ล่องแจ้ง สมรภูมินรก

 

ภาพสนามบินล่องแจ้ง (LS20A)

จุดเด่นคือเขาหินปูนท้ายสนามบิน ฐานปฎิบัติการใหญ่ของCIAและนายพลวังเปาผู้นำม้งฝ่ายขวาในลาวในอดีต

ด้าน ข้างๆคือเนิน”สกายไลน์”ที่ตั้งฐานปฎิบัติของนักรบนิรนามเสือพรานชาว ไทย ด่านหน้าของ”ล่องแจ้ง”คือสนามบิน”ซำทอง”(LS20)ซึ่งเป็ฐานหลักในการขยายการรบ เข้าไปยังทุ่งไหหิน (Plain de jars)

 

 

พรึ้ม...


เสียง เครื่องยนต์ของเครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดแบบ T-28 คำรามขึ้นมาพร้อมๆกัน สรรพสำเนียงที่อึกทึกครึกโครมกลบเสียงเครื่องยนต์ชนิดอื่นๆที่เซ็งแซ่อยู่ รอบๆข้างอย่างสิ้นเชิง มันจอดเร่งเครื่องอยู่ชั่วครู่ก็แท็กซี่ช้าๆในลักษณะแถวตอนเรียงสอง มุ่งหน้าไปยังหัวสนามบิน กลับลำ จอดอุ่นเครื่องอยู่ชั่วขณะแล้วเร่งเครื่องยนต์เต็มที่อีกครั้ง... ปลดเบรกอากาศทะยานปร้าดไปตามพื้นรันเวย์ที่ยาวเหยียดพร้อมๆกันทั้ง 4 เครื่อง มองเห็นอุปกรณ์การรบจำพวกจรวดและลูกระเบิดที่ติดตั้งอยู่ใต้ปีกอิรุงตุงนัง


ไม่ ถึงครึ่งหนึ่งของรันเวย์ เจ้าวิหคสายฟ้าทูตฤตยู 4 เครื่องก็เชิดหัวขึ้นท้องฟ้า แล้วบินเกาะหมู่ข้ามเนินสกายไลน์-วัน มุ่งหน้าไปยังสนามบินซำทองซึ่งขณะนี้ตกอยู่ในความยึดครองของทหารเวียดนาม เหนือผสมลาวแดงโดยสิ้นเชิง

 


 

เช้า วันนั้นอากาศแจ่มใสเป็นพิเศษ ชอปเปอร์ (เฮลิคอปเตอร์) จากสนามบินอุดรมาทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ คนงานแผนก A-D-S ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับการขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ขึ้นสู่แนวรบ ทยอยออกปฏิบัติงานในบริเวณสนามบินล่องแจ้ง แน่นไปหมด ทำให้บริเวน เม็นแล้ม คับแคบไปถนัดตา


เครื่อง บินลำเลียงสีเทาสลับขาว บางเครื่องก็พรางลำตัวด้วยสีเขียวลายพร้อย ติดยี่ห้อ แอร์-อเมริกา บินวนเวียนอยู่เหนือทิวเขาเสียดฟ้า รอจังหวะสนามบินว่างเพื่อขออนุญาตหอบังคับการบินลงพื้นในลำดับต่อไป

 


ไอ้ หมู หรือเครื่องบิน C-123 ซึ่งเป็นเครื่องบินลำเลียงขนาดยักษ์ โผล่พรวดมาจากร่องสันเขาบริเวณรอยต่อของเนินสกายไลน์ มันกางฐานลดเพดานบิน จนกระทั่งลูกล้อแตะพื้นรันเวย์ พร้อมกับเบรกอากาศ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ต่อจากนั้นก็ลดความเร็วลง แท็กซี่ช้าๆ เข้ามาจอด ณ บริเวน Main Ramp-เม็นแล้ม เลี้ยวซ้ายถอยหลังเอาประตูด้านท้ายซึ่งเปิดออกช้าๆ ด้วยระบบไฮโดรลิค จนกระทั่งเปิดออกเรียบสนิทเป็นแผ่นเดียวกับพื้นห้องโดยสาร

 

