ตำรวจเม็กซิโกพบศพถูกฆ่าและหั่นแยกอวัยวะ 49 ศพ ถูกยัดใส่ถุงดำนำไปทิ้งไว้ริมถนนนอกเมืองมอนเตอร์เรย์ ทางตอนเหนือของประเทศ คาดเกิดจากความขัดแย้งเรื่องยาเสพติด
ศพทั้ง 49 ศพ ที่เป็นชาย 43 ศพ และหญิง 6 ศพ ซึ่งถูกหั่นแยกอวัยวะทั้งหมด ทั้งศีรษะ แขน และขา ถูกพบในถุงพลาสติกสีดำ ซึ่งถูกนำไปทิ้งตามพื้นที่ต่างๆ ริมทางหลวงห่างจากพรมแดนสหรัฐ 180 กม.
คาดว่าทั้งหมดถูกสังหารจากความขัดแย้งเรื่องยาเสพติดกับแก๊งคู่อริ เนื่องจากพบกระดาษข้อความที่ระบุว่า พวกเขาถูกสังหารโดยแก๊งเซตาส ซึ่งเป็นแก๊งค้ายาเสพติดขนาดใหญ่ที่คอยควบคุมเส้นทางค้ายาเสพติดที่ถูก ลำเลียงไปยังสหรัฐฯ
ศพถูกพบเมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ที่เขตคาเดเรย์ตา บนเส้นทางจากเมืองมอนเทอร์เรย์มุ่งหน้าเมืองเรย์โนซาบริเวณพรมแดนติดกับ สหรัฐฯ เชื่อว่าศพถูกนำมาทิ้งจากพื้นที่อื่นโดยรถบรรทุกและถูกสังหารมาแล้วกว่า 2 วัน
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เพิ่งมีการพบศพถูกหั่นแยกอวัยวะและตัดศีรษะ 18 ศพยัดใส่รถหลายคันในเมืองทางตะวันตกของประเทศ และมีศพอีก 23 ศพ โดยกว่า 14 ศพ ถูกตัดศีรษะและชำแหละ และนำไปทิ้งในเมืองนูเอโว ลาเรโด
ประธานาธิบดีเฟลิเป คาลเดอรอน กล่าวว่า การแก้ปัญหาแก๊งค้ายาเสพติดคืบหน้ากว่าเดิม มีการจับตัวหัวหน้าแก๊งรายใหญ่ได้หลายรายแต่ยอมรับว่าการก่ออาชญากรรมบนท้อง ถนน ยังไม่ลดลงตามที่ตั้งเป้าตามที่ตั้งเป้า และนับตั้งแต่นั้น มีผู้ถูกสังหารในคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแล้วกว่า 50,000 ราย