พบศพถูกตัดศีรษะและมือยัดใส่ถุงดำนำมาทิ้งข้างถนนทางภาคเหนือของ
เม็กซิโก ถึง 49 ศพ เบื้องต้นสันนิษฐานเป็นการฆ่ากันเองระหว่างแก๊งค้ายาเสพติด
พบศพที่ข้างทางหลวงในเขตเทศบาลแหงหนึ่งของรัฐมอนเทอเร่ย์ เมืองอุตสาหกรรมทาง
ภาคเหนือของเม็กซิโก โดยอยู่ห่างจากชายแดนสหรัฐฯ 180 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่เม็กซิโก
แถลงว่ามีศพทิ้งสิ้น 49 ศพ แยกเป็นชาย 43 คน และหญิง 6 คน ซึ่งทุกศพล้วนถูกตัด
ศีรษะ และมือแล้วยัดใส่ถุงดำก่อนนำมาทิ้ง
โดยสันนิษฐานว่าถูกฆ่ามาจากที่อื่นก่อนหน้านี้ 2 วัน ซึ่งระหว่างนี้เจ้าหน้าที่กำลังพยายาม
ตรวจสอบเอกลักษณ์ว่าเป็นใครมาจากไหน แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เบื้องต้น
สันนิษฐานว่าเป็นผู้อพยพเข้าเมืองจากประเทศอเมริกากลาง ทั้งนี้ที่ศพยังศพเศษกระดาษ
เขียนข้อความว่า แก๊ง เซตาส ซึ่งเป็นแก๊งค้ายาเสพติดเป็นผู้สังหาร
พื้นที่ภาคเหนือของเม็กซิโกมีแก๊งค้ายาเสพติดสำคัญๆ คือ กลุ่มเซตาส, กลุ่มกัลฟ์ และ
กลุ่มซินาโลอา ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ทั้ง 3 กลุ่มได้ห้ำหั่นกันเพื่อแย่งชิงการควบคุมเส้น
ทางลักลอบขนยาเสพติดเข้าไปในสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ 2 วันก็มีการพบศพถูกสังหาร
และตัดอวัยวะแบบนี้ในพื้นที่ทางภาคตะวันตกของเม็กซิโก จำนวน 18 ศพ และเมื่อต้น
เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็พบศพ 23 ศพถูกนำมาทิ้งในเมืองชายแดนที่ติดกับสหรัฐ ซึ่ง
14 ศพถูกตัดศีรษะ
นับตั้งแต่ประธานาธิบดีเฟลิเป้ คาลเดร่อน ประกาศสงครามกวาดล้างแก๊งยาเสพติดของ
เม็กซิโกเมื่อปีพุทธศักราช 2549 จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วประมาณ 50,000 คน