กลุ่ม ทหารรับจ้างซึ่งอยู่ในชุดเสือพรานทะลักออกมาจากช่องประตูพร้อมด้วย อาวุธประจำกาย และเครื่องสนามครบครัน ต่อจากนั้นก็นั่งรวมกลุ่มกัน ณ บริเวณลานจอดนั่นเอง


C-123 เครื่องที่สอง และที่สามทยอยกันแท็กซี่เข้ามาจอด ทำให้กลุ่มทหารรับจ้างเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
ใช่ แล้วครับ กองพันทหารรับจ้างจากประเทศไทยได้รับการขนย้ายเข้ามายันการรุกไล่ของกองทหาร เวียตนามเหนือที่กำลังประชิดเมืองล่องแจ้งเข้ามาทุกขณะ ใบหน้าของนักรบเหล่านั้นบางคนก็ยิ้มหัว กระเซ้าเย้าแหย่กันด้วยความคึกคะนอง บางคนก็ซึมกระทือนั่งมองท้องฟ้าอย่างไร้จุดหมาย


ผม นั่งอยู่บนรถจี้ปกับนักบินลาดตระเวนที่เพิ่งได้รับคำสั่งจาก นอร์แมน ผู้เชี่ยวชาญของ ซี.ไอ.เอ ให้ร่วมบินลาดตระเวนสนามบินซำทอง เพื่อหาข้อมูลและสภาพที่ตั้งฐานปฏิบัติการของข้าศึกประกอบเพื่อ พิจารณายุทธวิธีทิ้งระเบิดโจมตีในโอกาสต่อไป

 

ชอปเปอร์ แบบเบลส์ สองเครื่องตีวงกว้างบินลิ่วมาทางท้ายสนามบิน พอถึงบริเวณ เม็นแล้ม ก็แตะพื้นอย่างนิ่มนวล
รถจี๊ปกลางมีเครื่องหมายกากะบาทสีแดงแล่นเข้าไปจอดเทียบในทันทีทันใด


ทหาร เสือพรานที่แตกทัพจากทุ่งไหหินและซำทองที่ได้รับบาดเจ็บ แขนขาด...ขาขาด กระรุ่งกระริ่ง เลือดไหลเปรอะทั่วตัวถูกหามลงมาจากห้องโดยสาร ท่ามกลางการรุมล้อมของเหล่าทหารรับจ้าง ที่เพิ่งเดินทางมาถึงสมรภูมิลาวในเช้าวันนั้น


ทหาร รับจ้างบางคนที่ รอดจากสมรภูมินรกก็มีสภาพไม่ผิดอะไรจากซากศพ เนื้อตัวโดนทากกัดแดงเถือกไปหมด เสื้อผ้าขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี พูดจาแทบไม่เป็นภาษาคน บางคนก็ไชโยโห่ร้องกระโดดโลดเต้นตะโกนหาเพื่อนฝูงที่มาคอยรับด้วยความยินดี


คราว นี้เหมือนกับรายการสัมภาษณ์ดาราไม่ผิดเลยครับ...กลุ่มทหารรับ จ้างน้องใหม่ ต่างก็พากันเข้าไปซักไซ้ไล่เลียงเรื่องราวกับผู้ที่รอดตายด้วยท่าทางที่สนใจ แกมตื่นเต้น


พี่ครับ รบหนักไหมครับ พวกเราสูญเสียมากไหมครับ?

เสียงถามกันให้แซ่ดไปหมด ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร

ผม ไม่อยากพูดหรอกครับ อยากให้พวกคุณไปเห็นด้วยตาเอง พวกมันขึ้นมาไล่ฆ่าพวกเราถึง คูเหลด เลยทีเดียว กองร้อยผมมีทหาร 134 คน รอดกลับมาเพียง 19 คนเท่านั้นเอง


ทหาร รับจ้างที่มีบาดแผลบนใบหน้า เอ่ยตอบขึ้นมาพร้อมกับเอื้อมมือรับบุหรี่จากพวกน้องๆ ที่ส่งให้ ขึ้นไปอัดเข้าปอดสองสามครั้งด้วยความกระหาย แล้วก้าวเท้าพาตัวเองขึ้นไปบนรถพยาบาลอย่างรวดเร็ว


