรับร่วมเมือง
แต่ในยามยากหัวหอกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นบุคคลที่ทัพปีศาจแดงพึ่งพาได้มากที่สุด ยิง 27 ประตู ซัด 2 แฮตริก จ่าย 4 แอสซิสต์ เป็นแนวหน้าขับเคลื่อนทีม แม้ว่าปีนี้รูนี่ย์ จะได้ชื่นชมเพียงรางวัลประตูยอดเยี่ยมในรอบ 20 ปีของพรีเมียร์ลีกซึ่งเจ้าตัวจักรยานอากาศใส่แมนฯซิตี้ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ถือว่ารูนี่ย์ เป็นฮีโร่สำหรับทัพปีศาจแดง ปรับตัว และพัฒนาไปมากทั้งฝีเท้า การทำงาน และจิตใจ โดย รูนี่ย์ รับใบเหลืองเพียงแค่ใบเดียวในพรีเมียร์ลีกทั้งฤดูกาล
5. พอล สโคลส์
นอกเหนือไปจากแนวหน้าของทัพปีศาจแดงแล้ว แผงกลางที่หนุนหลัง สนับสนุนทีมอย่างพอล สโคลส์ กองกลางชาวอังกฤษหนึ่งในแข้งอคาเดมี่ในยุคทองของเฟอร์กี้ ยังเป็นส่วนสำคัญสำหรับการกลับมาลุ้นแชมป์ลีกของทีมเหนือไปกว่าปัจจัยการสังหารประตูของรูนี่ย์ (เล็กน้อย)ไปอีกขั้น
กองกลางฮาร์ดแมนผู้ไร้ซึ่งความกลัวตอบรับคำขอของกุนซือให้กลับมาช่วยทีมในช่วงวิกฤติผู้เล่นบาดเจ็บแม้ว่าเพิ่งประกาศอำลาสนามฤดูกาลที่แล้วเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิงให้ต้นสังกัดในลีกติดต่อกันมา17 ปี และเป็นคนโหม่งประตูสำคัญให้ทีมเอาชนะนอริช และควีนส์ ปาร์ค เมื่อเดือนเมษายนทำแต้มทิ้งห่างคู่ปรับในช่วงหัวโค้งพรีเมียร์ลีก แม้ว่าจะไม่สามารถช่วยทีมคว้าแชมป์ แต่ฤดูกาลหน้าซึ่งเขาจะอายุครบ 37 ปีและพร้อมสำหรับการชิงชัยเป็นปีสุดท้ายแน่นอน
4. เธียร์รี่ อองรี
อดีตราชายุคใหม่ของเหล่าสาวกปืนใหญ่แห่งลอนดอนอำลาทีมไปตั้งแต่เมื่อปี 2007 แต่เมื่อทีมต้องการหัวหอกมาเป็นอะไหล่ช่วงที่เสียผู้เล่นตัวหลัก 2 คนไปเล่นแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ และหัวหอกฝรั่งเศสตอบรับกลับมาสวมเสื้ออาร์เซนอลอีกครั้ง แน่นอน คิงอองรี ยังเป็นฮีโร่ของปืนใหญ่เสมอ
ดาวยิงฝรั่งเศสถูกเปลี่ยนตัวลงเล่นในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 กับลีดส์ ยูไนเต็ด และยิงประตูเครื่องหมายการค้าเป็นประตูชัยส่งทีมผ่านเข้ารอบ เป็นการกลับมาสมราคาของ ราชาของทีม ก่อนเป็นซูเปอร์ซับอีกด้วยการยิงประตูชัยใส่ซันเดอร์แลนด์ แม้ว่าจะมีส่วนสำคัญกับทีมเพียง 2 นัด แต่เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับตำแหน่งหนึ่งในฮีโร่ ของปืนใหญ่ประจำฤดูกาลอีกครั้ง
3. โรแบร์โต้ ดิ มัตเทโอ
อดีตกุนซือเวสต์บรอม เลื่อนชั้นจากนายกองมือขวาของเชลซี มาเป็นแม่ทัพล่าชัยของทีมอย่างเต็มตัว หลังจากที่ทีมปลดกุนซือหนุ่มชื่อดังออกจากทีม แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาเพียงสั้นๆแต่ ดิ มัตเทโอ กลับพาทีมทำผลงานได้อย่างเหนือความคาดหมาย
เชลซี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือขัดตาทัพ เรียกความเชื่อมั่นกลับมาสู่ทีมรวมถึงนักเตะวัยดึกทั้งหลายร่วมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เหนือลิเวอร์พูล และขยับสถานะจากทีมรองทำผลงานกำราบบาร์เซโลน่า ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบตัดเชือกทั้ง 2 เลก แม้จะโดนวิจารณ์เรื่องแทคติกก็ตาม ขณะที่อดีตห้องเครื่องอิตาเลียนยังมีภารกิจนัดชิงฯชี้ชะตาอนาคตทั้งเก้าอี้ตำแหน่ง รวมถึงเส้นทางของทีมในฤดูกาลหน้า ด้วยการดวลกับ บาเยิร์น มิวนิก ที่เยอรมัน แต่ไม่ว่าผลงานของเชลซี จะจบลงอย่างไร เท่านี้ก็ทำให้กุนซือหน้าตายขึ้นหัวในรายชื่อฮีโร่ของเชลซีในฤดูกาลนี้ได้ไม่ยากนัก