สารวัตร ทหารรีบไล่ กลุ่มทหารรับจ้างที่ยืนรุมล้อมกีดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่สนามบินที่ กำลังสาละวนขนหีบห่อ,กระสุน และเสบียง เรชั่น อยู่อย่างชุลมุนวุ่นวาย ทำให้กลุ่มทหารนั้นแตกฮือกลับมารวมกลุ่มกับพรรคพวกที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ ห่างๆ


สาย ตาของผมมิได้ฝาดไปหรอกครับ ทหารรับจ้างบางคนที่เคยหัวเราะเฮฮา ต่างก็พากันเงียบกริบเป็นปลิดทิ้ง ทอดสายตามองเปลสนามที่มีขวดเลือดห้อยอยู่บนเสาเล้กๆ มองเห็นสายเลือดไหลจากขวดลงสู่แขนของพวกบาดเจ็บด้วยท่าทางตกใจแกมขวัญ เสีย...


ไอ้ ปากหมา หรือเครื่องบินเครื่องยนต์เดียวสองที่นั่งแบบ L-19 แท็กซี่ช้าๆ จากโรงเก็บมายังบริเวณ เม็นแล้ม แล้วจอดเร่งเครื่องยนต์ดังสนั่นหวั่นไหว ปล่อยควันออกทางท่อไอเสียเป็นทางยาว...


สไปร้ท นักบินมือดีของ แอร์-อเมริกา หันมาตบบ่าพร้อมกับสัพยอกด้วยความคุ้นเคย
บิ๊กแมน...ไปโว้ยเพื่อน โก ทู เฮล


ผมชักเดือดปุดๆ อยู่ในใจที่สไปร๊ทมัน...ชวนผมไปลงนรกเอาดื้อๆ ก็เลยหันไปสดุดีมันด้วยคำพูดที่เคยปากว่า
บุลเชี้ยส...ขอให้ไอ้แกวล่อหำ...ให้หลุดจากพวงก็แล้วกัน...ไอ้ห่า......แช่งอยู่ได้


ผมล่อภาษาลาวปนฝรั่งท่ามกลางเสียงหัวเราะก๊ากใหญ่ของพลขับชาวแม้วที่นั่งเป็นหน้าลิงอยู่ข้างๆ
สไปร๊ท ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับผมมือผมกระโดดจาก หิ้วอุปกรณ์การบินอิรุงตุงนังมุ่งหน้าไปยัง ไอ้ปากหมา ซึ่งขณะนี้ช่างเครื่องได้ปีนลงมายืนข้างๆ พร้อมกับชูหัวแม่โป้งให้กับสไปร๊ทเหมือนกับจะส่งสัญญาณให้ทราบว่า ขณะนี้ได้เช็คเครื่องพร้อมที่จะออกทำการบินได้แล้ว


ผม และสไปร๊ทขึ้นไป นั่งบนห้องโดยสารที่คับแคบของ ไอ้ปากหมา อย่างรวดเร็ว ต่อจากนั้นสไปร๊ทก็แท็กซี่เครื่องช้าๆ ไปตามรันเวย์จนกระทั่งถึงท้ายสนามบินก็เลี้ยวเครื่องกลับ จอดนิ่งเช็คระบบคันบังคับอยู่ชั่วครู่ ก็เร่งเครื่องเต็มที่พาเจ้าปากหมาพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าลัดเลาะมุ่งทิศทางการ บินไปยัง ซำทอง ทันที

 

ภาพเมืองซำทอง


ถึงแม้ผมจะนั่งอยู่เบื้องหลังสไปร้ทก็ตาม ระบบการสื่อสารที่ติดอยู่กับหมวกนักบิน ทำให้เราทั้งสองพูดคุยกันได้อย่างสบาย


เฮ่...บิ๊ก แมน... อั๊วขอถามลื้อซักหน่อยเถอะวะ ทำไมลื้อถึงกล้ามานั่ง ไอ้ปากหมา เครื่องนี้กับอั๊วด้วย ลื้อก็รู้นี่หว่าไอ้ปากหมา เครื่องนี้ถ้าจะเปรียบมันก็เป็น เครื่องล่อเป้า ให้ข้าศึกยิงดีๆนี่เอง อั๊วสงสัยจริงๆว่ะ?


คำ สั่งและโอเวอร์ไทม์สิโว้ยพรรคพวก นอร์แมนต้องการเห็นสภาพอันแท้จริงของสนามบินซำทองและที่ตั้งปืนของข้าศึก ไอ้อั๊วมันก็ชำนาญภูมิประเทสแถบนี้แทบจะหลับตามองเห็นซะด้วย...มันก็เลยยัด เยียดตำแหน่ง ?ล่อเป้า? อันนี้ให้อั๊วพร้อมเบี้ยเลี้ยงพิเศษชั่วโมงละ 100 ดอลล่าร์ อั๊วก็เลยต้องมากับลื้อนี่แหละ เข้าใจ๋


ผม ตะโกนกรอกแก้วหู เจ้าสไปร๊ทผ่านทางเครื่อง อินเตอร์คอม จนมองเห็นมันทำคอย่น หันมาแยกเขี้ยวให้ผมพร้อมกับตะโกนผ่านวิทยุด้วยเสียงพอๆกัน

ค่อยๆพูดก็ได้โว้ย หูจะแตกตายห่า

ต่อ จากนั้น สไปร๊ทก็ดึงเครื่องเลี้ยวซ้ายโฉบฐานบังคับการของกองพันทหารรับจ้างที่ 616 ซึ่งตั้งฐานอยู่บนยอดที่สูงที่สุดของ ภูหมอก มองเห็นทหารรับจ้างสาละวนเสริมที่มั่นอย่างชุลมุนวุ่นวาย

 

เม้าส์แทร็ป เม้าส์แทรป จากสไปร๊ท
สไปร๊ทใช้วิทยุจากไอ้ปากหมา ส่งสัญญาณเรียกขานลงไปยัง F.A.G. (แฟ็ก) (ผู้นำอากาศยานหน้า - ผนอ. FAG - Foward Air Guide) ประจำกองพัน 616 ซึ่งทำหน้าที่เป็น ล่าม อยู่ ณ ฐานปฏิบัติการเบื้องล่าง

สไปร๊ทจากเม้าส์แทรป ผมได้ยินเสียงของคุณแล้วและมองเห็นคุณด้วย ระวังหน่อยนะครับ เมื่อสองชั่วโมงผมเห็นมันออกมาผึ่งลมบริเวณรันเวย์สนามบิน ขอให้โชคดี

 

 

Lima Site : LS-20 สนามบินซำทอง


เสียง แฟ็ก ประจำกองพันทหารรับจ้างที่ 616 สวนตอบขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี
ขอบคุณมาก เม้าส์แทร็ป

สไปร๊ทตะโกนตอบลงไป พร้อมกับดึงไอ้ปากหมาไต่ขึ้นระยะสูงเพื่อหลีกเลี่ยง ป.ต.อ. ขนาด 12.7 ม.ม. อันทรงอานุภาพของทหารเวียดนามเหนือ ซึ่งเคยสอยไอ้ปากหมาตัวอื่นๆปีกหักลงมาคลุกฝุ่นหลายต่อหลายลำมาแล้ว...

 

ลื้อแน่จริงบินให้ต่ำกว่านี้สิว่ะ หรือบินมันลงไปจอดชมวิวที่รันเวย์กันซัก 10 นาทีเป็นยังไง ผมตะโกนแหย่เจ้าสไปร๊ทไปอีก