2. เซร์คิโอ กุน อเกวโร่
หัวหอกเล็กพริกขี้หนู ลูกเขยของดิเอโก้ มาราโดน่า ไม่ทำให้พ่อตาผิดหวังหลังย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวกว่า 30 ล้านปอนด์ กลายเป็นนักเตะคนสำคัญ และมีส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์ลีกปีแรกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในรอบกว่า 40 ปี
ฤดูกาลนี้บุคลากรของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำผลงานโดดเด่นหลายคน อาทิ ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา, บาโลเตลลี่ ขณะที่ กุน อเกวโร่ หัวหอกอาร์เจนไตน์ลงเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 48 นัดในทุกรายการ ยิง 30 ประตู สร้างชื่อตั้งแต่ทำแฮตทริกในเกมถล่มวีแกน เมื่อเดือนกันยายน ซึ่งประตูที่ยิงนัดไหนไม่สำคัญเท่ากับประตูสู่แชมป์พรีเมียร์ลีก ที่ยิงควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส ในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย พิสูจน์ความเยือกเย็นและเฉียบขาด ซึ่งเป็นคุณสมบัติของหัวหอกระดับเวิลด์คลาสที่ทีมต้องการในช่วงเวลาสำคัญ ยิง 7 ประตูใน 8 นัดหลังสุดทำให้อเกวโร่ เป็นฮีโร่ในห้วงเวลาสุดดราม่าสำหรับแฟนบอลแมนเชสเตอร์โดยปริยาย
1. โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
อาจกล่าวได้ว่า กัปตันทีมดัตช์เป็นดาวเตะคนเดียวที่หลงเหลือในทีมอาร์เซนอล หลังฤดูกาลที่ผ่านมาทีมเสียนักเตะตัวหลักคนสำคัญหลายคน แฟนบอลเริ่มระส่ำระส่าย แต่ฟาน เพอร์ซี่ ที่เจ็บเล็กผสมน้อยหายหน้าไปในหลายฤดูกาลแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาคนเดียวก็เป็นอาวุธหนักที่เกินพอสำหรับเดอะกันเนอร์ส
อดีตศูนย์หน้าเฟเยนูร์ด รับภาระในการสังหารประตูด้วยบทบาทหัวหอกเดี่ยวในแดนหน้าพร้อมปลอกแขนกัปตันทีมแทนที่เชส ฟาเบรกาส อาวุธหลักและชิ้นเดียวของอาร์เซนอล กลายเป็นดาวยิงแถวหน้าของยุโรปอย่างเต็มตัว เมื่อซัลโว 37 ประตูจากการลงเล่น 47 นัดในทุกรายการ ยิงครบ 30 ประตูเป็นดาวซัลโวของลีกและรับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม 2 สถาบันหลักช่วยทีมรักษาอันดับ 3 ของตารางได้สำเร็จ
ก้าวสำคัญของ ฟาน เพอร์ซี่ คือการไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวนทำให้สลัดคราบหัวหอกยิงนกตกปลา กลายเป็นกองหน้าผู้ยิงด้วยความรู้สึก ซึ่งเห็นได้ว่า ในช่วงเวลาที่มั่นใจ หลายครั้ง ฟาน เพอร์ซี่ ทำประตูโดยไม่ต้องมองเป้าหมายเหมือนกับที่ยิงประตูชัยเชือดลิเวอร์พูล ขึ้นนั่งท็อปโฟว์ โรบินยังพัฒนาการเล่นลูกกลางอากาศให้เห็นบ้าง ควบคุมอารมณ์ดีกว่าเดิมในช่วงท้ายฤดูกาล แม้ว่าจะเป็นเวลาสั้นๆในการฝากความหวังให้เขา แต่นั่นทำให้เดอะ กันเนอร์ส เชื่อว่าพวกเขาไม่ต้องการฮีโร่จำพวกแบทแมน เพราะ พวกเขามีฮีโร่ ตัวจริงอย่าง "โรบิน" อยู่ในทีม แม้จะต้องลุ้นว่าฮีโร่ของพวกเขาจะยังพร้อมใจปฏิบัติการในชุดอาร์เซนอลต่อไปหรือไม่
และนี่คือเหล่าฮีโร่ของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุดสำหรับเหล่าตัวร้าย ติดตามเจอกันในโอกาสหน้า