จ้าง อั๊วชั่วโมงละ 1,000 ดอลล่าร์ก็เห็นจะไม่รับประทาน ขนาดบินสูงๆขนาดนี้มันก็ยังยิงเฉียดไปเฉียดมาตั้งหลายครั้ง ว่าแต่ลื้อเถอะได้ โอเวอร์ไทม์พิเศษตั้งชั่วโมงละ 100 ดอลล่าร์ เครื่องบินอั๊วบินได้เกือบ 7 ชั่วโมง ลื้อมีรายได้ตั้ง 700 ดอลล่าร์ อั๊วจะแกล้งบินถ่วงให้ลื้อจนหมดน้ำมัน แล้วลื้อแบ่งให้อั๊ว 200 ดอลล่าร์ โอเคมั้ย พรรคพวก?
นั่น แน่... ลวดลายไอ้กะล่อนสไปร๊ททำไมผมจะไม่รู้กำพืดของมัน ผมรู้แม้กระทั่งจำนวนเงินเดือนและเงินชั่วโมงบินของมันแต่ละครั้งว่ามาก มายกว่าผมอย่างเทียบกันไม่ได้ นี่มันวางแผนหลอกเล่นเงินดอลล่าร์ของผมเข้าแล้วนี่หว่า นึกเจ้บใจขึ้นมาก้เลยสวนคำพูดด่ามันออกไปทันควัน

 

สไปร๊ทเพื่อนรัก เงินเดือนของลื้อ 2,000 ดอลล่าร์ต่อเดือน ชั่วโมงบินของลื้อชั่วโมงละ 50 ดอลล่าร์ แต่ขอโทษที ลื้อมีรายได้กับชั่วโมงบินของลื้อเองไม่เว้นแต่ละวัน แล้วนี่มันเรื่องอะไรที่ลื้อจะมาไถเอาเงินที่อั๊วนานปีทีหน จะมีโอกาสฟลุคแบบนี้ ขอทีเถอะวะ ถ้าคิดจะรักกับอั๊ว ขอกันกินก็ได้นี่หว่า


ไอ้ยอดกะล่อนสไปร๊ทหัวเราะออกมาก๊ากใหญ่ๆแล้วพึมพำออกมาเบาๆ
ลื้อ นี่ช่าง...รู้เเยะจัง...อั๊วพูดเล่นน่า...เฮ้ย ระวังโน่นเห็นมั้ย ที่บริเวณหอบังคับการบินโน่น...วิ่งลงหลุมกันให้เพ่นพ่านไปหมด


เขา ชะโงกหน้าไปดู...ใช่ครับทหารเวียดนามเหนือกลุ่มเบ้อเร่อกำลังขนหีบกระสุน วิ่งหลบเครื่องบินตรวจการณ์กันเป็นจ้าละหวั่น แล้วอีกกลุ่มหนึ่งก็กำลังขุดสนามเพลาะอยู่ข้างๆสนามบินทางด้านทิศเหนือ ก็พากันเผ่นเข้าไปซุกซ่อนอยู่ภายในป่าทึบที่อยู่ข้างๆทางมองเห็นอย่างถนัด ชัดเจน

 

ทหารเวียดนามเหนือ


สไปร๊ทบินไปเรื่อยๆก็แล้วกัน อย่าบินวกกลับมาอีกเป็นอันขาด บางทีมันอาจจะคิดว่าเรามองไม่เห็นพวกมันก็อาจจะเป็นไปได้ แล้วอย่า...บินผ่านถ้ำใหญ่ที่อยู่ข้างๆสนามบินนั่นเป็นอันขาด บนยอดของมันเป็นที่ตั้ง ป.ต.อ. 12.7 ดีไม่ดีประเดี๋ยวอั๊วกับลื้อก็ต้องกระโดดร่มกันบ้างล่ะ


โอ เค บิ๊กแมน อั๊วจะบินผ่านไปทางเนิน ทันเดอร์ ซึ่งเป็นทิวเขาที่อยู่ทางหัวสนามบินอีกครั้ง อั๊วอยากรู้ว่า ไอ้ปืนใหญ่ 155 ม.ม. ของฝ่ายเรา ที่ทิ้งเอาใว้ก่อนจะถอนตัว จะอยู่หรือเปล่า หรือว่าพวกเราทำลายได้ทันก่อนถอนตัว สังเกตให้ดีนะโว้ย บางทีฟลุคๆเจอะขบวนรถถังจะได้มีงานทำกันเสียที...คืนนี้

เรื่องของทหารเสือพรานไทย ในสมรภูมิลาว งานเขียนของสยุมภู ทศพล

http://chemist2008.ning.com/forum/topics/2179300:Topic:290394

16 พ.ค. 55 เวลา 06:01 5,744 3 110
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...